พท.รุกทวงคำมั่นจี้ กษิต ออก! แกนนำ พมธ.ไม่กลัวคุกมอบตัว16ก.ค.
พท.ได้ทีรุกทวงคำมั่นจี้"กษิต"ออก! แกนนำพมธ.ไม่กลัวคุก เตรียมมอบตัว 16 ก.ค. "เทพไท"ยันรมว.บัวแก้วไม่จำเป็นต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ หลังหมายเรียกยึดสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ให้ทีมกม.ดูแล"กษิต-สมเกียรติ" "สาธิต"ซัดข้อหา"ก่อการร้าย"รุนแรงเกินไป
พท.ทวงคำพูด-จี้"กษิต"ลาออก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขอเรียกร้องให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาออก เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดไว้ว่าหากโดนแจ้งข้อหาจะลาออกจากตำแหน่ง ดังนั้น จึงขอเรียกร้องนายกษิตให้ลาออก และให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พิจารณาเรื่องนี้ด้วย ไม่ใช่ซื้อเวลาลากเรื่องนี้ออกไป ข้อหาที่นายกษิตถูกออกหมายเรียกมีความรุนแรง ทั้งในข้อหาก่อการร้ายและฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวที่โรงแรมเรดิสันว่า นายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณว่าคนขึ้นเวทีเป็นแกนนำปิดสนามบิน 2 แห่ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เอามาตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแต่ต้น เวลานี้มีพนักงานสอบสวนเห็นว่านายกษิตทำผิดร้ายแรง ถึงขั้นที่ตั้งข้อกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้าย ที่เรียกความรับผิดชอบคือนายกฯควรจะหาที่ทางว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
"เสื้อแดง"ประชดอย่าปลดให้อยู่ต่อ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า อยากตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจทำคดีนี้อย่างจริงจังหรือไม่ เพราะตามปกติคดีที่มีโทษจำคุกเกิน 3 ปีสามารถขอศาลออกหมายจับได้ทันที แต่คดีก่อการร้ายมีโทษถึงประหารชีวิตกลับออกเพียงหมายเรียก แสดงให้เห็นว่ายังเกรงกลัวพธม.อยู่ การออกแค่หมายเรียกให้คดีดังกล่าว หากเทียบกับพวกตนซึ่งถูกออกหมายจับเพียงแค่ปิดถนน หรือกางเต็นท์ข้างทำเนียบรัฐบาล แสดงให้เห็นถึงสองมาตรฐาน ทั้งนี้อยากทวงถามไปยังตำรวจภูธรภาคต่างๆว่า แล้วคดียึดสนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินกระบี่ สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่ คดีไปถึงไหนแล้ว
นายจตุพรกล่าวว่า แม้ก่อนหน้านี้นายกษิตจะบอกว่าจะลาออกหากถูกตำรวจออกหมายจับ แต่ครั้งนี้นายกษิตไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะขนาดคนที่ตั้งนายกษิตมายังไม่รับผิดชอบ ให้นายกษิตเป็นรัฐมนตรีไว้ประดับบารมีต่อไป
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอย่าปลดนายกษิต ให้เอาไว้ เพราะบ้านเมืองย่อยยับมามากแล้ว จะให้ผู้ก่อการร้ายยึดสนามบินเป็นรัฐมนตรีต่อไปก็ทำไป ประชาชนคิดอย่างไรอย่าไปสนใจ ให้นายกษิตเป็นตัวแทนรัฐบาล ไปประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ไปเจรจากับนานาประเทศต่างๆ
นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า หากกลุ่มพันธมิตรที่ถูกออกหมายเรียกจากคดียึดสนามบิน แล้วสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีที่มีบทบาทควบคุมการเคลื่อนไหวของคนเสื้อเหลือง และมีส่วนสำคัญในการเรียกให้ประชาชนออกมายึดสนามบิน รัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล ก็ควรจะมีความผิดในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย เพราะกระทำผิดอย่างชัดเจน ไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจถึงทำรายชื่อเอเอสทีวีตกหล่นได้
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ หนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายเรียกในคดีบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองว่า บุคคลที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 2 คดี รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจะไปรายงานพร้อมกันเวลา 09.00 น.ของวันที่ 16 กรกฎาคมที่สโมสรตำรวจ โดยทุกคนไม่รู้สึกหนักใจและไม่กังวลกับการถูกดำเนินคดี เพราะการชุมนุมเป็นตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ต้องการต่อต้านรัฐบาลที่บริหารประเทศไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีการกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ในกรณีอนุญาตให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยไม่ผ่านรัฐสภา รวมทั้งยังมีการเข่นฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ 2551 ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายอาญาอย่างชัดเจน
"การตั้งข้อกล่าวหาว่าการชุมนุมเป็นการก่อการร้ายสากลนั้นถือข้อกล่าวที่ไม่มีมูลและเป็นข้อกล่าวที่แรงเกินไป โดยเราทุกคนเชื่อว่าจะสามารถชี้แจงได้ เพราะการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหาและเราได้เตรียมทนายไว้ต่อสู้คดีแล้ว ทั้งนี้เราเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าจะให้ความเป็นธรรม การถูกออกหมายเรียกก็เพียงขั้นตอนแรกของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการกระทำความผิด ไม่เหมือนกับกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกพิพากษาว่าทำผิดแล้ว"นายสมศักดิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปช.) ล่าชื่อ 1 ล้านชื่อถวายฎีกาเพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณว่า นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.เคยถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและขอถวายฎีกามาแล้ว จึงรู้ดีอยู่แล้วว่าการล่าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอนิรโทษกรรมแทนนักโทษนั้นทำไม่ได้ แต่ต้องให้เจ้าตัวหรือญาติพี่น้องดำเนินการให้เท่านั้น แต่ แกนนำนปช.กำลังดำเนินการบางอย่าง อย่างมีเงื่อนงำด้วยการดึงประชาชนจำนวน 1 ล้านคนเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อกดดันสถาบัน ดังนั้นรัฐบาลควรชี้แจงเรื่องนี้ต่อประชาชนเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลเหล่านั้นเป็นเครื่องมือทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณและนปช.
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมอยู่ในนั้น จากการเข้ายึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ในข้อหาก่อการร้าย ว่า การเรียกร้องให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลาออก เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เพราะนายกษิตเพิ่งได้รับเพียงหมายเรียก ทำไมพรรคเพื่อไทย (พท.) จึงด่วนให้นายกษิตแสดงความรับผิดชอบ ตนอยากให้ พท.กลับไปดูเจ้านายของตัวเองที่ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา ทำไมจึงไม่เรียกร้องให้กลับมารับโทษบ้าง
"นายกฯได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะให้นายกษิตเดินทางไปตามหมายเรียก โดยจะรอให้คดีถึงชั้นอัยการสูงสุดก่อน จากนั้นค่อยมาดูรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ส่วนตัว เห็นว่าตราบใดคดียังไม่ถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา นายกษิตก็ยังคงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม" นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวอีกว่า หลังจากนายกษิตไปตามหมายเรียก และทราบว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อไปแล้ว ทีมกฎหมายของพรรคก็จะเข้าไปดูว่าจะสามารถหาทางต่อสู้คดีอย่างไรได้บ้าง โดยจะเข้าไปดูในส่วนของนายกษิตและนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน ปชป.เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคนทั้งสองด้วยว่าจะใช้ทีมกฎหมายของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือทีมทนายความของพรรค
"ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีมาตรฐานทางการเมืองสูงอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กฎเหล็ก 9 ข้อซึ่งนายกฯตั้งไว้ต้องได้รับการปฏิบัติแน่นอน แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ป.ป.ช.จึงไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่" นายเทพไท กล่าว
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่าการออกหมายเรียกเป็นเรื่องปกติของกระบวนการยุติธรรม เป็นเพียงการดำเนินการในชั้นต้น เมื่อพยานหลักฐานถึงอัยการอาจจะไม่ส่งฟ้อง หรือถึงศาลอาจจะยกฟ้องภายหลังได้ การที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เรียกร้องให้นายกษิตลาออก ถือว่าเป็นสิทธิของนายกษิตเองว่า จะตัดสินใจทำตามหรือไม่
"ส่วนตัวเห็นว่าการตั้งข้อหาก่อการร้ายรุนแรงเกินไป เพราะการยึดสนามบินเพื่อโค่นล้มรัฐบาล กับการก่อการร้ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาคนละมาตรา โดยหลักกฎหมายจะใช้เจตนาเป็นสำคัญ หากตำรวจต้องข้อหาผิด ศาลอาจจะยกฟ้องภายหลังได้ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลใช้มาตราเดียว ดังนั้นแกนนำ พท.และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่เคยกล่าวหาว่ารัฐบาลสองมาตรฐาน ต้องออกมากลับคำพูดของตัวเอง" นายสาธิต กล่าว