"นกชนหิน" ถูกล่าตัดหัวทำเครื่องประดับ โซเชียลดันเป็นสัตว์ป่าสงวนตัวที่ 20
จากกรณีการลักลอบล่าตัดหัว “นกชนหิน” นำไปทำเป็นเครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้วโพสต์ขายตามเฟซบุ๊กอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างมากในโซเชียล เนื่องจากนกชนหินเป็นสัตว์ป่าเสี่ยงที่ใกล้จะสูญพันธ์ โดยก่อนหน้านี้ นักอนุรักษ์นกเงือกเขาบูโดได้โพสต์ข้อความระบุว่า "นกชนหิน" ถูกนายพรานยิงตายรวด 4 ตัว อยากวอนภาครัฐเร่งคุ้มครอง
>> นักอนุรักษ์ฯ สะเทือนใจ "นกชนหิน" โดนพรานใต้ล่าตายรวด 4 ตัว
ล่าสุดที่ www.change.org สร้างแคมเปญ เพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งประกาศพระราชกฤษฎีกา กำหนดให้ “นกชนหิน” ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าสงวนตัวที่ 20 ของประเทศไทย และมีแผนการจัดการอนุรักษ์ ปกป้องนกชนหินให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่างๆ รวมถึงมีแนวทาง ฟื้นฟูประชากรนกชนหินให้มีจำนวนมากขึ้น
หลังมีการสร้างแคมเปญดังกล่าวขึ้น โซเชียลแห่ร่วมลงชื่อสนับสนุน ผ่าน www.change.org ซึ่งในวันนี้ (1 ต.ค. 62) มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนไปแล้วกว่า 6,965 คน
ข้อมูลจาก www.change.org ระบุว่า นกชนหิน ถือเป็นสัตว์โบราณและเชื่อกันว่ามีความเก่าแก่ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของนกเงือกแห่งเอเชีย ที่ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบัน อาศัยในป่าดงดิบ และกระจายพันธุ์ตั้งแต่ทางตอนใต้ของไทย บางส่วนของพม่า เรื่อยไปจนถึงมาเลเซีย และอินโดนีเซีย นกชนหินเป็นนกที่มีลักษณะแปลกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง มีจุดเด่นอยู่ตรงโหนกที่ตันต่างจากนกเงือกชนิดอื่น และนั่นเองทำให้ถูกมนุษย์ตีราคาอวัยวะชิ้นนี้ไม่ต่างจากงาช้าง โดยให้ชื่อว่า “งาช้างสีเลือด” กลายเป็นสิ่งดึงดูดใจผู้มีความเชื่อผิดๆ นิยมบูชางาเป็นวัตถุมงคลแห่งความมั่งคั่ง