มงคลกิตติ์ เผยที่มาพระเครื่อง 40 ล้าน ลั่นลูกหลานเชื้อพระวงศ์มอบให้

มงคลกิตติ์ เผยที่มาพระเครื่อง 40 ล้าน ลั่นลูกหลานเชื้อพระวงศ์มอบให้

มงคลกิตติ์ เผยที่มาพระเครื่อง 40 ล้าน ลั่นลูกหลานเชื้อพระวงศ์มอบให้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวนมาก หลายคนก็ให้ความสนใจกับทรัพย์สินของ นายมงคลกิตติ์​ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ และหัวหน้าพรรคพรรคไทยศรีวิไลย์ เพราะนอกจากมีทรัพย์สินจำนวนมากแล้ว ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ว่ามานี้ ไม่ใช่เงินหรืออสังหาริมทรัพย์ แต่กลับเป็นพระเครื่อง

มูลค่าพระเครื่องที่นายมงคลกิตติ์มี คิดเป็นมูลค่าถึง 147.65 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76.5% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่ 192.9 ล้านบาท 

ล่าสุดรายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (24 ก.ย.) โดยมี "ฮาร์ท-สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล" มีโอกาสสัมภาษณ์ "เต้ มงคลกิตติ์" ซึ่งเจ้าตัวได้นำพระเครื่องมาให้ได้ดูกันในรายการสดๆ ด้วย 

คนฮือฮาระดับหัวหน้าพรรค รวยเฉียด 200 ล้าน แต่มาดูรายละเอียดเป็นพระเครื่องซะส่วนใหญ่? 

"ส่วนใหญ่อยากเห็นกัน ปกติเซียนพระเป็นกลุ่ม ต้องมีการประกวด ผมเป็นกรรมการประกวดพระหลายครั้งนะ"

สนใจเรื่องพระมานานหรือยัง?

"สมัย 8-9 ขวบบวชเป็นเณร ที่พิษณุโลก"

ทรัพย์สินพระเครื่องทียื่นต่อ ป.ป.ช. มีกี่รายการ?

"มีเป็น 10 องค์ โดยปกติการยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. อะไรต่ำกว่าสองแสนไม่ต้องยื่น ผมยื่นไปทั้งหมด มีประมาณ 192 ล้าน ถ้าตัดพระเครื่อง เหลือ 42 ล้าน ตัดหนี้สินธนาคารไปก็เหลือ 22  ล้านเหมือนคนทั่วไป แต่ทำไมพระเครื่องตีมูลค่าขนาดนั้น ผมค่อยๆ สะสมพระเครื่องมาเป็นสิบๆ ปี ค่อยๆ ได้มา"

สิบองค์ไม่ได้เยอะ แต่ละองค์มูลค่าสูงเหลือเกิน วันนี้เอามาโชว์กี่องค์?

"สี่องค์ ในบรรดาเซียนพระ เขาไม่เคยเห็นกริ่งปวเรศทองคำ ปกติเขาจะมีเนื้อสีดำๆ เขาเคยเห็นกัน อยู่ราวๆ 30-50 ล้าน ถ้าทั่วๆ ไปเนื้อปกติ ถ้าเคยเห็นก็อยู่พิพิธภัณฑ์วัดบวรฯ แต่นี่เป็นของแผ่นดิน"

ได้มายังไง?

"เผอิญผมเคยช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำชู คนนั้นมีเชื้อมีแถว เป็นลูกหลานหม่อมเจ้า"

ทำไมเขาถึงกล้าให้?

"เขาไม่ได้มองเรื่องมูลค่า เขามองว่าเอาไว้ปกปักษ์รักษาคุ้มครองผม ผมทำเรื่องการปราบปรามนักการเมือง ปราบปรามข้าราชการระดับสูง การดำเนินคดีใหญ่ๆ ของประเทศไทย การทำงานของเราล่อแหลม ศัตรูก็เยอะ ไม่ได้จำนวนเยอะ แต่ศัตรูมีอำนาจ"

องค์นี้ ประเมินราคาเท่าไหร่?

"ใส่ไว้ 50 ล้าน เดิมทีปรึกษาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ว่าต้องใส่ราคาเท่าไหร่ดี เขาบอกให้ไปหาตลาดมาทั่วๆ ไป ก็ประมาณนี้ แต่ถ้าต่างประเทศเป็นร้อยล้าน โดยส่วนใหญ่เขาไม่จำหน่ายกัน เอาไว้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ให้ลูกให้หลาน เพราะเขาไม่ค่อยมีกัน ได้มา 4-5 ปี ที่ใส่ไว้ในมูลค่าก็ประมาณ 50 ล้าน ผมไม่ได้มองมูลค่าเรื่องเงิน มองมูลค่าเรื่องพุทธคุณมากกว่า แล้วไม่กล้าไปฝากธนาคาร กลัวโดนเปลี่ยน"

มีคนมาขอซื้อมั้ย?

"ไม่ต้องพูดถึงครับเพราะไม่ขาย เพราะมีองค์เดียว แล้วก็ไม่ให้"

องค์ต่อไป?

"พระร่วงหลังรางปืนสมัยสุโขทัย เขาเรียกประติมากรรมสมัยขอมยุคต้นๆ องค์นี้นานมาก น่าจะเกือบๆ 700 ถึง 1000 ปี สมัยก่อนเป็นพุทธคุณเพื่อป้องกันศาสตราวุธของมีคม เหนียว อยู่ยงคงกระพัน ได้มาจากพระครู ผมไปรวบรวมเงินทอดกฐิน ทำนุบำรุงวัดที่เคยเป็นที่พัก ตอนนั้นสมเด็จพระนเรศวรเป็นพระมหาอุปราช ผมไปช่วยบูรณะวัดที่สมเด็จพระนเรศวรเคยไปพำนัก ผมไปเป็นประธานกฐินได้เงินมาเป็นล้าน 7-8 ปีที่แล้ว พระครูบอกว่ามีบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มาเข้าฝันว่าให้มอบพระองค์นี้ให้ผม"

องค์นี้ประเมินราคาเท่าไหร่?

"ใส่ไว้ 20-30 ล้านจำไม่ได้แล้ว องค์นี้มีคนติดต่อผมเป็นอธิบดี ประมาณ 7 ล้าน ผมบอกว่าผมไม่มี ผมมีอยู่องค์เดียว ให้ท่านไปแล้วผมเอาอะไรใช้ แล้วผมอันตรายกว่าเยอะ พระพวกนี้สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่ากี่ปี ของผมแท้หมด"

พระเครื่ององค์ที่สาม?

"สมเด็จไกเซอร์ พระเจ้าไกเซอร์เยอรมัน ได้ช่วยเหลือบุคคลคนหนึ่ง เขาก็ให้มา แต่ความจริงมีปลัดกระทรวงเขามาขอบูชา ผมไม่ให้ อันนี้สร้างในสมัย ร.5 เขาสร้างเป็นพันองค์ ที่เอาไปมอบให้พระเจ้าไกเซอร์ที่เยอรมัน เสด็จประพาสที่ยุโรป เดิมทีท่านพกติดกระเป๋า ปรากฏว่ามีแสงออกมา พระเจ้าไกเซอร์เห็นแสงที่ออกจากกระเป๋า มันจะมีพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก ในบรรดาข้าราชบริพาร เชื้อพระวงศ์ แป๊บเดียวก็หายหมดแล้ว ปัจจุบันผมว่าหาได้น้อยมาก ในตลาดพระเครื่อง บรรดาเซียนก็ไม่มี คนที่ให้อุปถัมภ์ ดูแลกันมาช่วยเหลือ นายกฯ มาขอผมก็ไม่ให้ มูลค่าจำไม่ได้ 20-30 ล้าน"

ดูได้ยังไง พระแท้หรือไม่แท้?

"เอาไปทดสอบที่สถาบันวิทยาศาสตร์ ดูจำนวนปี แต่อย่าให้องค์เสียรูป เอาผงนิดนึงดูจำนวนปี ใช้คาร์บอนเอา ดูจำนวนปีก็จบแล้ว ปลัดขอ เขาบอกว่าจะเกษียณแล้ว จะเก็บไว้บูชา ผมก็บอกว่าถ้าให้แล้วผมจะใช้อะไร เขาก็ให้เป็น 10 ล้าน ระดับนี้ถือว่าธรรมดา ไม่แพงมาก"

พระยอดธง ที่มาเป็นยังไง?

"สมัยกรุงศรีอยูธยา ปกติแม่ทัพจะออกรบ ครูหรือพระอาจารย์จะมอบพระให้แม่ทัพเป็นขวัญกำลังใจในการสู้รบแล้วชนะ ผมในปัจจุบันเป็นนักการเมือง ก็เหมือนนักการเมืองที่เป็นนักรบ รบแล้วต้องชนะ อันนี้ราคาไม่เท่าไหร่ ประมาณ 1-2 ล้าน ในมุมของผมนะ อันนี้ให้เพื่อนยืมตังค์ แล้วไม่ต้องใช้ เพื่อนให้มา"

เซียนพระเรียกร้องให้นำพระเครื่องไปให้สมาคมพระเครื่องประเมินมูลค่า ทำไมถึงปฏิเสธ?

"เอาเป็นว่าพระของผม ผมประเมินเองได้ ผมก็ดูเองเป็น ผมก็จบวิทยาศาสตร์ จบคณิตศาสตร์ จบฟิสิกส์มา คนไม่เชื่อก็เรื่องของเขา ผมถามว่าในวงการพระเครื่องมีทั้งจริงและปลอมจะเอาอะไรการันตี ทำไมผมต้องเอาไปให้คนอื่นการันตี อีกอย่างตัวทรัพย์สินเนี่ย คณะกรรมการ ป.ป.ช. บ้าน รถที่ดินประเมินไม่เท่ากันหมดเลยนะ ผมเคยให้เซียนพระดูหลายคนแล้ว แต่ส่วนใหญ่เขาไม่อยากให้เข้ามาในตลาด พระของผมไม่ใช่พระค้าขายเอาไว้เป็นพุทธคุณส่วนตัว เซียนพระหลายคน ไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการ ผมเป็นกรรมการพระเครื่องมาหลายรอบนะ"

มีเซียนพระบางคนบอกว่าพระของเต้ไม่ต้องส่องก็รู้ ไม่จริงหรอก มีบางองค์ซื้อแถวท่าพระจันทร์ สิบบาทก็มี?

"ไม่เคย มีพระองค์นึงมั้ง ผมได้มา เป็นพระพุทธชินราช พรรคพวกข้าราชการให้มา ผมก็ไม่ได้สนใจราคาเท่าไหร่ ร่วม 10 ปีแล้วไปเดินตลาดพันทิพย์ ขัดสนเรื่องเงิน เอาพระไปให้เขาตีราคา เขาบอกว่าให้ 2 พัน ผมบอกว่าไม่เอา น้อยเกินไป พอผมจะเดินกลับ บอกว่าให้ 2 หมื่น นี่คือเทคนิค จะตีต่ำไว้ก่อน พอเราไม่เอาจริงๆ ก็เพิ่มให้นิดหน่อย ทันเกมกัน"

แล้วจะใช้มาตรฐานอะไรมาวัด?

"ผมมีเซียนอยู่ 3-4 คน เขาไม่อยากเอ่ยชื่อ ถ้าผมบอกว่าให้ร่างพระราชบัญญัติจัดเก็บภาษีพระเครื่องขึ้นมา พังมั้ย ผมจะใช้อำนาจการเป็นผู้แทนราษฎรเสนอกฎหมายเอามั้ย"

ถ้าต่อสายกับเซียนพระกล้าคุยมั้ย?

"ไม่คุย คุยไปก็เท่านั้น ให้เกิดข้อโต้แย้งทำไม ไม่ต้องพูดราคา พูดเรื่องพุทธคุณดีกว่า เราเป็นผู้แทนราษฎร ไม่ได้มาเปิดร้านขายพระ แล้วมีแค่นี้ อีกอย่างพ่อบุญธรรมผมก็เปิดแผงพระอยู่ด้วย นามสกุลเดียวกัน เปิดแผงพระอยู่พิษณุโลก"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook