ชาวบ้านส่ายหน้า "ฝายบิ๊กตู่" เพิ่งสร้างปีเดียว น้ำไหลผ่านนิดๆ จะพังแล้ว
ฝายกั้นน้ำส่อไร้มาตรฐานโผล่อีกจุด ชาวบ้านโวยเพิ่งสร้างเสร็จได้แค่ปีเดียว น้ำไหลผ่านไปไม่เท่าไหร่ ก็เริ่มทรุดตัวแล้ว วอนหน่วยงานตรวจสอบ หวั่นปัญหาคอร์รัปชั่น
(21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามปริมาณน้ำ ตามแหล่งน้ำสาธารณะและฝายกักเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ภายหลังช่วงฤดูน้ำหลากใกล้กำลังจะผ่านพ้นไป และระดับน้ำได้เริ่มลดลง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งพบว่ามีปริมาณน้ำเพียงพอ ที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งที่จะถึง แต่ในส่วนของการสำรวจสภาพของแหล่งเก็บน้ำและฝายเก็บน้ำที่หน่วยงานต่างๆ สร้างขึ้น เพื่อชะลอน้ำและป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งเก็บกักน้ำสำหรับใช้บรรเทาภัยแล้งนั้น ได้รับแจ้งว่าได้รับความเสียหลายแห่ง
โดยเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ชาวบ้านจอมทอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้แจ้งว่าโครงสร้างของฝายลำพะยัง ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จไม่ถึงปี ซึ่งใช้เงินงบประมาณแผ่นดินในการก่อสร้างหลายสิบล้านบาทพังเสียหาย
ตรวจสอบพบว่าในส่วนพนังดินพังทลายหวิดขาด ขณะที่บริเวณคอสะพาน เนื้อปูนแตกร้าวและทรุดตัว ชาวบ้านหวั่นว่าจะเกิดเหตุการณ์พนังดินขาด หากมีมวลน้ำเหนือไหลผ่านในพื้นที่กักเก็บน้ำของฝายแห่งนี้อีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ปปช. ปปท.และสตง.ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านมะนาวว่า ฝายกั้นน้ำลำพะยัง บ้านมะนาว ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ตอนเหนือฝายกั้นน้ำละพังบ้านจอมทอง ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร เกิดความเสียหายพังหลายจุด โดยเฉพาะผนังปูนตัวฝายและผนังที่เป็นโครงสร้างฝายเกิดการแตกทรุดหลายจุด ทั้งที่เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่ถึงปี ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าฝายอาจจะแตกได้ในอนาคต จึงอยากเรียกร้องให้ สตง..ปปช.และ ปปท.เข้าตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบบริเวณโครงสร้างของตัวฝายหลายจุดเกิดการชำรุดและพังเสียหาย ไม่มีเหล็ก ทำให้ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า วัสดุที่นำมาก่อสร้าง เหล็ก หิน ปูน ทราย ได้มาตรฐานหรือไม่ และมีการบดอัดหรือไม่ เพราะเกิดการพังทลายของหน้าดิน ก้อนหินวางซ้อนกันอย่างหลวมๆ โดยไม่ใช้ตะแกรงหรือตาข่ายปิดกั้นเกิดการทรุดตัว คอนกรีตที่แตกหักไม่มีการใช้เหล็กเสริม
ขณะที่บริเวณผนังคอนกรีตด้านข้างฝายมีรอยร้าวและรอยแตกอยู่ทั่วไป มีร่องรอยการรั่วซึมของน้ำซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะตัวฝายน้ำล้นลงสู่ด้านล่างทางน้ำลำพนัง มีรูรั่วทั้งขนาดขนาดเล็กใหญ่ตลอดแนว โดยยังมีน้ำพุ่งออกมาทางรูของตัวฝายตลอดเวลา บางแห่งของตัวฝายสามารถมองเห็นผิวคอนกรีตเกิดการพองตัว บวมปริขึ้น และผุกร่อน แสดงถึงความไม่มั่นคง เสี่ยงต่อการแตกพังทลายตลอดเวลาหรือหากมีปริมาณน้ำเหนือไหลผ่าน สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านที่พบเห็น ทั้งที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จได้แค่ปีเดียวเท่านั้น
จากการตรวจสอบโครงการสร้างฝายกั้นน้ำบ้านมะนาว ดำเนินการสร้างโดยสำนักงานชลประทานที่ 6 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับงบประมาณและนโยบายจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในครั้งที่เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อต้องการให้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า “ฝายบิ๊กตู่”
ทั้งนี้ เพื่อรับน้ำที่ไหลมาจากลำน้ำพะยังในพื้นที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค-บริโภค บรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัยและเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างในช่วงเดียวกับฝายกั้นน้ำลำพะยังบ้านจอมทองที่ชำรุดตัวพนังดินพังทลายหวิดขาด ขณะที่บริเวณคอสะพาน เนื้อปูนแตกร้าวและทรุดตัว
อย่างไรก็ตาม จากสภาพฝายกั้นน้ำลำพะยังบ้านมะนาวที่ปรากฏต่อสายตาของผู้พบเห็น ซึ่งชำรุดเสียหายและส่อแนวโน้มที่จะพังทลาย หากมีปริมาณน้ำไหลทะลักเข้ามาอีก แต่กลับมีการส่งมอบงานให้อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลเหล่าใหญ่กันเรียบร้อย จึงเป็นภาพที่ค้านสายตาชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่ปรากฏหลักฐานความเสียหายทั่วบริเวณฝาย
ชาวบ้านจึงอยากเรียกร้อง สตง.,ปปช,และ ปปท.เข้าตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้างโดยด่วน เพื่อป้องกันการดำเนินการที่อาจส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะคาดว่าเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาล แต่คุณภาพงานส่อไม่ได้มาตรฐาน ผลสุดท้ายทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับประโยชน์ในการได้ใช้น้ำเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่ให้ไว้กับหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง