หนุ่มขับกระบะ 13 ศพ โดนแจ้งข้อหายาวเหยียด ยอมรับผิด "ผมขับมาเร็ว"

โชเฟอร์หนุ่มขับรถกระบะเทกระจาด โศกนาฏกรรมนักศึกษาตาย 13 ศพ เข้ารับทราบข้อหายาวเหยียด ยอมรับขับรถเร็วจริง เพราะเกรงว่าจะมีคนไล่ตามมาทำร้าย

จากกรณีเมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ที่ 29 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา อุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำบนถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี สมุทรปราการ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บอีก 6 คน รวมทั้งคนขับ ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ภาพจากกล้องวงจรปิดของ อบต.ราชาเทวะ บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ จนกระทั่งในวันนี้อาการของนายนิตยา ผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวดีขึ้นเกือบเป็นปกติแล้ว

ล่าสุดในวันนี้ (3 ต.ค.) พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้เชิญตัว นายนิตยา อายุ 27 ปี คนขับรถกระบะคันที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมและรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพ ในวันเกิดเหตุหลังจากงานเลี้ยงเลิกตนได้ขับรถพาน้องๆ นักศึกษาฝึกงานและคนงานในอู่ออกมาดูคอนเสิร์ตหมอลำซิ่ง โดยมีบางคนนั่งรถแท็กซี่ตามมาที่หลัง

แต่หลังจากคอนเสิร์ตเลิกแล้ว ในระหว่างที่กำลังจะเดินทางกลับที่พักกัน ได้มีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งไม่ทราบว่าพวกไหนได้ขว้างปาขวดใส่ตนและพวก ตนจึงตัดสินใจบอกให้ทุกคนรีบขึ้นรถและออกไปจากบริเวณดังกล่าว เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันขึ้น ก่อนที่จะรีบขับรถออกมาด้วยความเร็ว

นายนิตยา ยอมรับว่า ตอนนั้นตนขับรถค่อนข้างเร็ว เมื่อมาเจอรถคันหน้าขับช้าจึงพยายามเบี่ยงขึ้นแซง แต่จังหวะที่แซงขึ้นไป รู้สึกเหมือนรถจะเสียหลักพลิกคว่ำ ตนจึงหักพวงมาลัยคืน และหลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย

ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ (2 ต.ค.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบเก็บพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยมีการปิดถนนจำลองเหตุการณ์ เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบสำนวนการสอบสวน

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า ในวันนี้ได้เชิญตัวคนขับรถกระบะคันที่เกิดเหตุ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหา ฐานขับรถขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

แต่เนื่องจาก นายนิตยา มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว ไม่เกิน 1 ปี ตาม พรบ. จราจรทางบก โดยทั่วไปปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ถ้าเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าขับรถในขณะเมาสุรา แต่ว่ามีข้อยกเว้นในกรณีที่ผู้ขับขี่ได้รับใบอนุญาตประเภทชั่วคราว ถ้ามีค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าขับรถในขณะเมาสุรา ซึ่งผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดของนายนิตยา เกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงถูกแจ้งข้อหานี้ไปด้วย

และยังมีข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ทั้งทรัพย์สินทางราชการและทรัพย์สินที่เป็นของประชาชนด้านข้างถนน ใช้รถไม่ตรงกับประเภทที่จดทะเบียนไว้ คือรถบรรทุกสิ่งของแต่นำมาบรรทุกคน ถือว่าเป็นการใช้รถไม่ตรงใช้รถไม่ตรงกับประเภทที่จดทะเบียนไว้

ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายนิตยา ได้ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุได้มีการดื่มสุราแต่ก็ในปริมาณไม่มากตามที่แพทย์พบ และก็ขับรถมาด้วยความเร็วจากที่สอบสวนทราบว่าร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง มีการขับรถแซงอย่างกะทันหัน ทำให้รถเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย