หวัด09ตายรายที่7น่าห่วง แยกไม่ออกหวัดปกติ

หวัด09ตายรายที่7น่าห่วง แยกไม่ออกหวัดปกติ

หวัด09ตายรายที่7น่าห่วง แยกไม่ออกหวัดปกติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หวัด 2009 ตายอีกเป็นรายที่ 7 เป็นหญิงอายุ 37 ปีที่ราชบุรี น่าห่วงเพราะไม่ได้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง แยกไม่ออกกับหวัดปกติ เฝ้าดู 2วันถึงรู้ผล ยอดติดเชื้อเพิ่ม 134 ราย รวมสะสม 1,845 ราย วันเดียวเป็นนักเรียน 115 ราย วิทยา จี้รพ.ทั่วประเทศดูแลผู้ป่วยเต็มที่ ลั่นเพิกเฉยดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด โพลระบุช่วงหยุดยาว คนไม่กล้าออกบ้าน-ไปตจว. งดดูหนัง-เดินตลาด

ตายรายที่7 หญิงวัย37ที่ราชบุรี น่าห่วง2วันถึงแยกออกเป็นหวัด09

คนไทยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิตในประเทศไทยเป็นรายที่ 7 โดยนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ว่าผู้หญิง อายุ 37 ปี อยู่ที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เริ่มมีอาการไข้ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ก่อนเสียชีวิตในเวลา 20.00 น.วันที่ 3 กรกฎาคม โดยมีอาการปอดติดเชื้อ

"หญิงผู้เสียชีวิตรายนี้ไม่ได้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง เป็นรายที่เพิ่งค้นพบแล้วเสียชีวิต ซึ่งต้องเข้าใจว่า ผู้ป่วยที่เข้ามารักษาด้วยอาการหวัดตามฤดูกาล และหวัด 2009 นั้น อาการแทบจะแยกไม่ออก ต้องเฝ้าดูผลอย่างน้อย 2 วัน ซึ่งต่อไป สธ.จะมีการรวบรวมกรณีผู้เสียชีวิตจากเชื้อหวัด 2009 ในแต่ละราย เพื่อนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป เนื่องจากผู้ตายส่วนใหญ่มีอาการปอดติดเชื้อ ซึ่งเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ" นายมานิต กล่าวและว่า ล่าสุดยังมีผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังและมีอาการน่าเป็นห่วงอีก 2 ราย คือ รายแรก อายุประมาณ 80 ปี ส่วนรายที่ 2 มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ซึ่งทั้ง 2 คน อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

ติดจากคนที่บ้าน เชื้อเข้าทางจมูกทำปอดติดเชื้อแทรกซ้อน

รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติทิพยสุนนท์ คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ และวิชาการ สธ. กล่าวว่า เพิ่งทราบว่ามีผู้เสียชีวิตรายที่ 7 เมื่อคืนวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีอาการปอดติดเชื้อแทรกซ้อน เนื่องจากเชื้อเข้าทางโพรงจมูก และลงสู่ปอดอย่างรวดเร็ว โดยสาเหตุของการติดเชื้อ คาดว่า จะติดจากคนในบ้าน

ขณะที่ นพ.สมชัย นิจพาณิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ผู้ใกล้ชิดกับผู้ตาย จำนวน 6 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่ 2009 โดยอยู่ในข่ายที่ สธ.เฝ้าระวังได้

ยอดติดเชื้อพุ่ง 1,845 ราย นักเรียนเพิ่มวันเดียว115

ก่อนหน้านี้ เวลา 09.45 น. วันเดียวกัน นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. นำเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิตใหม่) สถานีรถไฟหัวลำโพง และห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เพื่อรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยแจกสมุดปกเขียวแนะนำการปฏิบัติตัวและป้องกันแก่ประชาชนที่เตรียมตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคมนี้

นายวิทยา กล่าวว่า ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหม่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 134 ราย ในจำนวนนี้เป็นนักเรียน 115 ราย ส่งผลให้ประเทศไทยมีตัวเลขผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,845 ราย เสียชีวิต 6 ราย และรักษาหายหรืออาการดีขึ้น 1,748 ราย แต่ยังมีผู้ป่วยเฝ้าระวังในโรงพยาบาล เนื่องจากอาการน่าเป็นห่วงประมาณ 10 ราย

จี้รพ.ทั่วปท.ดูผู้ป่วยเต็มที่ เพิกเฉยดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

"วันนี้ สธ. และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกันเร่งรณรงค์การป้องกันการติดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ตามสถานีขนส่ง เนื่องจากเป็นวันที่มีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของโรค ไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดมากที่สุด ดังนั้น เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผมได้มอบหมายให้ นพ.ปราชญ์ ประสานไปยังโรงพยาบาลสังกัด สธ. และโรงพยาบาลเอกชน ทั่วประเทศ ให้เตรียมความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยทุกคนที่เข้าข่ายได้รับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้ได้รับการอำนวยความสะดวกในการรักษาอย่างเข้มงวด และรายงานให้ สธ.รับทราบ"นายวิทยากล่าว

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ป่วยโรคอ้วนที่พบว่ามีอัตราการแพร่กระจายของโรคในคนกลุ่มนี้มากขึ้น และเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อดังกล่าวอย่างหนัก ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าโรงพยาบาลใด ไม่ใส่ใจผู้ป่วย โดยเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว สธ.จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการขั้นเด็ดขาด" นายวิทยา กล่าวและว่า ล่าสุดมีเด็กจากต่างจังหวัดติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 หลังจากไปชมคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ จึงได้ประสานไปยังรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้รณรงค์แจกหน้ากากอนามัยที่บริเวณหน้าลานคอนเสิร์ต เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวอาจมีการแสดงอีกหลายเวที และฝากถึงผู้ปกครองขอให้บุตรหลานหยุดเรียนกวดวิชาในช่วงวันหยุดยาว 5 วันนี้ เพื่อเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาด เนื่องจากเด็กถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในขณะนี้

ญี่ปุ่นเจอดื้อยา"โอเซลทามิเวียร์"ราย2ของโลก

ส่วนกรณีในต่างประเทศมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เกิดอาการดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ โดยรายที่ 2 ของโลก อยู่ที่นครโอซาก้า และถือเป็นรายแรกของประเทศญี่ปุ่นนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ในส่วนของปนระเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใดดื้อยา แต่ก็จะระมัดระวังในการใช้ยาต้านไวรัส โดยขอคำแนะนำจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังไปร่วมทำความสะอาดวัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร ว่า หากหน่วยงานใดติดต่อร้องขอให้ กทม.เข้าไปทำความสะอาดพื้นที่ก็พร้อมดำเนินการ

 โพลช่วงหยุดยาว คนไม่กล้าออกนอกบ้าน-ไปตจว. งดดูหนัง-เดินตลาด

"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 3,479 คน ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พบว่า ทำให้ประชาชนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนถึงร้อยละ 76.29 เพราะต้องระมัดระวังตัวเอง, ดูแลลูกหลานญาติพี่น้องเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ร้อยละ 23.71 ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเชื่อว่าเป็นโรคที่รักษาให้หายได้

สำหรับพฤติกรรมที่ประชาชนเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คือ
ร้อยละ 30.24 ระวังตัวไม่อยู่ใกล้กับคนที่เป็นไข้หวัด ไอ จาม
ร้อยละ 25.67 ดูแลลูกหลานและญาติผู้ใหญ่ในเรื่องสุขภาพเพิ่มมากขึ้น
ร้อยละ 14.83 ล้างมือโดยใช้สบู่มากขึ้น
ร้อยละ 8.91 ระมัดระวังการกินอาหารนอกบ้าน ใช้ช้อนกลาง

ส่วนพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันหยุดยาว
ร้อยละ 35.67 อยู่บ้านมากขึ้น ไม่ออกนอกบ้าน ไม่ไปต่างจังหวัด
ร้อยละ 30.21 หลีกเลี่ยงการไปเดิน ตลาด ชุมชนที่แออัด โรงภาพยนตร์
ร้อยละ 14.83 พักผ่อนอยู่ที่บ้าน
ขณะที่ร้อยละ 77.98 มั่นใจว่า สธ.ป้องกัน รักษา และควบคุมการระบาดได้

 "เชน-ไนซ์ทูมีทยู"อาการดีขึ้น คาดอีก3วันกลับบ้านได้

เมื่อเวลา 11.30น. วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2552 ที่โรงพยาบาลพระราม 9 นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ได้แถลงข่าวถึงอาการล่าสุดของ ธนา ลิมปยารยะ หรือ เชน ไนซ์ทูมีทยู นักร้องวัยรุ่นชื่อดังสังกัดอาร์เอส ซึ่งป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว โดยไม่มีอาการไข้ มีเพียงไอและหายใจหอบบ้างเล็กน้อย คาดว่าอีก 3 วันก็น่าจะกลับบ้านได้ แต่ก็ควรจะงดรับงานอีกประมาณ 7 วันเพื่อให้มั่นใจว่าหายสนิท
"อาการไอไม่น่าห่วง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่หลังจากเป้นหวัด หลอดลมจะบอบบาง จึงไอได้ง่าย ที่ผ่านมาก้ให้ยาต้านไวรัส 5 วัน และแยกออกมารักษาอีก 7 วัน วันจันทร์นี้น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้"

"ลูกสาวเศรษฐา"ไม่มีไข้ หมอให้กลับบ้านรักษาตัวได้

ด้านอาการของน.ส.พุทธิดา หรืออีฟ อีฟ ศิระฉายา บุตรสาวของเศรษฐา ศิระฉายา และอรัญญา นามวงษ์ ซึ่งป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 และเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท 1 นั้น ล่าสุดอาการดีขึ้นมากแล้ว ไม่มีไข้ มีเพียงเจ็บคอ ไอ มีน้ำมูกเล็กน้อย และแพทย์อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้แล้ว

นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ นายแพทย์ สสจ.ยะลา เผยว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยะลา จากการซักประวัติผู้ป่วยแจ้งว่า เป็นนักศึกษาที่ จ.นครนายก และเดินทางกลับ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยรถไฟขบวนด่วนทักษิณ กรุงเทพ-สุไหงโกลก ผู้ป่วยนั่งตู้ที่ 11 ขบวนรถที่ 37 ถึงสถานีรถไฟจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ประมาณ 10.00 น. ก่อนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลา เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น. ในวันเดียวกัน โดยโรงพยาบาลยะลาแจ้งว่าได้รับผลการตรวจยืนยันทางห้องปฎิบัติการว่า เป็นผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากโรงพยาบาลเอกปทุม จ.ปทุมธานี ซึ่งผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาก่อนเดินทางกลับ จ.ยะลา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook