เจ้าสาวปล่อยโฮ "เสี่ยหมื่นล้าน" ทิ้งหนี้วิวาห์ 3.5 ล้าน ยืนยันแต่งเพราะรัก แม้รู้จักแค่วันเดียว

เจ้าสาวปล่อยโฮ "เสี่ยหมื่นล้าน" ทิ้งหนี้วิวาห์ 3.5 ล้าน ยืนยันแต่งเพราะรัก แม้รู้จักแค่วันเดียว

เจ้าสาวปล่อยโฮ "เสี่ยหมื่นล้าน" ทิ้งหนี้วิวาห์ 3.5 ล้าน ยืนยันแต่งเพราะรัก แม้รู้จักแค่วันเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าสาวน้อมรับถูกคนสมน้ำหน้า ยืนยันแต่ง "เสี่ยหมื่นล้าน" เพราะรักแม้รู้จักแค่วันเดียว รีบแต่ง-จดทะเบียนเพราะฝ่ายชายอ้างแก่ เป็นเบาหวาน ปล่อยโฮขอโทษพ่อแม่ พาคนไม่ดีเข้ามาทำลายครอบครัว เผยตอนนี้หย่าแล้ว อีกฝ่ายขู่จะแฉคืน

กลายเป็นข่าวฮือฮาเลยทีเดียว หลังจากที่ น.ส.ดา (นามสมมุติ) ชาว จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้าพบ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความเป็นธรรมและปรึกษาทางด้านคดี ระบุว่าถูก นายท็อป (นามสมมุติ) อ้างว่าเป็นนักธุรกิจรวยหมื่นล้าน รู้จักแค่เพียง 1 วัน หลอกให้แต่งงาน-จดทะเบียนสมรส จัดงานที่โรงแรมหรู

โดยจ้างออร์แกไนซ์ มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดงาน กว่า 3.5 ล้านบาท ก่อนที่เจ้าบ่าวจะเบี้ยวไม่จ่ายเงิน ทำให้ตัวเองต้องตกที่นั่งลำบาก ต้องชดใช้หนี้แต่เพียงผู้เดียว ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน

>> สาวสุดช้ำถูกชายอ้างเป็น "เสี่ยหมื่นล้าน" หลอกแต่งงาน ทิ้งหนี้ 3.5 ล้านให้ชดใช้คนเดียว 

ล่าสุด รายการโหนกระแสวันที่ 2 ต.ค. โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ คุณดา ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

คุณดา บางคนก็สงสาร บางคนก็สมน้ำหน้า?

"ใช่ค่ะ ยอมรับค่ะ"

กลุ้มใจจะเอาเงินตรงไหนมาชดใช้หนี้สิน?

"ใช่ค่ะ"

คุณท็อป (นามสมมติ) อดีตเจ้าบ่าว ไปรูจักได้ยังไง?

"รู้จักในสถานที่แห่งหนึ่งค่ะ แต่ที่ไหนไม่ขอพูดถึงค่ะ เป็นผลทางคดีค่ะ รู้จักกันวันที่ 15 มี.ค. เขาจีบเลยค่ะ วันที่เขามาจีบ เรากลุ้มใจในหลายๆ เรื่อง คุณตาเสียในวันนั้นด้วยค่ะ เขาเข้ามาปลอบใจ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนพบรักค่ะ"

เคยมีแฟนมาก่อนมั้ย?

"เคยค่ะ แต่คนนี้ไม่เหมือนคนอื่นค่ะ"

เขาป้ายน้ำมันพรายคุณเหรอ?

"ไม่ทราบค่ะ (หัวเราะ) แต่คำพูดคำปลอบใจทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมา"

มีแผลในใจ เขาก็พยายามปลอบ หลังจากนั้นยังไง?

"วันที่ 16 มี.ค. เขาบอกจะไปงานศพที่บุรีรัมย์ด้วย เราก็รู้สึกว่าถ้าคุณอยากไปก็ไป เขาก็ขับรถพาไป โดยรับคุณน้า แฟนคุณน้า และหลานเราอีกคนเดินทางไปด้วยกัน พอไปถึงงานศพก็ช่วยงานหลายๆ ด้าน ประสานโน่นนี่ ทำโน่นทำนี่"

เลยคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนดี แล้วมาบอกตอนไหนรวยหมื่นล้าน?

"ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร เขาขอเป็นแฟน ก่อนถึงวันเผาคุณตา เขาบอกว่าเขาอยากดูแลเรา เพราะเขาอายุมากแล้ว เขาก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องการคนดูแล เขาก็เพิ่งเลิกกับภรรยา เขาไม่อยากจะรอแล้ว เห็นคนที่ถูกใจและคิดว่าจะใช้ชีวิตด้วยกันได้ ก็ไม่อยากรอ ไม่อยากเสียเวลามากกว่านี้แล้ว ตอนแรกเราก็คิดว่าเขาพูดเล่น แต่เขาไปสู่ขอกับพ่อแม่เลย"

26 มี.ค. จดทะเบียนสมรส?

"เราไม่ได้คิดว่าเขารวยหรือไม่รวย แต่เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนดีที่น่าจะดูแลเราได้ จะมาหลอกอะไรเรา เราไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น จนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาพาเราไปเจอหลายๆ คนที่จะร่วมธุรกิจด้วย"

เขาบอกมั้ยว่ามีเป็นหมื่นล้าน?

"ตอนแรกยังไม่พูด แต่เขาพาเราไปเจอหลายคนที่เขาจะร่วมธุรกิจด้วย จนเรามั่นใจว่าเขาอยากแต่งกับเราจริงๆ เขาเริ่มแสดงว่ามีธุรกิจ มีเงินเท่าไหร่อะไรตอนหลัง ตอนแรกเราคบเขาเพราะเรารู้สึกว่าเรารักเขา ชอบเขา"

คนรอบข้างตัวเขายืนยันว่าเขารวยจริง?

"คนรอบข้างไม่ได้ยืนยันชัดเจน แต่ให้ความนับถือเขา เขาบอกมีเงินมีบริษัทอยู่ที่ฮ่องกง เขาบอกเราว่าทำเทรดกับธนาคาร มีเงินอยู่ในธนาคารชื่อดังแล้วส่งไฟล์มาให้เราดูจริงๆ"

คุณก็เริ่มตายใจ ตกลงแต่งงานกับเขา?

"ก็ตกลง จริงๆ เขาขอจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ขอแต่งงาน เขาบอกว่าถ้าไม่มั่นใจ กลัวมีเมีย คบซ้อนไปจดทะเบียนเลย พอมากรุงเทพฯ เขาพูดเรื่องนี้มาอีก อ้างว่าแก่แล้ว ไม่สบาย เราก็โอเค จดก็จด ไม่ได้คิดอะไรอีก"

15 มี.ค. เจอกัน 16 มี.ค. ขอแต่งงาน ประมาณ 10 วันคุณจดทะเบียน 10 พ.ค. จัดงานแต่งงานที่ไหน?

"ที่บุรีรัมย์ค่ะ เพราะบ้านเกิดอยู่ที่นั่น ก่อนเลือกโรงแรมเขาได้ติดต่อทางออแกไนซ์ แล้วออแกไนซ์ก็ลงไปดู"

เขาให้ออแกไนซ์จัดงานให้เลย ราคาเท่าไหร่?

"2.68 ล้าน ค่าโรงแรม 383,000 ค่าเครื่องดื่ม 5 หมื่น รวมๆ ค่าใช้จ่าย 5 ล้านกว่าบาท"

เขาจ่ายมั้ย?

"มีจ่ายค่ามัดจำดนตรีไปสองหมื่นห้า"

อีก 5 ล้านกว่า?

"ก็ยังไม่มีจ่าย เขาไม่ได้หายไปไหนนะคะ ยังติดต่อได้จนถึงทุกวันนี้ แต่เขาอ้างว่าเงินยังไม่โอนจากฮ่องกง เขาเดินทางไปฮ่องกงแต่ไม่ให้เราไปด้วย ไปจีน ไปสิงคโปร์ ไปโน่นนี่ ไม่รู้ไปจริงหรือเปล่า"

เรื่องเข็มขัดทอง ซึ่งเป็นของหมั้น สรุปมีหรือไม่มี?

"มีอยู่ในงานค่ะ ทอง 25 บาทค่ะ เขาไปตกลงซื้อขายกับร้านทำแหวน แต่ตกลงกันยังไงไม่รู้ เราไม่ทราบ เขาเอาไทม์ไลน์มาให้ดูว่าตกลงซื้อแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน แต่ขอชำระเงินหลังแต่งงาน เจ้าของร้านก็ตกลง ให้เกียรติเขา เชื่อเขาเหมือนกัน"

เขาเอามาให้เรา 25 บาท เป็นเท่าไหร่?

"8.6 แสนบาท"

เขาเอาทองมาจากร้านทอง แล้วไม่ได้จ่ายเงิน เอามาก่อนโดยใช้เครดิต คุณคิดว่าซื้อแล้ว พอหลังจากนั้นคุณเริ่มรู้สึกตัวเมื่อไหร่ว่าถูกหลอก?

"เริ่มรู้สึกตัวหลังงานแต่ง เขาผลัดมาเรื่อยๆ พอถึงเวลากำหนดบินไปฮ่องกงเพื่อไปเบิกเงิน เขาก็ป่วย ไปรพ. ไปนอนจริงจัง เหมือนผลัดไปเรื่อยๆ เราก็คิดว่าทำไมคุณมีเงิน คุณโดนคนทวงขนาดนี้ ทำไมไม่รีบเอาเงินมาจ่าย" 

สรุปงานแต่งวันนั้นผ่านไปราบรื่น?

"ใช่ ไม่มีปัญหาอะไรเลย"

เป็นเครดิตทั้งหมด ไม่มีการจ่าย ทุกอย่างต้องจ่ายเงินหลังแต่งงาน แต่เขาไม่จ่าย?

"ใช่ค่ะ เขาเลื่อนมาเรื่อยๆ ออแกไนซ์ก็ทวงเขาบอกว่ารอเงินจากฮ่องกง รอทำเรื่องโอนแต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย หลังๆ เขาไม่ตอบโรงแรม ไม่ตอบออแกไนซ์ จนหนูต้องมาตอบเอง แต่เขาโกหกหนูว่าตอบออแกไนซ์ ตอบโรงแรมไปแล้ว เราก็รู้สึกตรงนี้ บริสุทธิ์ใจจริงทำไมต้องหนี"

ตอนนี้หย่าแล้ว?

"หย่าเมื่อวานนี้ เขายอมหย่าค่ะ เขาก็ยืนยันคำเดิมว่ารอเงินจากฮ่องกง หนูยังคุยกับเขาดี แต่เรารอไม่ได้แล้ว เพราะต้องกู้หนี้มาจ่ายตรงนี้ตรงนั้น แต่เขาไม่กระตือรือร้นอะไรเลยอ้างแต่เรื่องฮ่องกงบินไปโน่นนี่นั่น"

ภาระหนี้สิน ตกอยู่ที่คุณ เขาทวงมั้ย?

"ออแกไนซ์ก็ทวง ว่าทำให้เขาเสียหาย จัดงานแล้วไม่จ่ายเงิน เราก็บอกว่าคุณท็อปเป็นคนติดต่อ ตอนนี้เขาก็ชิ่งเราอีกที"

คุณจะทำยังไงต่อไป?

"ก็ต้องดำเนินคดี ปรึกษาทางด้านกฎหมาย"

ฝั่งท็อปติดต่อมามั้ย?

"ติดต่อเมื่อวานที่ได้ออกข่าว เขาก็ส่งข้อความมาว่าต้องออกไปทำอะไรขนาดนี้เลยเหรอ ประมาณว่าเขาเซ็นใบหย่าให้แล้ว สลักหลังไว้ให้ว่าเขาจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทำไมต้องมาทำแบบนี้อีก"

เหมือนคุณแฉเขา เขาบอกมั้ยจะทำอะไร?

"เขาไม่เชิงขู่จะมาทำร้าย แต่บอกว่าไม่คิดว่าเขาจะแฉอะไรเราบ้างเหรอ"

พ่อแม่เป็นยังไง?

"พ่อแม่เสียใจ เราก็รู้สึกเสียใจมาก ที่นำพาคนแบบนี้มาให้ครอบครัวเดือดร้อน ให้คนรอบข้างเดือดร้อน (ร้องไห้) ทำกับเราคนเดียวไม่ว่านะ แต่นี่ทำครอบครัวเราเสียใจ (ร้องไห้) และทำคนอื่นเดือดร้อนหลายๆ คน รู้สึกแย่"

พี่ชายถูกเรื่องอะไร?

"เรื่องเข็มขัด เพราะเราคิดว่าเขาตกลงซื้อขายกันแล้ว ในวันงานถ้าออแกไนซ์ไม่ได้เงินจากอะไรใดๆ เลย เขาจะดำเนินงานต่อไปไม่ได้ เราก็เห็นใจเขานิดนึง เราคิดว่าเป็นทองหมั้นเราก็เลยเอาไปจำนำ"

เพราะคิดว่าเขาซื้อให้เราแล้ว ร้านทองก็เล่นคุณสิ พี่ชายโดนด้วย?

"พี่ชายเอาไปจำนำค่ะ  เราอยู่ในชุดแต่งงาน ออแกไนซ์พูดว่าอยู่ในชุดบ่าวสาวไม่ควรออกไปทำอะไรแบบนี้"

เห็นว่าคุณไปสืบประวัติมา คุณไม่ได้เป็นคนเดียว?

"ไม่ได้สืบประวัติ แค่โทรไปถามแฟนเก่าเขา เราไปดูไอจี ว่ามีคนทักมาพี่ครับๆ หลายครั้งก็ถามว่ามีอะไร รู้จักกันไหม เขาก็รู้จัก และโดนแบบนี้ แต่โดนเรื่องอื่นและเป็นเรื่องเงินเหมือนกัน เราไม่รู้เขาจะยังไง เขาก็ยอมหย่าให้ เซ็นสลักหลังว่าเขาจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"

สุดท้ายอยากบอกอะไรกับพ่อแม่?

"(ยกมือไหว้) ขอโทษแม่และครอบครัวที่พาคนไม่ดีมาทำลายครอบครัว ขอโทษจริง(ร้องไห้)"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook