ล่าข้ามทวีป สาวปลอมไลน์หลอกยืมเงินทั่วยุโรป เหยื่อเพียบสูญนับสิบล้านบาท
สาวเจ้าของบัญชีที่หลอกให้เหยื่อทั่วยุโรปโอนเงินมาให้เสียหายนับสิบล้านบาท ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ หลังเหยื่อ 2 รายบินข้ามทวีปมาเอาเรื่อง
ความคืบหน้ากรณี นางจีรานุช เจ้าของกิจการค้าขายปลาร้าเขยลาว อยู่ประเทศฮอลแลนด์ ซึ่งบินกลับประเทศไทยมาดำเนินคดีกับผู้ปลอมไลน์อ้างเป็นลูกขอเงินจำนวน 48,000 บาท และเหยื่ออีกราย นางณัฐฐาริการ์ ที่ถูกมิจฉาชีพปลอมเป็นตนเอง แชทติดต่อญาติจนต้องนำทองคำไปจำนำ เพื่อโอนเงินไปให้ 147,000 บาท และยังพบว่าเครือข่ายนี้ได้ใช้พฤติกรรมแบบนี้ยังบรรดาญาติๆของหญิงไทย ที่มีสามีในกลุ่มประเทศ นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ฮอลแลนด์ จนต้องเสียเงินไปจำนวนนับสิบล้านบาท
ล่าสุด (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งสองคนได้แจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.ธณรณ เหล่าเขตกิจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.แม่เปิน อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นางอรนันท์ เจ้าของบัญชีที่หลอกให้เหยื่อโอนเงินมาให้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้บุกไปควบคุมตัวนางอรนันท์ที่บ้านพักมาเพื่อนำตัวมาสอบปากคำ แต่ผู้ถูกกล่าวหาไหวตัวทันหลบออกจากบ้านพักไปได้หวุดหวิด โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมาเพื่อสอบปากคำเป็นการด่วนแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่ สภ.แม่เปิน ทราบว่า คดีดังกล่าวเป็นเครือข่ายใหญ่ มีการเชื่อมโยงเป็นขบวนการ โดยนางอรนันท์ที่อยู่อำเภอแม่เปิน จ.นครสวรรค์ เป็นเพียงเครือข่ายย่อยที่ใช้เป็นเจ้าของบัญชีเปิดไว้เพื่อให้โอนเงินมาบางส่วนเท่านั้น ส่วนเครือข่ายใหญ่จะอยู่ในภาคอีสาน แถวจังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด
พฤติกรรมคนร้ายส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับบรรดาสาวไทย ที่มีสามีเป็นชาวต่างประเทศและอยู่ต่างประเทศ จากนั้นจะนำรูปของผู้หญิงที่อยู่ในต่างประเทศมาตั้งเป็นรูปหน้าไลน์ตัวเอง เพื่อส่งหลอกยังญาติพี่น้องของหญิงไทยให้โอนเงินมาให้ ซึ่งหากบรรดาญาติที่อยู่ประเทศไทยไม่ได้ตรวจสอบไปยังคนที่อยู่ต่างประเทศ หรือตรวจสอบไม่ทันก็โอนเงินกลับไป พบว่ามีเหยื่อถูกหลอกลักษณะนี้จำนวนมาก
ขณะเดียวกัน นางอรนันท์ พบว่ามีประวัติเคยค้ายาเสพติด และคดีในลักษณะหลอกลวงเอาทรัพย์ แต่คดีทั้ง 2 ได้สิ้นสุดแล้ว เนื่องจากคดีค้ายาเสพติดได้ชดใช้กรรมจนพ้นโทษออกมาแล้ว ส่วนอีกคดีมีการชดใช้ทรัพย์สินคืนผู้เสียหายจนยอมความกันไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวเดินทางยังบ้านของนางอรนันท์ ตั้งอยู่หมู่14 ตำบลแม่เปินสภาพเป็นบ้านปูนชั้นเดียว กำลังต่อเติมก่อสร้างหน้าบ้าน พบกับ นายคำมี อายุ 59 ปี นางทองมุ่ม อายุ 53 ปี พ่อ และแม่ และนายอานนท์ อายุ 36 ปี พี่ชายของนางอรนันท์ ที่หลบหนีไปได้ สภาพบ้าน สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านไม่มีมากนักฐานะไม่ค่อยดีมากนัก
นายอานนท์ พี่ชายของนางอรนันท์ กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทราบจากข่าวว่าน้องสาวไปหลอกเงินในลักษณะดังกล่าวจริง แต่ทราบจากสื่อเท่านั้น เพราะว่ายังไม่พบหน้าหรือพูดคุยกับนางอรนันท์เลย ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวตนด้วย เพราะว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ขณะนี้พ่อแม่ก็เครียดกับข่าวที่เกิดขึ้น และนำเงินสดจำนวน 3 หมื่นบาท โอนกลับคืนไปยังผู้เสียหายแล้ว
นายอานนท์กล่าวอีกว่า เมื่อไม่นานมานี้สามีของนางอรนันท์เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมาไม่กี่วัน เชื่อว่าน้องสาวคงหนีไปยังสถานที่ใดสถานที่หนึ่งกับสามีแล้ว ที่ผ่านมาน้องสาวก็มีเงินมาให้พ่อแม่ใช้จ่ายบ้างไม่มากนัก ครั้ง 5-6 พันบาท ส่วนตนนั้นมีอาชีพรับเหมาก็พอเลี้ยงครอบครัวได้
ตนยอมรับว่าไม่ชอบพฤติกรรมน้องสาวและน้องเขย เมื่อเจอหน้ากันจึงจะมีอารมณ์โต้เถียงกันเป็นประจำ ทั้งสองคนจึงไม่กล้าที่จะมาเจอหน้าตน เวลานี้เป็นห่วงเพียงพ่อและแม่ที่อายุมาก เริ่มเครียดกลัวจะล้มป่วย จึงขอร้องให้น้องสาวออกมาเจรจาหรือต่อสู้คดีตามกฎหมายต่อไป