เริ่มแล้ว! ฝ่ายค้านซักฟอกถวายสัตย์ ขอจบ 6 โมงเย็น-นายกฯ หน้านิ่งพร้อมแจง

นายกฯ เข้าสภาร่วมอภิปรายทั่วไปถวายสัตย์ไม่ครบ สีหน้าเรียบเฉย พยักหน้ารับทักทายสื่อ - ประธานวิปฝ่ายค้าน ยอมรับต้องปรับจำนวนคน-เวลาอภิปราย เหลือแค่ 18.00 น. ขอฝ่ายรัฐบาลอย่าตีรวน

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ วันสุดท้ายของสมัยประชุมฯ เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีนายชวน หลีกภัย ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงรัฐสภาแล้ว เมื่อสอบถามว่า นายกรัฐมนตรี พร้อมชี้แจงหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีมีสีหน้าเรียบเฉย และพยักหน้ารับก่อนขึ้นห้องประชุมไป

ทั้งนี้ ฝ่ายค้านได้จัดขุนพลอภิปรายไว้ 15 คน อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ จากพรรคเพื่อไทยขณะที่พรรคอนาคตใหม่ มี นายปิยบุตร แสงกนกกุล นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล นายคารม พลพรกลาง ส่วนพรรคประชาชาติ มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เช่นเดียวกับพรรคเสรีรวมไทย มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

สำหรับการอภิปรายวันนี้ แบ่งเป็น 2 ทีม ทีมแรกจัดให้นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.อนาคตใหม่ อดีตนักกฎหมายมหาชน เป็นผู้เปิดปมรัฐบาลถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ส่วนพรรคเพื่อไทย ส่งนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เสริมในเรื่องความชอบธรรมทางการเมือง

ส่วนประเด็นการอภิปรายเรื่องการแถลงนโยบาย ฝ่ายค้านได้มี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อภิปรายหลัก โดยเน้นเรื่องเศรษฐกิจและการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ซึ่งฝ่ายค้านได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคน มาลงชื่อร่วมประชุมก่อนเวลาประชุม เพื่อเป็นการกดดัน ส.ส.พรรครัฐบาลด้วย

ทางด้าน นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในประเด็นการถวายสัตย์ฯ และเสนองบประมาณโดยไม่มีรายละเอียดที่มาของบในวันนี้ว่า ฝ่ายค้านจำเป็นต้องปรับเวลาการอภิปรายใหม่จากเดิมที่จะอภิปรายถึง 24.00 น. เป็นอภิปรายในเวลา 09.30-18.00 น. เพราะได้ทราบว่ามีพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศล ซึ่งคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า จะต้องไปร่วมพิธี และฝ่ายค้านเห็นว่าพิธีดังกล่าวเป็นพิธีสำคัญที่ทุกคนควรจะได้น้อมใจถวายเป็นพระราชกุศล

ดังนั้นต้องปรับจำนวนคนอภิปรายและเวลาลดลงมา เนื้อหาการอภิปรายจะต้องกระชับขึ้น ดังนั้น จึงอยากฝ่ายไป ส.ส. รัฐบาลว่าอย่าตีรวนให้เสียเวลา เพราะฝ่ายค้านได้เวลาน้อยอยู่แล้ว เนื่องจากทราบว่าจะมีการตีรวนด้วยการลงชื่อประชุมช้า จะหยิบยกประเด็นว่าฝ่ายค้านอภิปรายได้หรือไม่ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประท้วงว่านอกประเด็น จนถึงการเสนอประชุมลับ

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ไม่มีเหตุผลอะไรต้องประชุมลับ และที่รัฐบาลกังวลว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายไปถึงสถาบันก็ยืนยันว่า ยังไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะพูดถึงตรงนั้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลไม่ควรปิดให้ประชุมลับเป็นบางช่วง เพราะจะทำให้ประชาชนเสียโอกาส หากเป็นเช่นนี้ ฝ่ายค้านคงรับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม มาตรการการ

ประท้วงโดยเดินออกจากห้องประชุม หรือวอล์กเอ้าท์ จะเป็นมาตรการสุดท้ายที่ฝ่ายค้านจะทำ เพราะความจริงแล้วยังอยากพูดในสภา