"ตูมตาม ยุทธนา" ถูกทักหนัก โดนคนเล่นของใส่ แม่รู้ตัวว่าคนนั้นเป็นใคร
ทำเอาแฟนคลับอดเป็นห่วงไม่ได้ เมื่อคุณแม่ของนักแสดงหนุ่ม ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง ได้ออกมาพูดผ่านรายการ ตีท้ายครัว ว่าลูกชายโดนคนเล่นของใส่ ซึ่งมีอารมณ์ที่ผิดปกติจากแต่ก่อนไปค่อนข้างเยอะ อีกทั้งยังพอทราบแล้วด้วยว่าคนคนนั้นเป็นใคร
ล่าสุดมีโอกาสได้เจอ ตูมตาม ยุทธนา เจ้าตัวจึงได้ออกมาเคลียร์เรื่องราวดังกล่าว โดยเผยว่าหลวงพ่อรวมไปถึงครูบาอาจารย์หลายท่านทักตรงกันว่าตนโดนเล่นของ มีอาการหงุดหงิดง่ายตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือน ส่วนตัวเชื่อในเรื่องพวกนี้และมักจะเอาเรื่องของวิทยาศาสตร์มาเชื่อมโยงด้วย พร้อมบอกไม่สำคัญว่าคนที่ทำเป็นใคร แต่ตนขอให้อภัยและเชื่ออีกฝ่ายคงไม่ได้ตั้งใจทำ
ถามเรื่องตีท้ายครัวที่คุณแม่เล่าว่าเราโดนของ ?
“อย่าไปใส่ใจเลยครับ มันไม่มีอะไรหรอก จริงๆ มันเป็นความเชื่อ คือเราแค่วิเคราะห์ว่าอาจเป็นช่วงดวงตก หรือช่วงของชีวิตที่เราเหนื่อยด้วย มันก็อาจส่งผลหลายสิ่งหลายอย่าง คืออยากให้เชื่อเป็นวิทยาศาสตร์ไว้ก่อนดีกว่า เราจะได้หาคำตอบและแก้ไขได้ง่ายกว่า”
ตอนนั้นเรารู้สึกไหมว่าเราเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ?
“ตอนนั้นผมแค่รู้สึกเหนื่อยๆ อารมณ์ก็จะดาวน์ๆ นิดๆ หน่อยๆ แต่ว่ามันไม่ได้หนักมาก ไม่ค่อยรู้ตัวขนาดนั้น แต่ตอนนั้นผมทำงาน 7 วัน มันก็เป็นเหตุเป็นผล แต่ไม่ได้หนักมาก ไม่ได้รู้ตัวว่ามันจะดาวน์ขนาดนั้น คือใจเราปกติ แต่ร่างกายเราเหนื่อยๆ คือผมรู้สึกเอง เพราะเรารู้ลิมิตว่าลิมิตในการทำงานของเรา ตื่นเช้าเราตื่นได้ แต่มันจะมีบางวันมันงัดตัวเองไม่ขึ้นทั้งๆ ที่เราก็นอนเพียงพอ”
“ก็มีอาการประมาณเดือนหนึ่ง ซึ่งมันก็ไม่ได้หนักมาก ถ้ามองไป ผมว่าไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้น มันเป็นความบังเอิญมากกว่า ที่มันอาจจะมีลมพัดลมเพมา หรือใครก็ตามที่สร้างให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น เขาคงรัก ซึ่งเรามองในมุมนี้เราก็รู้สึกดี ว่าเขารักเรา แต่ขอร้องไม่ต้องไปหานะว่าเป็นใคร”
แม่บอกว่ารู้แล้วว่าเป็นใคร ?
“คือก็แล้วแต่ครับ มันไม่เกี่ยวว่าเป็นใครหรอกครับ เอาเป็นว่าเจตนาของความรักมีหลายรูปแบบ คนเขารักเขาก็แค่ คือจริงๆ เป็นความไม่รู้ ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ”
หลวงพ่อเป็นคนบอกใช่ไหม ?
“หลวงพ่อเป็นคนบอก และก็ครูบาอาจารย์ทักมาครับ จริงๆ เราก็แค่ทำบุญให้มากขึ้น และสิ่งสำคัญคือไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับเรา แย่ขนาดไหน เราต้องอภัยให้เขา เราต้องมองในแง่ดีว่าเหตุผลคืออะไร ถามว่ามีของขลังติดตัวไหมก็มีนะ ผมก็ใส่สร้อยพระอยู่ปกติอยู่แล้วครับ”
เราเชื่อใช่ไหมว่าอาจจะโดนของ ?
“คือผมเชื่ออยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่าเราจะเชื่อผสมๆ กัน ระหว่างเรื่องความเป็นจริง สิ่งที่พิสูจน์ได้ และอะไรหลายอย่างถ้ามันมีเหตุมีผลจริงๆ ผมก็ค่อยยอมรับ”
เราต้องระวังตัวมากขนาดไหน ?
“จริงๆ มันควรระวังมาตั้งนานแล้วสำหรับคนที่ทำงานในวงการ ผมเชื่อว่าหลายคนคงถือคงระวังกันอยู่แล้ว เราอยู่ในจุดที่มีคนรัก มีคนชื่นชอบค่อนข้างมาก เวลาเราไปไหนมาไหน มันอาจจะเกิดเหตุการณ์อะไรก็ได้ เราไม่รู้ไม่เห็นอยู่แล้ว ระวังไว้ดีกว่า ระวังไว้ เตรียมการไว้ คือผมแค่รู้สึกว่าเราป้องกันตัวเองดีกว่า แต่เราไม่ได้ว่าคนอื่น และไม่ต้องไปหาหรอกว่าเป็นใคร มันเป็นเวรเป็นกรรมของเขา”
ทำไมถึงเชื่อเรื่องเวรกรรม ?
“สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ต้องเป็นกรรมอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราอย่าไปต่อเลย เราก็อโหสิกรรมให้กันไป แล้วก็ใช้ชีวิตกันต่อ ในทุกเรื่องครับ”
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ