"มุกดา นรินทร์รักษ์" กว่าจะเป็นดาวได้เป็นนางเอก ชีวิตเคยโลดแล่นคนเดียวที่ญี่ปุ่น
เป็นนักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองสุดๆ สำหรับสาว มุก-มุกดา นรินทร์รักษ์ นางเอกหน้าหวานขวัญใจแฟนละคร ที่ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศเวทีประกวดสาววัยใส มิสทีนไทยแลนด์ 2011 และด้วยหน้าตาที่มีเสน่ห์ ฝีมือการแสดงที่สามารถพาแฟนๆ อินได้ในทุกเรื่อง เธอจึงมีแฟนคลับคอยสนับสนุนและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอนว่าเส้นทางในวงการบันเทิงย่อมไม่มีอะไรที่ราบรื่นเสมอไป เพราะตั้งแต่เข้าวงการเธอก็ถูกข่าวเมาท์ว่าเป็นสาวสวยที่มีความหยิ่งระดับตัวแม่ แถมยังถูกมองว่าเป็นนางเอกที่เข้ามาพร้อมกับหนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ งานนี้พลาดไม่ได้ เราจึงต้องขอแบ่งเวลาคิวที่แน่นเอี้ยดของสาวมุกดา เพื่อนั่งพูดคุยเปิดใจถึงทุกเรื่องราวในชีวิตของเธอสักหน่อย
ตอนนี้มีผลงานอะไรให้แฟนๆ ติดตามบ้าง
"ช่วงนี้คิวถ่ายละครค่อนข้างแน่นค่ะ ถ่ายละครแทบทุกวัน ล่าสุดเพิ่งปิดกล้องเรื่อง “มธุรสโลกันตร์” ไป ใกล้ลงจอแล้ว เรื่องนี้รับบทเป็น "เพชรน้ำผึ้ง" คาแร็กเตอร์ก็จะเป็นผู้ดีหน่อย เป็นหม่อมหลวง (หัวเราะ) พ่อ แม่ เลี้ยงประคบประหงมมาตลอดทำให้เขาอยู่ในโลกที่เขารู้สึกว่ามันอึดอัด เลยวาดฝันว่าวันนึงอยากออกไปผจญภัยในโลกกว้างบ้าง แต่ไปๆ มาๆ โดนบังคับให้แต่งงาน ก็เลยวางแผนขอให้ว่าที่คู่หมั้นล้มเลิกงานแต่งงานและหนีออกจากบ้าน หลังจากนั้นเรื่องราวต่างๆ ก็เกิดขึ้น สนุกเข้มข้นมากค่ะ อยากให้ติดตามกัน จะลงจอออนแอร์ 28 ก.ย. นี้ค่ะ"
สาวน้อยสุดแสนจะเรียบร้อยในละคร แต่ชีวิตจริงถูกเมาท์ว่าหยิ่งตัวแม่
“ใช่ค่ะ จริงๆ เรื่องนี้มุกโดนว่ามาเยอะมาก จำได้ว่าโดนมาตั้งแต่เรียน ม.ต้น (หัวเราะ) ตอนนั้นเลยมีเพื่อนสนิทแค่ 4-5 คน จริงๆ คนจะไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ เพราะมุกเป็นคนหน้านิ่ง นิ่งไม่พอ หน้าดุด้วย บวกกับจริงๆ เป็นคนที่ไม่กล้าคุยกับใครก่อน เข้าหาคนไม่เก่ง ถ้าเขาไม่คุยกับเราก่อนสักสามสี่ประโยค เราก็ไม่กล้าเริ่มคุย ก็อาจจะแค่ยิ้มแล้วผ่านไป แต่ถ้าสนิทก็จะปล่อยเต็มที่มาก จะคุยด้วยทั้งวัน พูดไม่หยุด จริงๆ มุกแค่ เป็นคนคุยไม่เก่งมากๆ แต่ถามว่าหยิ่งไหม มุกไม่ได้หยิ่ง แค่กลัวการพูดกับคนอื่นตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กพูดน้อยมากๆ และไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงกับใคร”
"มุกไม่โกรธเวลามีคนว่ามุกว่าหยิ่ง แค่คิดในใจว่าบางคนยังไม่เคยคุยกับเราสักคำเลยแต่คุณสามารถรู้ว่าเราเป็นยังไงได้มากขนาดนี้มุกถือว่าคุณเก่ง เราเองก็โอเค ไม่เป็นไร ปล่อยไป เลือกที่จะมองแค่คนที่เข้าใจเรา เพราะจริงๆ ก็มีคนที่เขาเข้ามาพูดแทนเราเหมือนกันว่า ไม่เคยเจอน้องเขาเลย ไม่เคยพูดคุยกัน รู้ได้ยังไงว่าน้องเขาหยิ่ง เชื่อว่าวันนึงคนที่เคยเจอ เคยสัมผัสเราจริงๆ เขาจะช่วยอธิบายแทนเราเอง แต่จะให้มานั่งยิ้ม นั่งตอบคำถามให้ทุกคำถามมุกว่ามุกอาจจะเป็นโรคซึมเศร้า(หัวเราะ) แต่สิ่งไหนที่ถูกวิจารณ์มาแล้วเรามองว่าเราเป็นแบบนั้นจริงมุกก็ยินดีที่จะนำมาปรับ มาแก้ไข พัฒนาตัวเองอยู่แล้ว เพราะเราเองก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าไม่สนใจอะไรเลย มุกว่ามุกก็อยู่บนพื้นฐานคนทั่วไป เพียงแต่ว่ามาเป็นคนของสังคมก็ไม่แปลกที่คนอาจจะคาดหวังค่ะ”
เบื้องหลังความสำเร็จที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
"คนอาจจะมองว่ามุกมาอยู่ตรงนี้แบบง่ายๆ แต่จริงๆ มันไม่ง่ายหรอกค่ะ มุกผ่านสเต็ปอะไรมาเยอะมากในชีวิต ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็เข้ามาเป็นนางเอกเลย เส้นทางของมุกไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มุกเริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 15 ปี ช่วงอายุ 16-18 มุกแทบจะไม่มีอะไรเลย กว่าจะมาอยู่กับช่อง 7 มุกไปอยู่ญี่ปุ่นมา 3 ปี เพื่อเป็นนางแบบแลกเปลี่ยน ก่อนไปญี่ปุ่น มุกเข้าไปแคสที่ช่องมาหลายรอบมากแต่ก็ยังไมได้ เพราะตอนนั้นเรื่องแอคติ้งเรายังไม่ได้ หุ่นก็ยังไม่ได้ ตอนนั้นอ้วน(หัวเราะ) และตอนนั้นยังมีความเป็นเด็กผมสั้น รวมถึงเรื่องเสียงก็ยังไม่ได้ พูดไม่ชัด ติดสำเนียงใต้ พออายุ 16 ก็เข้าไปแคสอีกซึ่งก็ยังไม่ได้ บังเอิญตอนนั้นทางญี่ปุ่นเข้ามาแคสหานางแบบเราก็แคสแล้วจับพลัดจับผลูได้ไปทางโน้น ไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น”
"ชีวิตที่ญี่ปุ่นก็ดีค่ะ แต่ลำบากที่ว่าเราเหนื่อยมาก เพราะเราไปอยู่คนเดียว เขาห้าม พ่อ แม่ พี่น้องหรือญาติจากไทยไปกับเราด้วย ตอนแรกที่ไปเราไม่คิดอะไรเลย แต่พอไปอยู่วันแรกเท่านั้นแหละ รู้เลยค่ะ ตอนเราอยู่ไทยเรามีคนทำให้ทุกอย่าง มีคนไปซื้อของให้ ซักผ้า รีดผ้า ทำกับข้าว เก็บเตียง แต่พอไปอยู่โน่นเราต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมด ตอนนั้นสิ่งที่รู้สึกคือสิ่งที่เราไม่เคยคิดมาก่อนตอนอยู่ไทย คือ ตอนอยู่ไทยเราสบายเนาะ (หัวเราะ) และไม่ใช่แค่นั้น มีเรื่องการบริหารเวลา เรียนภาษา ดูแผนที่นั่งรถบัส บวกกับข้อกำหนดอะไรเยอะแยะมากมาย ทำให้เราเรียนรู้การใช้ชีวิตเยอะมาก อย่างเด็กบางคนถ้าไม่ได้ไปใช้ชีวิตคนเดียวก็อาจจะไม่รู้ว่าชีวิตที่ไม่มีพ่อแม่คอยโอบอุ้มไว้มันเป็นยังไง เราต้องบาลานซ์ทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวเองให้ได้"
"การทำงานที่โน่นก็ไมีมีอะไรง่ายเลย เขามีข้อกำหนด มีระยะเวลาที่กำหนดไว้เป๊ะมาก การทำงานจริงจัง เครียดมาก เขาจะไม่ยอมให้เวลาในการทำงานเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ถ้าตอนนั้นไม่ได้งานช่อง 7 ก็คงอยู่ญี่ปุ่ต่อ แต่บังเอิญว่ามุกกลับมาต่อวีซ่าที่ไทยแล้วพี่ที่ช่อง 7 เขาบอกว่าช่องเรียกไปแคสและสุดท้ายก็ได้ร่วมงานกับช่อง หลังจากนั้นก็มีละครมาเรื่อยๆ จนปัจุบันค่ะ"
เรื่องความรักก็โดนจับตามองเยอะ ตกเป็นข่าวกับ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ ขอเคลียร์ชัดๆ ว่าสรุปแล้วมีโอกาสไหม
“เราเป็นแค่พี่น้องที่ไปถ่ายรายการด้วยกัน ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ค่ะ แล้วก็ไม่มีโอกาสพัฒนาด้วย”
"ส่วนเรื่องคนคุยก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆ เราเองก็เปิดโอกาสให้คุยนะ คุยทีละคนแต่ว่ามุกเป็นคนชัดเจน ถ้าคุยแล้วไม่โอเคหรือทัศนคติไม่ตรงกันก็เลือกที่จะไม่คุยต่อ อย่างเรื่องการเปิดตัว จริงๆ ถ้าเราคุยแล้วยังไม่รู้สึกว่าเขาใช่จริงๆ เราก็ไม่เปิดตัวอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทำให้เรารู้สึกอยากจะเปิด อีกอย่างคือเรื่องความรักสำหรับมุกยังเป็นเรื่องรองจากการทำงานค่ะ"
"มุกชอบคนที่โตกว่า มีความคิด หรือ ทัศนคติเป็นผู้ใหญ่ อยากคบกับคนที่ผ่านโลกมาและรู้ว่าในสถานการณ์ต่างๆ ต้องทำยังไง มีภาวะความเป็นผู้นำพาเราให้โตขึ้นไม่ใช่พาเราเด็กลงเรื่อยๆ หรือ ง๊องแง๊งไปเรื่อยค่ะ"
เคลียร์แบบตรงไปตรงมาสมกับเป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง ยังไงแฟนๆ สาวคนนี้ก็ส่งแรงใจมากันอย่าให้แผ่ว รับรองว่าเธอมีผลงานดีๆมีคุณภาพมาฝากอีกเพียบแน่นอน
>>"มุกดา" เฉลยสถานะ "เจ ชนาธิป" หลังฝ่ายชายประกาศ ไม่โสดแล้ว
อัลบั้มภาพ 34 ภาพ