เจ้าอาวาสคลิปกอดหนุ่มพนักงานขาย อ้างทำไปเพราะ "เอ็นดู" - พระลูกวัดแฉเคยโดนลูบเป้า

เจ้าอาวาสคลิปกอดหนุ่มพนักงานขาย อ้างทำไปเพราะ "เอ็นดู" - พระลูกวัดแฉเคยโดนลูบเป้า

เจ้าอาวาสคลิปกอดหนุ่มพนักงานขาย อ้างทำไปเพราะ "เอ็นดู" - พระลูกวัดแฉเคยโดนลูบเป้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(27 ก.ย.62) จากกรณีมีภาพคลิปชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์โอบกอดพนักงานชายภายในร้านขายสินค้าของใช้ภายในบ้าน ในเขตตัวเมืองเพชรบูรณ์ ต่อมามีการแชร์คลิปวิดีโอดังกล่าวไปอย่างแพร่หลาย และชายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ดังกล่าว หน้าตาคล้ายเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ต.น้ำร้อน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่วัดดังกล่าว แต่ปรากฏว่าเจ้าอาวาสไปต่างจังหวัด พบเพียงพระลูกวัด

>> หนุ่มพนักงานขายช็อก เจอพระคล้ายเจ้าอาวาสวัดพุ่งเข้ากอด บอก "ก็มันอดใจไม่ไหว"

โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภาพในคลิปเป็นเจ้าอาวาสจริง ซึ่งมีพฤติกรรมดังกล่าวมานานแล้ว และเมื่อครั้งตนเป็นฆราวาสตนยังเคยถูกเจ้าอาวาสรูปนี้ใช้มือลูบคลำเป้ากางเกงเลย แต่ตนก็ไม่ได้บอกใคร กระทั่งมาบวชอยู่ในวัดแห่งนี้ แต่ไม่ได้มีการทำสังฆกรรมหรือพูดคุยกันเลย ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้แยกตัวไปอยู่กุฏิใกล้กับเมรุ และแทบไม่ได้ทำกิจของสงฆ์เลย ไม่ว่าเป็นการลงอุโบสถหรือบิณฑบาต

สัมภาษณ์พระลูกวัด

ด้านนายวิรัตน์ หมุ่ยพรม อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.น้ำร้อน อ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในช่วงเย็นและค่ำมักจะมีเด็กวัยรุ่นมาจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่กุฏิของเจ้าอาวาสเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่ามีการมั่วสุมอะไรกันบ้าง แต่ทั้งนี้ชาวบ้านแทบจะไม่มีใครศรัทธาหรือร่วมทำกิจกรรมกับเจ้าอาวาสองค์นี้เลย ที่ผ่านมาเคยได้รวมตัวไปร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระองค์นี้ต่อเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ เช่น มั่วสุมกับเด็กวัยรุ่น ไม่ประกอบศาสนกิจ นำเงินที่ได้จากการทอดกฐิน ผ้าป่า ไปใช้ส่วนตัว ไม่มีการตั้งคณะกรรมการวัด และขอให้จังหวัดได้ย้ายพระรูปนี้ออกไปจากพื้นที่ โดยคณะสงฆ์ได้แจ้งว่าได้ทำการตักเตือนแล้ว หากมีพฤติกรรมดังกล่าวก็จะดำเนินการทันที แต่ที่ผ่านมาพระองค์ดังกล่าว ก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม และคณะสงฆ์ก็ไม่ดำเนินการใดๆ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว โดยได้เปิดเผยว่า ที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไปไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ภาพในคลิปตนโอบกอดพนักงานขายก็จริง แต่ก็เป็นไปด้วยความเมตตา เอ็นดู ไม่มีเจตนาอื่นใด ส่วนกิจการภายในวัด ตนก็ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้ชาวบ้านบางคนที่เสียประโยชน์ ไม่พอใจจึงใส่ร้ายตนเอง เมื่อข่าวออกไปตนเครียดมากถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว และถ้าชาวบ้านไม่อยากให้ตนเองอยู่ที่วัด ตนก็จะไป แต่ขอทำงานใหญ่อีกสัก 1 งานเสียก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook