โอละพ่อ สาวถูกโจรกรีดแขน-ปล้นทอง 2 สลึง สารภาพกุเรื่องขึ้นกลัวแม่ไม่รัก

สาวอ้างถูกโจรปล้นทอง 2 สลึง โป๊ะแตกรับสารภาพกุเรื่องกลัวแม่ไม่รัก ตำรวจสืบทราบเจ้าตัวป่วยจิตเคยก่อเหตุฆ่าตัวตายที่เขื่อนเจ้าพระยา

จากกรณีที่ น.ส.นุชจรีย์ อายุ 26 ปี ชาวอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกคัตเตอร์ของคนร้ายที่ดักที่ดักจี้และทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เป็นบาดแผลที่ท่อนแขนขวา ยาวประมาณ 10 เซ็นติเมตร ต้องเย็บประมาณ 20 เข็ม ที่บริเวณกลางซอยบ้านแขก-โลตัส

 โดย น.ส.นุชจรีย์ อ้างว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน สูงประมาณ 160 ซ.ม.และ 165 ซ.ม. สวมเสื้อคลุมสีดำหมวกกันน็อกสีดำทั้งคู่ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วง ไม่ทราบทะเบียน ได้ขับประกบและบังคับให้หยุดรถกลางทางซึ่งเป็นจุดเปลี่ยว ได้สร้อยทองคำ 2 สลึง แล้วหลบหนีไป ช่วงบ่ายของวันที่ 25 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ชัชภิมุขมีมุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบว่าในช่วงเกิดเหตุภายในซอยเทศบาล 5 น.ส.นุชจรีย์ได้ขับรถผ่านเข้าไปในซอยเพียงคนเดียวไม่มีใครตามประกบตามที่ให้การ

และเมื่อสอบถามจากร้านค้าใกล้ที่เกิดเหตุทำให้ทราบว่าน้องได้แวะซื้อมีดคัตเตอร์มา 1 ด้าม ทำให้เป็นที่น่าสงสัย อีกทั้งมีร้านทองในตัวเมืองชัยนาทแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุน้องได้นำทอง 2 สลึงไปจำนำกับทางร้าน โดยได้เงินสดไป 9,000 บาท

 ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเจ้าตัวอาจจะเป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้น จึงเชิญตัวมาสอบสวนพร้อมทั้งให้ดูหลักฐานต่างๆ ในที่สุด น.ส.นุชจรีย์ ยอมรับว่าเป็นคนกุเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากแม่ เพราะคิดว่าแม่ไม่รัก และเครียดที่ตกงาน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าน้องมีประวัติป่วยทางจิต เคยก่อเหตุจะกระโดดสันเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อฆ่าตัวตายมาแล้ว เมื่อวันที่ 16ก.พ.ที่ผ่านมา

ซึ่งในเรื่องนี้ทางตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เพราะจะต้องส่งตัวไปให้แพทย์วิเคราะห์สภาพจิตก่อน หากพบว่ายังมีอาการป่วยก็คงไม่ต้องรับโทษกรณีแจ้งความเท็จ แต่ถ้าแพทย์ระบุว่าไม่มีอาการป่วยก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานต่อไป