"บิ๊กตู่" เมินชงซักฟอกซ้ำ โต้เป็น "เทวดา" ปัดสั่งเคลียร์เปิดทางต้อนรับ

นายกรัฐมนตรี เมินประเด็นชงซักฟอกซ้ำ โต้เป็น "นายกฯ เทวดา" ไม่ได้สั่งอพยพชาวบ้าน-เคลียร์ทางต้อนรับ ปัดเอกสารทำลายชาติโยงนักการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ออกมาพาดพิงว่าเป็น นายกฯ เทวดา ว่า ที่ต้องถามหา ส.ส. ในพื้นที่ เพื่อปฏิรูปการเมือง ไม่ได้อยากให้ใครมาต้อนรับ แต่ต้องการรับฟังข้อมูลจาก ส.ส.ฝ่ายค้านร่วมด้วย เพราะข้อมูลของพรรคฝ่ายรัฐบาลมีอยู่แล้ว พร้อมบอกว่า อย่าเอาคนไปยุ่งกับเทวดา เพราะมนุษย์คือมนุษย์ เทวดาคือเทวดา อย่าเอาเรื่องนี้มาตีกันมากมาย เพราะเป็นเรื่องไร้สาระ

ส่วนกระแสข่าวการย้ายเมืองหลวง อย่างกรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นเพียงแนวคิด สิ่งเหล่านี้ต้องคิดไว้ล่วงหน้า ว่าจะทำอย่างไร ให้พื้นที่รอบนอกของกรุงเทพมหานคร ได้มีการพัฒนาเจริญเติบโตโดยเฉพาะการเพิ่มผังเมือง แต่ยอมรับว่า ทำยาก เพราะประชาชนต้องมีส่วนร่วมกับการวางผังเมืองด้วย ซึ่งหลายคนไม่ชอบ เพราะต้องกระทบกับพื้นที่บางส่วนของประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่จะมี ส.ส.ฝ่ายค้านร่วมกันเสนอชื่อให้สอบจริยธรรมของนายกรัฐมนตรี ว่า ใครอยากสอบก็สอบไปพร้อมยืนยันว่า ตนเองเคารพกระบวนการทางกฎหมายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงในเรื่องอื่นๆ ที่ได้โดนตรวจสอบมาแล้ว และยืนยันว่า ตัวเองไม่หนี และพร้อมให้ตรวจสอบในทุกเรื่อง

ส่วนประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนนั้น เรื่องนี้ได้ให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไปแล้วแต่ที่ยังมีผู้ติดใจว่าคำชี้แจงไม่ชัดเจน ก็เป็นเรื่องของรายละเอียด ซึ่งตนเองทราบดีว่ามีคนต้องการให้นายกรัฐมนตรีพูดเองและต้องการให้พูดอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังในการที่จะนำไปสู่ความเชื่อมโยงต่างๆ และต้องรับผิดชอบคำพูดทุกคำ

พร้อมกันนี้ ตนเองไม่อยากพูดเพราะทุกคนก็คนไทย ไม่อยากสู้กับคนไทยด้วยกันเอง ควรเอาเวลาไปสู้กับปัญหาอื่นๆ จะดีกว่า เช่น เศรษฐกิจภายในประเทศ เศรษฐกิจโลก และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ส่วนที่มีการเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ แต่ขอให้ทุกคนอย่าลืมว่าประเทศชาติเคยเผชิญกับอะไรมา ที่ผ่านมาใครทำอะไรไว้บ้าง

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงเอกสารโครงข่ายขบวนการทำลายชาติ ซึ่งปรากฏอยู่บนโต๊ะในวันที่ไปชี้แจงเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนที่รัฐสภา ว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มีการตีความ กระทบ หรือไปเชื่อมโยงกับใคร แต่เป็นเอกสารเรื่องรายละเอียดของความมั่นคง ซึ่งมีในหลายเรื่องทั้งยาเสพติด และสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับนักการเมือง ที่บังเอิญติดกระเป๋าก็นำออกมาดูเท่านั้นเอง แต่สื่อก็มาถ่ายภาพแล้วนำไปเชื่อมโยงในจังหวะที่มีผู้กำลังอภิปราย

“ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาถ่ายรูปนายกรัฐมนตรีคนเดียวหรือจะให้ทำหน้ายิ้มหน้าหล่อตลอดเวลา ตนเองจะพักผ่อนหรือไม่อิริยาบถสบายๆ บ้างไม่ได้หรืออย่างไร ผมก็เป็นผมต้องมีสิทธิส่วนบุคคลบ้าง”