นาทีบุกเดี่ยวทุบตู้กระจกร้าน ชิงทองกลางห้างเมืองสุพรรณฯ กว่า 80 บาท
คนร้ายบุกเดี่ยวควงปืนใช้ก้อนหินทุบตู้กระจกชิงทอง กลางห้างดังเมืองสุพรรณบุรี ได้ทองน้ำหนักกว่า 80 บาท ตำรวจเร่งไล่ล่าจับกุม
(25 ก.ย.) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุคนธ์ สงสกุล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุชิงทองภายในห้างสรรพสินค้าเทสโลตัส สาขาสุพรรณบุรี ริมถนนสายสุพรรณบุรี – ชัยนาท หมู่ 5 ต.ท่าระหัด จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุนรี พ.ต.ท.นิยม สุ่ยวงษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จวสุพรรณบุรี พ.ต.ท.ศาตรา คงนาม รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.ภุชงค์ ป้องศิริ สวป.พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน กำลังสายตรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี และชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นร้านทองแห่งหนึ่ง ตรวจสอบถูกคนร้ายใช้ก้อนหินทุบตู้กระจกร้านทอง ทำให้กระจกตู้แตกกระจายเกลื่อนไปทั่ว โดยพบก้อนหินเทปพันสายไฟสีดำ และกล่องกระดาษสีน้ำตายตกอยู่ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานพบหลักฐาน
น.ส.ศศิพัชร์ อายุ 35 ปี พนักงานร้านทอง เล่าให้ฟังด้วยอาการตื่นตกใจกลัวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนพนักงานร้านทองยืนอยู่หน้าร้าน 4 คน และช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังปลอดลูกค้า เห็นคนร้ายเป็นชายนุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อคลุมสีดำสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สวมรองเท้าแตะแบบสวมเดิน ถือกล่องกระดาษสีน้ำตาลเดินเข้ามา ก่อนใช้ก้อนหินปาเข้าที่กระจกตู้ทอง
หลังจากที่คนร้ายปาก้อนหินเสร็จได้ชักอาวุธปืนกระโดดข้ามตู้โชว์ไป พวกตนจึงพากันวิ่งหนีตายเข้าไปหลังร้าน พร้อมกับกดปุ่มสัญญาณเตือนภัยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยสกัดจับ แต่ก็ไม่ทัน หลังก่อเหตุคนร้ายรีบกวาดทองหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ขณะที่จำนวนทองที่คนร้ายได้ไปยังไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าน้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 80 บาท
นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายหอบทองวิ่งหนีออไปด้านนอก ยังทำสร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท หล่นตามรายทางด้วย พนักงานห้างได้เก็บมาส่งคืนให้กับทางร้านในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้านพบคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย แต่งตัวรัดกุม ใช้ก้อนหินขว้างปาใส่ตู้กระจก ก่อนจะชักปืนออกมาและกระโดดข้ามตู้โชว์ กวาดทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 80 บาท หลบหนีไป และขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน ที่จอดไว้ในลานจอดรอดของห้างหลบหนี
ระหว่างที่คนร้ายขี่รถหนียังได้ใช้เท้าถีบเข่งของชาวบ้านที่นั่งรอรถหลบหนีมุ่งหน้าเข้าถนนสาย 340 เพื่อมุ่งหน้าไปทางโพธิ์พระยา-ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดเส้นทางหลบหนีแต่ยังไร้วี่แวว หลังตรวจที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกประชุมชุดทำงานเพื่อเร่งรัดติดตามคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วน