ลูกค้าสาวใจกล้า ฟอกสี-ทำผมร้านเสริมสวย ก่อนชิ่งหนี เงินก็ไม่จ่าย

ลูกค้าสาวสุดแสบ ทำสีผม-แต่งหน้าทำสวย ก่อนเดินหนีออกไปจากร้านทั้งยังคลุมทำผมเอาไว้อยู่ ไม่จ่ายค่าบริการกว่า 5,000 บาท ช่างผมได้แต่อึ้ง เกิดมาไม่เคยเจอลูกค้าแบบนี้

(20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง ริมถนนกาญจนาภิเษก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังพบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเตือนภัยในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง หลังมีลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาใช้บริการ โดยมาทำสีและฟอกสีผม และยังสอบถามถึงบริการต่อผมและนวดด้วย

หลังจากนั้นลูกค้ารายนี้ก็ทำผมและแต่งหน้าไปด้วย แม้จะยังทำสีผมไม่เสร็จ ก่อนจะสอบถามราคายืดผมและต่อรองราคา อ้างว่าจะพาเพื่อนมาทำ หลังจากนั้นก็ไปสระผมเพื่อล้างเอาสีฟอกออก เหลือแค่เพียงไดร์เป่าผมให้แห้งเท่านั้น โดยลูกค้าบอกว่าจะรีบไปรับน้อง

ลูกค้าได้บอกว่าจะลงไปรับเพื่อนข้างล่าสุด โดยออกจากร้านไปตอนเวลา 19.20 น. กระทั่งร้านปิดตอน 21.00 น. ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับสีผม และผ้าคลุมทำผมที่ติดตัวไปด้วย โดยมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นประกอบด้วย สีผมยี่ห้อแพงที่สุด 3,500 บาท ฟอกสีผม 1,000 บาท และสปาทรีเมนท์อีก 1,000 บาท รวมเป็น 5,500 บาท

ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านได้จับภาพคนร้าย ขณะกำลังเซ็ทผมหลังทำสีเสร็จ พบเป็นหญิงรูปร่างอ้วน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงขาสั้นลายดอก สวมรองเท้าแตะสีขาว นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวแรกด้านหน้าร้าน โดยมีช่าง 2 คนกำลังเซ็ทผมให้ จากนั้นได้พูดคุยกับช่างผมและเดินกดโทรศัพท์ออกจากร้านไป ทั้งที่ผมยังเปียกและมีผ้าทำผมคลุมไหล่อยู่

ผู้สื่อข่าวสอบได้ถามรายละเอียดจาก น.ส.พรทิพย์ อายุ 31 ปี ช่างทำผมที่ทำผมให้ลูกค้าคนดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ลูกค้าเข้ามาใช้บริการตอนเย็นๆ เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 25-30 ปี รูปร่างท้วม แต่งตัวธรรมดาทั่วไป โดยเข้าร้านมาเพียงคนเดียว

จากการตรวจสอบพบว่า ออกมาจากนวดตัวที่มีร้านอยู่ติดกัน หลังจากเข้าไปนวดก่อนหน้านี้ 3 ชั่วโมง จากนั้นมาทำผมที่ร้านต่อ พร้อมกับชวนพูดคุนต่างๆ นานา และขอแต่งหน้าเพิ่ม จากนั้นคอยบอกเราว่าจะแนะนำให้เพื่อนมาทำผมที่นี่ด้วย แต่ขณะที่ใกล้จะทำผมเสร็จแล้ว คนร้ายอ้างว่าขอไปรับเพื่อนก่อน เพราะมาที่ร้านไม่ถูก

หลังจากนั้นก็เดินออกจากร้านไปทั้งที่ผมเปียกๆ อยู่ ก่อนจะไม่กลับมาอีกเลย ตั้งแต่ทำอาชีพช่างผมมา ก็ไม่เคยเจอมิจฉาชีพแบบนี้มาก่อน อยากฝากบอกเพื่อนร่วมอาชีพและผู้ประกอบการอื่นๆต้องหามาตรการในการเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นกว่านี้

เบื้องต้นเจ้าของร้านยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนี้จะนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดไปมอบให้เจ้าหน่าที่ตำรวจพร้อมแจ้งความให้ติดตามตัวคนร้าย จะได้ไม่ไปก่อเหตุแบบนี้กับใครอีก