เจ้าหน้าที่ส่งเด็กถูกล่ามโซ่ กลับไปหาพ่อ หลังพบเป็นเด็กพัฒนาการผิดปกติ
เจ้าหน้าที่ส่งลูกชายวัย 13 ปี หลังถูกล่ามโซ่ไว้ ส่งกลับสู่อ้อมอกของพ่อ หลังแพทย์ไม่พบว่าผิดปกติ เนื่องจากเด็กมีพัฒนาการไม่ปกติ พร้อมสั่งเฝ้าระวัง เพราะพ่อเด็กมีโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง
จากกรณีที่พบเด็กชายวัย 13 ปี ที่ถูกพ่อจับมาล่ามโซ่ไว้ใต้ต้นมะขาม ใกล้กับสวนยางพารา ในพื้นที่ ต.ควนกาหลง อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนกาหลง พร้อมด้วย พมจ.สตูล และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล เดินทางเข้าช่วยเหลือพร้อมนำเด็กมาไว้ยังที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล จากนั้นก็ได้นำเด็กไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลสตูล
แพทย์ระบุว่า เด็กชายมีบาดแผลที่เกิดขึ้นตามตัว ศีรษะ ขาและแขน เพราะเกิดจากการซุกซนของเด็กเอง และพบว่าน้องมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับพัฒนาการทางสมองที่ไม่เหมือนคนอื่น จึงทำให้น้องไม่อยู่นิ่งและไม่รู้ว่าน้องทำอะไรอยู่ จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า พ่อจับน้องล่ามโซ่เพราะด้วยสาเหตุนี้ หากไม่ล่ามน้องไว้น้องจะซุกซนและเป็นอันตรายได้ ทางการแพทย์ถือว่าไม่ผิดเป็นวิธีการควบคุมตัวน้องไว้ แต่การใช้โซ่ล่ามที่เท้านั้นเป็นวิธีไม่เหมาะอย่างยิ่ง ควรใช้แค่ผ้ามัดเอาไว้
สำหรับ นายกิติศักดิ์ อายุ 37 ปี หลังจากได้พูดคุยโดยกับนักจิตวิทยาของโรงพยาบาลสตูล สรุปได้ว่า นายกิติศักดิ์เป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงมาก เสี่ยงที่จะทำร้ายตัวเองหรือทำสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะพบว่าพ่อมีปัญหาครอบครัวในอดีตที่ฝังใจไว้มานาน รวมทั้งสภาพความยากจน ที่ต้องดูแลครอบครัว มีภรรยาใหม่แล้ว ทำหน้าที่พ่อดูแลลูกถึง 2 คน คนแรกก็น้องวัย 13 ปีที่ล่ามโซ่ไว้และลูกกับภรรยาใหม่อีก 1 คน จึงเกิดความเครียดหลายอย่าง บางทีก็มีอาการซึมเศร้า ไม่พูดจา ชอบอยู่คนเดียว คิดคนเดียว
นายอูมา หะยีมะเก๊ะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล กล่าวว่า เด็กชายที่ถูกพ่อล่ามโซ่ไว้ ขณะนี้ได้ส่งกลับบ้านไปแล้ว เพราะสาเหตุที่ส่งกลับได้ตรวจสอบและดูว่า การกระทำไม่ได้โหดร้ายทารุณกับเด็ก เพียงต้องการแก้ปัญหาปกป้องกันเด็กไม่ให้เกิดอันตรายยามตนเองพักผ่อน โดยจะล่ามโซ่น้องไว้เป็นหลักแหล่ง
แต่อย่างไรก็ไม่สมควรที่จะล่ามน้องกับโซ่ ควรใช้แค่ผ้ามัดก็พอ ส่วนบาดแผลที่เห็นไม่ได้เป็นการทารุณกรรมแต่อย่างใด ต่อจากนี้ก็จะมีชุดเฝ้าดูประเมินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หรือชุดติดตามผลโดยประสานการทำกับโรงพยาบาลในพื้นที่ เบื้องต้นได้ช่วยเหลือเป็นทุนดูแลตามศักยภาพที่ช่วยเหลือกัน