ลูกเลี้ยงโหดใช้อีโต้กระหน่ำฟันพ่อเลี้ยงดับสยอง อ้างแค้นชอบเมาทุบตีแม่

รวบลูกเลี้ยงโหดอีโต้กระหน่ำฟันพ่อเลี้ยงดับสยองหน้าบ้าน อ้างแค้นชอบดื่มเหล้าเมาทำร้ายแม่ ขณะน้าผู้ตายเผยทั้งน้ำตายอมรับหลานเคยมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุบ่อย แต่ไม่คิดจะรุนแรงถึงขั้นฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ยันไม่ให้ขอขมาศพและไม่อโหสิอยากให้ลงโทษตาม กม.ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (25 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้จับกุมนายนายไพศาล หรือ แจ๊ค อายุ 29 ปี หลังได้ก่อเหตุใช้มีดอีโต้ ยาว 64 เซนติเมตร กระหน่ำฟัน นายสันติราษฎร์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง เสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา

โดยผู้ตายมีบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกมีดฟันเข้าที่บริเวณหน้าผาก ลำคอ และหลังรวม 4 แผล นอนเสียชีวิตในสภาพเลือดไหลนองเต็มพื้น อยู่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ม.15 ต.แคนดง อ.แคนดง ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหา ที่ผู้ตายมาอาศัยด้วยในฐานะพ่อเลี้ยง   

จากการสอบสวน นายไพศาล  ผู้ต้องหา ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนเองได้นั่งสับก้อนรังปลวกให้ไก่ที่เลี้ยงไว้กินอยู่บริเวณทางเข้า-ออกบ้าน จากนั้นผู้ตายก็ปั่นจักรยานมาจากข้างนอกด้วยอาการมึนเมา แล้วจู่ๆ ก็มาพูดจาหาเรื่องบอกว่าตนเองมานั่งสับปลวกขวางทาง จึงเกิดมีปากเสียงกันจากนั้นผู้ตายก็เดินเข้ามาชกปากตนก่อน 1 ครั้ง ทั้งยังพยายามจะใช้ไม้มาตีตนเองด้วยความโมโห 

ประกอบกับตนเองก็มีความแค้นสะสมที่ผู้ตายชอบดื่มเหล้าเมาแล้วทำร้ายแม่ของตนเองหลายครั้งด้วย จึงวิ่งไปหยิบมีดอีโต้ที่วางอยู่ในบ้านมากระหน่ำฟันนายสันติราษฎร์ จนนอนแน่นิ่งจมกองเลือด  ซึ่งตอนที่ฟันก็ไม่คิดว่าจะเอาให้ถึงตาย  หลังก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน และยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไป  

หลังสอบสวน พ.ต.ท.ประยูร ฤทธิ์ตา สารวัตร (สอบสวน) สภ.แคนดง ก็ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และเตรียมนำตัวส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ 

ขณะบรรยากาศที่วัดอนามัย ต.แคนดง อ.แคนดง ทางญาติของนายสันติราษฎร์ ผู้ตาย ก็ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รอรับศพออกจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 

ขณะที่ นางนริศราวรรณ อายุ 44 ปี น้าผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า นายสันติราษฎร์ หลานชายได้ไปอยู่กินกับนางน้อย (นามสมมติ) แม่ของผู้ก่อเหตุได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ก็ยอมรับว่าหลานเป็นคนชอบดื่มเหล้า ตนก็พยายามตักเตือนหลานหลายครั้งด้วยความเป็นห่วง และที่ผ่านมาก็ได้ยินข่าวว่าหลานมีปัญหากับลูกเลี้ยงบ่อยครั้งเพราะบางทีกินเหล้าด้วยกันแล้วพูดจาไม่ถูกหู 

ส่วนเรื่องที่ลูกเลี้ยงอ้างว่าผู้ตายเมาแล้วไปทำร้ายภรรยา หรือแม่ของผู้ก่อเหตุนั้น ก็เคยได้ยินมาบ้างแต่ทางฝ่ายหญิงก็ไม่ได้พูดอะไร จึงคิดว่าเป็นเรื่องของผัวเมียที่ต้องมีปากเสียงกระทบกระทั่งเป็นธรรมดา แต่ไม่คิดว่านายไพศาล ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงจะลงมือฆ่าหลานชายของตัวเองอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้

หากบอกว่าไม่ตั้งใจจะเอาให้ถึงตาย ก็ไม่น่าจะฟันหลานแผลขนาดนี้ ซึ่งตอนเองเห็นสภาพหลานแล้วรับไม่ได้ จึงไม่ขออโหสิกรรมให้และห้ามไม่ให้มาขอขมาศพอย่างเด็ดขาด ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุดเพื่อให้ได้ชดใช้กรรมกับสิ่งที่ทำ