สาวทุกข์ระทม คลินิกศัลยกรรมทำหัวนมเน่าทั้ง 2 ข้าง เครียดจนคิดฆ่าตัวตาย

(18 ก.ย.62) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย พร้อมนายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความนำหลักฐานเดินทางเข้าพบ ทต.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมส่งเสริมบริการสุขภาพ นายสาโรจน์ ยอดประดิษฐ์ หัวหน้าศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรมส่งเสริมบริการสุขภาพ ยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง ตรวจสอบแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ร่วมทำการผ่าตัดว่ามีใบอนุญาตและได้มาตรฐานตามกฎกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ หลังทำศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกผิดพลาดทำให้หัวนมเสื่อมสลายทั้ง 2 ข้าง จนไม่สามารถให้นมบุตรได้ในอนาคต

จากการสอบถาม น.ส.บี (นามนมมุติ) ผู้เสียหาย ทราบว่า หลังมีบุตรตนหน้าอกหย่อนคล้อยจึงได้เข้าทำการแก้ไขที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง เพื่อยกกระชับและย้ายปานนม ในราคา 70,000 บาท เมื่อวันที่ 13 ส.ค.62 หลังผ่าตัดได้เดินทางเข้าไปตัดไหม ตนพบว่าจุกนมและปานนมดำ ไม่เป็นรูป ซึ่งทางคลินิกแจ้งว่าเป็นเรื่องปกติ

จนกระทั่งวันที่ 3 ก.ย.62 เข้าพบแพทย์เพื่อล้างแผลและตรวจอาการ แพทย์ได้ฉีดยาชาและเลาะแผลกับจุกนมออกโดยไม่บอก จนกลับมาล้างแผลที่บ้านเองจึงทราบว่าไม่มีจุกนม ตนตกใจและเสียใจมาก ได้มีการคุยกับทางคลินิกและแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเพื่อหาความรับผิดชอบ แต่ตกลงกันไม่ได้และให้ไปฟ้องร้องเอา ด้านแพทย์ไม่เคยโทรมาสอบถามอาการหรือขอโทษใดๆ ปัจจุบันไม่มีจุกนมทั้งสองข้าง ทำให้สภาพจิตใจย้ำแย่เครียดจากโรคซึมเศร้าจนคิดฆ่าตัวตาย มีการไปปรึกษาแพทย์ท่านอื่นเพื่อให้แก้ไขทำจุกนมขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่สามารถใช้ให้นมบุตรได้และจะไม่มีความรู้สึก จึงเดินทางเข้าร้องเรียนที่ สบส. เพื่อขอให้ตรวจสอบคลินิก แพทย์และเจ้าหน้าที่ว่ามีใบอนุญาตถูกต้องไหม คลินิกได้มาตรฐานไหม พร้อมทั้งเรียกร้องค่าเสียหายจากการทำศัลยกรรมผิดพลาดจำนวน 2 ล้านบาท

นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ที่มายื่นเรื่องอยากให้ทาง สบส. เข้ามาช่วยเหลือในการตรวจสอบ สถานบริการ ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ จดทะเบียนโดยชอบไหม และการรักษาเป็นไปตามมาตรฐานหรือเปล่า ทางด้านคดีหลังจากมีการแจ้งความร้องทุกข์ไป พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ดำเนินการออกหมายเรียก เนื่องจากรอผลแพทย์ ว่าบาดเจ็บถึงขั้นสาหัสหรือไม่ จากนั้นจะทำการตั้งข้อหาต่อไป โดยได้แจ้งความไว้ที่ สน.สุทธิสาร คดีนี้ผู้เสียหายจะฟ้องทั้งแพ่งและอาญา สำหรับข้อหาในเบื้องต้นเป็นเรื่องความประมาท สำหรับทางแพ่ง จะฟ้องในข้อหาละเมิด โดยจะฟ้องทั้งสถานประกอบการและแพทย์ที่ทำการผ่าตัด

ทต.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมส่งเสริมบริการสุขภาพ กล่าวว่า เบื้องต้นกรม สบส.จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งตัวคลินิก เครื่องมือ และแพทย์ที่ให้บริการ รวมทั้งเทคนิคและมาตรฐานทางการแพทย์ โดยตรวจสอบไปยังสภาที่เกี่ยวข้อง หลังจากทราบเรื่องนี้ ทาง สบส.ได้ลงไปตรวจสอบที่พื้นที่แล้วแต่คลินิกปิดบริการ

หลังจากนี้จะลงไปตรวจสอบอีกรอบและถ้ายังปิดอยู่อีกจะเชิญผู้ดำเนินการ ผู้ประกอบการมาให้ข้อมูล ทาง สบส.จะให้อนุกรรมกาตรวจสอบทุกด้านอย่างละเอียดเพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่าย สำหรับในกาผ่าตัดต้องมีการเซ็นต์ใบยินยอมเพื่อให้เข้าใจในส่วนการรักษา ถึงจะมีการเซ็นต์ก็ต้องตรวจสอบมาตรฐานการรักษาอยู่ดี สำหรับเรื่องแพทย์จะทำการประสานไปยังแพทยสภาว่ามีใบอนุญาตและมีความชำนาญด้านนี้หรือไม่ ระยะเวลาในการตรวจสอบไม่นานได้มีการพูดคุยกันไปเบื้องต้นข้างแล้ว