เงินเฟ้อทำถุงยางแพง "อาร์เจนตินา" หวั่นดันโรคติดต่อทางเพศพุ่งกระฉูด
ภาวะเงินเฟ้อกระทบเศรษฐกิจ 'อาร์เจนตินา' สินค้าหลายชนิดราคาแพงขึ้น เพราะต้นทุนเพิ่ม รวมถึง 'ถุงยาง' ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบนำเข้า ทำยอดขายตกฮวบ 8% รัฐบาลหวั่นเป็นต้นตอทำให้โรคติดต่อทางเพศเพิ่มสูงขึ้น
อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีปอเมริกาใต้ แต่กำลังประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้ออย่างหนัก และสินคาหลายชนิดขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ขณะที่สมาพันธ์เภสัชกรแห่งอาร์เจนตินา เตือนว่า ภาวะข้าวยากหมากแพงทำให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยหรือที่มองว่าไม่จำเป็นทิ้งไป แต่กลับรวมถึง 'ถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด'
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของผู้ผลิตถุงยางอนามัยยี่ห้อ Gentleman ในอาร์เจนตินา ระบุว่ายอดขายถุงยางอนามัยตลอดปี 2019 ลดลงราวร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนยอดจำหน่ายยาคุมกำเนิดลดลงร้อยละ 6 คิดเป็นลูกค้าประมาณ 144,000 คน ซึ่งเลิกซื้อยาดังกล่าวไปในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และทั้งสองประเด็นอาจส่งผลข้างเคียงต่อสังคมอาร์เจนตินา เพราะอาจจะทำให้สถิติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการตั้งครรภ์ขณะที่ยังไม่พร้อมเพิ่มสูงขึ้น
สาเหตุสำคัญที่ทำให้สินค้าเพื่อการคุมกำเนิดมีราคาแพงขึ้นในอาร์เจนตินา เกิดจากราคาวัตถุดิบซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศอาร์เจนตินาอาจมากกว่าร้อยละ 50 และยังมีทีท่าว่าเงินจะอ่อนค่าลงไปอีก รวมถึงเศรษฐกิจอาจหดตัวต่อเนื่องถึงร้อยละ 2.6 ในปีหน้า
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ Vice รายงานว่า ปรากฎการณ์ยอดขายถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดตกต่ำในอาร์เจนตินาสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวเนซูเอลา ซึ่งประสบวิกฤตเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเช่นเดียวกัน แต่ยอดขายถุงยางอนามัยกลับเพิ่มสูงขึ้นในปี 2014 ซึ่งเป็นปีแรกที่เกิดวิกฤต หลังจากนั้นยอดขายก็ลดลงเล็กน้อย และคงที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจะยังไม่ดีขึ้นก็ตาม
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายหนึ่งในเวเนซูเอลาระบุว่า "คนไม่ได้หยุดมีเซ็กซ์กันเพราะเศรษฐกิจไม่ดี" และที่สำคัญคือรัฐบาลจะต้องมีมาตรการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย รวมถึงการคุมกำเนิด ว่าจะไปขอรับอุปกรณ์ป้องกันได้ที่ไหน
ส่วนเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของอาร์เจนตินายอมรับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะอ่อนการประชาสัมพันธ์ ทำให้คนไม่ทราบว่ามีถุงยางอนามัยแจกฟรีตามโรงพยาบาลรัฐต่างๆ