โรงพยาบาลแจงดราม่า สาวคลอดลูกตายกะทันหัน ยืนยันไม่เคยทอดทิ้ง
ผอ.โรงพยาบาลออกโรงชี้แจงดราม่า สาวโรงงานคลอดลูกเสียชีวิตกะทันหัน ยืนยันทำเต็มที่แต่อาการทรุดหนัก ไม่เคยทอดทิ้งคนไข้ สั่งเจ้าหน้าที่ดูแลญาติอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีที่ นางประทิน อายุ 37 ปี สาวโรงงานที่เสียชีวิต ภายหลังคลอดลูกคนที่ 3 เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.อ่างทอง ท่ามกลางความสงสัยของญาติที่ติดใจการทำงานของแพทย์และพยาบาล เนื่องจากไม่มีการแจ้งอาการคนไข้ กระทั่งทรุดหนักลง ก่อนเสียชีวิตลงในที่สุด
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวกับ นพ.มีโชคชัย วิเศษสิทธิโชค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธ์ทอง พร้อมกับเปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียซึ่งทุกคนก็ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่หลังจากนางประทินเดินทางมาที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 06.30 น. และทางแพทย์ได้เข้ารับตัวเข้ารักษาภายใน 5 นาทีเท่านั้น เนื่องจากแพทย์เจ้าของไข้พักอยู่ภายในโรงพยาบาล
โดยหลังจากการทำคลอดนั้น คนไข้เสียเลือดมากและมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทางแพทย์ได้ระดมเจ้าหน้าที่และแพทย์ช่วยชีวิตและรักษาเบื้องต้น แต่อาการกลับแย่ลง ซึ่งทางโรงพยาบาลติดต่อไปยังโรงพยาบาลอ่างทองเพื่อที่จะส่งต่อคนไข้มารักษาต่อ แต่อาการกลับทรุดลง ทางแพทย์และเจ้าหน้าที่ต้องรักษาตามไกด์ไลน์และปรึกษาคุณหมอสูติแพทย์ของโรงพยาบาลอ่างทอง
ทั้งนี้ ทางเราก็รักษาอาการตามคำแนะนำ แต่ขณะที่กำลังเตรียมส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลอ่างทอง แต่อาการคนไข้ไม่อยู่ในสภาวะที่จะส่งตัวต่อได้เพราะคนไข้เสียเลือดเยอะและความดันไม่คงที่ ชีพจรเต้นเร็ว หากส่งขึ้นไปเกิดปัญหาจะไม่สามารถช่วยเหลือคนไข้ได้อย่างเต็มที่ ทางเราจึงต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้นก่อนที่จะดำเนินการส่ง แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงไม่สามารถส่งต่อไปได้
ส่วนกรณีที่ญาติติดใจว่าทำไมถึงไม่แจ้งอาการคนไข้ปล่อยให้หนัก จนต้องปั๊มหัวใจจึงมีคนออกมาบอกนั้น ในเวลานั้นเป็นช่วงเช้ามีเจ้าหน้าที่และพยาบาลอยู่ไม่มาก แพทย์จึงต้องเห็นความสำคัญของการช่วยชีวิตคนไข้ก่อน โดยกำลังทั้งหมดที่มีในวันนี้ต่างช่วยกันกู้วิกฤติของคนไข้อยู่จึงไม่มีเวลาที่จะมาแจ้งให้กับทางญาติทราบ
ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุแล้วทางโรงพยาบาลได้ลงไปช่วยเหลือดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทุกช่องทางที่สามารถช่วยได้เพราะเป็นสิ่งที่ทางแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ตอนนี้เราลงไปช่วยทุกช่องทางที่สามารถจะช่วยได้และทำความเข้าใจกับทางญาติอีกครั้งถึงการรักษาในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุการตกเลือดต้องดูในรายละเอียดการรักษาอีกครั้งหนึ่ง