บิ๊กตู่ เผยรู้ก่อนแล้วมาสหรัฐฯ จะโดนประท้วง แต่ไม่กลัว ลั่นมีหลักฐานใครอยู่เบื้องหลัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเดินทางมาประชุมสมัชชาสหประชาชาติ โดยมีผู้ที่ออกมาประท้วงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ระหว่างการประชุมว่า ไม่ขอสนใจ หากมีการทักท้วงแสดงว่าตนเองทำงานได้ดี จึงขอให้ไปดูว่าคนไทยคนที่ประท้วงเป็นคนไทยหรือไม่ เพราะพอถามว่ารู้จักประเทศไทยหรือไม่ก็ไม่รู้จัก แต่มาถือป้ายประท้วง จึงอยากให้ไปต่อว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเพราะมีหลักฐานทุกอัน แต่ขี้เกียจทะเลาะเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้ให้ความสนใจ และมีคนรายงานเข้ามาแล้วว่ามาสหรัฐอเมริกาจะต้องเจอ แต่ตนเองก็ไม่กลัว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกออกมาเปิดเผยว่าเคยต้องโทษคดียาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลียว่าต้องให้ความเป็นธรรม กับ ร.อ.ธรรมนัส ส่วนเรื่องการคัดกรองนั้น ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งได้มีแนวทางการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่เป็นการตรวจสอบในชั้นต้นโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะทุกคนจะต้องกรอกประวัติตนเองก่อนที่จะนำมาตรวจสอบ ซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อมูลภายในประเทศไทย
ทั้งนี้ หากทำผิดก็จะมีการเซ็นรับรองว่าจะรับผิดชอบและรับรองรายการกรอกประวัติส่วนตัวทุกประการ ซึ่งหากพบว่ามีความผิดสามารถร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ เพราะเป็นการรับรองประวัติของตนเอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยังมีการกรอกเช่นเดียวกัน เพราะเป็นไปตามกลไกกฎหมาย หากจะเอากลไกของต่างประเทศมา “ก็เอามาดิครับ ก็ขอให้นำข้อมูลมา” เพื่อไปยื่นให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ โดยการคัดกรองบุคคลมาดำรงตำแหน่งเป็นการคัดกรองโดยรัฐบาล ไม่ใช่ตนเองเพียงคนเดียว แต่สิ่งสำคัญของการมาเป็นรัฐมนตรีคือพรรคการเมืองส่งเข้ามา เมื่อส่งเข้ามาก็ต้องมีการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้ในทุกรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผิดก็คือผิดเพราะส่วนตัวปกป้องใครไม่ได้ เนื่องจากเป็นการรับรองโดยตนเอง แม้แต่ตนเองก็ยังมีการยอมรับและเซ็นตอบรับว่ายินยอมให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ และยินยอมที่จะถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ มันจึงกลายเป็นประเด็นการเมืองไปด้วย และหากพบว่า ร.อ.ธรรมนัส ผิด ก็ต้องเอาออก และไม่ว่าใครผิดก็ต้องออกหมด แม้แต่ตัวเองถ้าผิดก็ต้องออก