เกรียตา ธุนแบร์ มองแรง! ขณะทรัมป์เดินผ่านในตึกยูเอ็น หลังขึ้นเวทีพูดหักหน้าผู้นำโลก

เกรียตา ธุนแบร์ มองแรง! ขณะทรัมป์เดินผ่านในตึกยูเอ็น หลังขึ้นเวทีพูดหักหน้าผู้นำโลก

เกรียตา ธุนแบร์ มองแรง! ขณะทรัมป์เดินผ่านในตึกยูเอ็น หลังขึ้นเวทีพูดหักหน้าผู้นำโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาวเกรียตา ธุนแบร์ อายุ 16 ปี ชาวสวีเดน ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม มองด้วยสายตาไม่พอใจ ขณะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินผ่านภายในอาคารสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะทั้งคู่กำลังจะเดินสวนกัน แต่นางสาวธุนแบร์โดนกันตัวให้หลบไปด้านข้าง เพื่อหลีกทางให้นายทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจ

ก่อนหน้านั้น นางสาวธุนแบร์กล่าวบนเวที Climate Action Summit 2019 วิจารณ์อย่างดุเดือด ต่อการที่บรรดาผู้นำด้านการเมืองและธุรกิจทั่วโลกเพิกเฉยต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก โดยปล่อยให้เกิดผลกระทบต่อคนรุ่นต่อไปอย่างเธอและเยาวชนทั่วโลก

>> เกรียตา ธุนแบร์ สาวน้อยสวีเดน จวกทรัมป์ "เชื่อวิทยาศาสตร์เถอะค่ะ" หลังล่องเรือถึงนิวยอร์ก

"ข้อความของหนูคือเรากำลังจับตาดูคุณอยู่ นี่มันผิดไปหมดเลย หนูไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ หนูควรไปอยู่ที่โรงเรียนที่อีกฝั่งหนึ่งของมหาสมุทรนี้ แต่คุณก็ยังมาหาความหวังจากคนรุ่นใหม่เนี่ยนะ กล้าดียังไง พวกคุณขโมยความฝันและชีวิตวัยเด็กของหนูไปด้วยคำพูดกลวงๆ ของพวกคุณ แต่หนูยังถือว่าโชคดี มีคนอีกเยอะที่ทรมาน หลายคนกำลังตาย ระบบนิเวศกำลังล่มสลายลง เรามาถึงจุดเริ่มต้นของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ แต่พวกคุณกลับพูดถึงแค่เรื่องเดียวคือเรื่องเงินกับเทพนิยายที่พูดถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่มีวันจบสิ้น กล้าดียังไง!

นานกว่า 30 ปีแล้ว ที่วิทยาศาสตร์ก็บอกชัดแล้ว กล้าดียังไงที่ไม่สนใจแล้วมาคุยโวที่นี่ว่าลงมือทำเพียงพอแล้วในเมื่อยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและทางออกที่จำเป็นเลยสักอย่าง คุณบอกว่าคุณฟังเราและเข้าใจถึงความเร่งด่วน แต่ถึงหนูจะเสียใจหรือโกรธมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่อยากเชื่อ (สิ่งที่พวกคุณบอก) เพราะถ้าคุณเข้าใจสถานการณ์จริงๆ แต่ยังลงมือทำไม่ได้สักอย่าง งั้นพวกคุณก็ใจร้ายมากๆ หนูเลยขอปฏิเสธที่จะเชื่อ

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นแนวคิดยอดฮิต ให้เหลือครึ่งเดียวในอีก 10 ปี มอบโอกาสเราแค่ 50% ในการทำให้อุณหภูมิเพิ่มไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสและควบคุมความเสี่ยงจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่แบบกู่ไม่กลับ 50% อาจจะฟังดูดีสำหรับพวกคุณ แต่ตัวเลขนี้ยังไม่รวมชนวนจุดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ หลายสิ่งที่จะย้อนกลับมาทำร้ายเรา ความร้อนส่วนเกินที่ซ่อนอยู่ในมลภาวะทางอากาศ และมิติในด้านความเสมอภาคและยุติธรรมทางสภาพอากาศ แถมยังจะมาพึ่งคนรุ่นของหนูให้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายพันล้านตันของพวกคุณ ให้ออกจากอากาศด้วยเทคโนโลยีที่ไม่มีอยู่จริง เพราะฉะนั้นความเสี่ยง 50% นี้เรารับไม่ได้ เราที่ต้องอาศัยไปกับผลจากสิ่งที่พวกคุณทำ" นางสาวธุนแบร์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook