กษิตเข้ารับทราบข้อหายึดสุวรรณภูมิแล้ว

กษิตเข้ารับทราบข้อหายึดสุวรรณภูมิแล้ว

กษิตเข้ารับทราบข้อหายึดสุวรรณภูมิแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กษิต ภิรมย์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหคดียึดท่าอากาศสุวรรณภูมิแล้ว เสธหนั่น ชี้ กษิต ยังไม่จำเป็นต้องออกจากรมว.ต่างประเทศ สุริยะใส แฉมี แผนโค่นกษิต ชวน ปฏิเสธให้ความเห็น

(6ก.ค.) พ.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยว่านายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรที่ถูกออกหมายเรียก ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าวแล้ว ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร แก้ข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน และหากพนักงานสอบสวนต้องการสอบปากคำเพิ่มเติม นายกษิต ก็ยินดีจะมาพบพนักงานสอบสวนอีก

"เสธหนั่น"ชี้"กษิต"ยังไม่จำเป็นต้องออกจากรมว.ต่างประเทศ

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในหลักปฏิบัติ เมื่อมีคดีและตำรวจเรียกตัวไปสอบสวน ยังไม่ถือเป็นผู้กระทำผิดจนกว่าตำรวจจะสอบสวนเสร็จและส่งเรื่องให้อัยการ ถ้าอัยการส่งฟ้อง มีสำนวนหลักฐานชัดเจนและศาลรับฟ้อง ในทางการเมืองต้องถือว่า นายกษิตควรต้องลาออกโดยไม่ต้องรอคำพิพากษา เหมือนกรณีของตนที่เคยถูกกล่าวหาว่า แจ้งทรัพย์สินไม่ตรงความเป็นจริง เมื่อ ป.ป.ช.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) มีมติ ตนก็ลาออกทันที โดยไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ

"ถ้าจะเรียกร้องก็เรียกร้องได้ และอาจจะมีคนโจมตี แต่ในข้อเท็จจริง ถ้าอัยการสั่งฟ้อง และศาลรับฟ้อง ถึงตอนนั้นถ้าไม่ออก ท่านก็อยู่ไม่ได้ แต่ตอนนี้ตำรวจเพิ่งเรียกมาสอบสวน จะมีข้อเท็จจริงอย่างไร เรายังไม่รู้ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่าน" พล.ต.สนั่น กล่าวและว่า

นักการเมืองทุกคนมีเอกภาพในตัวเอง และมีความรับผิดชอบว่า ถึงเวลาไหนที่ควรต้องออกจากตำแหน่ง ซึ่งเชื่อว่าคดีนี้จะไม่บานปลายหรือส่งผลกระทบต่อรัฐบาล แม้จะมีการถูกหยิบยกมาโจมตี เพราะประชาชนมองออกว่า เป็นเพียงเรื่องที่ตำรวจออกหมายเรียกไปสอบสวนเท่านั้น

"ชวน"ปฏิเสธพูดถึง"กษิต"ถูกออกหมายเรียก

ที่บ้านพัก เลขที่ 183 ถ.วิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ต้องไปถามรัฐบาล แต่หากเป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ก็พอจะพูดได้บ้าง แต่ในกรณีของนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.ระบบบัญชีราชชื่อของพรรคนั้น ที่มีกระแสออกมาก่อนหน้านี้ บ้างก็ได้กล่าวว่าได้นายสุทัศน์ จะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่น

"ผมได้สอบถามนายสุทัศน์แล้วว่า เป็นแค่เรื่องสมมุติที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม ในกรณีนี้หากนายกรัฐมนตรีจะยกภาคอีสานให้พรรคการเมืองอื่น ซึ่งนายสุทัศน์ก็ไม่เห็นด้วย และต่อมานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ตอบไปแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะยกภาคอีสานให้กับพรรคการเมืองอื่น" นายชวน กล่าว
นอกจากนั้น ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในจังหวัดไหนก่อนในภาคอีสานไม่ใช่สาระ ไม่ว่าจะเป็นบุรีรัมย์ หรือศีรษะเกษ และเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย

"สุริยะใส"แฉมี"แผนโค่นกษิต"

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่มีการเรียกร้องให้นายกษิตลาออกจากตำแหน่งเพราะเป็นความต้องการของคนบ้างคนมาตั้งแต่ต้น โดยที่ผ่านมามีการกดดันให้ตำรวจตั้งข้อหาร้ายแรงเกิดเหตุต่อนายกษิต เนื่องจากการที่นายกษิต เป็นรัฐมนตรีมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องการไม่ยินยอมให้กัมพูชา ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว

ขณะที่คนบ้างคนดังกล่าวมีความแน่นแฟ้นกับทางประเทศกัมพูชามากกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สังเกตได้จากระยะหลังนายสุเทพ ต้องเป็นฝ่ายไปพบประเทศกัมพูชา เพราะคงมีการยื่นคำขาดมาว่าจะไม่คุยกับนายกษิตอย่างเด็ดขาด

"พรรคการเมืองใหม่ยืนยันว่าไม่ได้ปกป้องนายกษิต เพราะถึงอย่างไรนายกษิต ก็อยู่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มาอยู่พรรคการเมืองใหม่อย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้จะมองว่านายกษิตจะออกหรือไม่นั้นไม่เพียงพอ จะต้องมองถึงความแข็งแกร่งในเรื่องระหว่างประเทศของไทยด้วย หากนายกษิต ลาออกจะเท่ากับรัฐบาลยอมถอยในทางนโยบายต่อกัมพูชา ซึ่งถือว่าเพลี้ยงพล้ำในทางยุทธวิธีต่อคนบางคนที่สามารถคุกคามเสถียรภาพได้ตลอดเวลา"นายสุริยะใส กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook