เปิดคำพูด "หนุ่มเผาทั้งเป็น" เพราะแค้นแฟนสาว 17 ปีก่อน ทำพิการถึงวันนี้

เปิดคำพูด "หนุ่มเผาทั้งเป็น" เพราะแค้นแฟนสาว 17 ปีก่อน ทำพิการถึงวันนี้

เปิดคำพูด "หนุ่มเผาทั้งเป็น" เพราะแค้นแฟนสาว 17 ปีก่อน ทำพิการถึงวันนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ที่รอคอย ญาติสาวเหยื่อถูกเผาทั้งเป็นเมื่อ 17 ปี ขอบคุณตำรวจที่จับกุมตัวคนร้ายได้ก่อนหมดคดีความ ด้านผู้ก่อเหตุให้การภาคเสธ ไม่รู้ว่าตัวเองมีหมายจับ รับแค่ต้องการหนีให้พ้น 20 ปี

(3 ต.ค.) นางกอลิเย๊าะ อายุ 63 ปี พร้อมกับญาติพี่น้องได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เทเวศน์ ปลื้มสุด ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังทราบว่ามีการจับคนร้ายที่ทำร้ายลูกสาวและเผาทั้งเป็น ทำให้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานถึง 17 ปี เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้หลบหนีคดี เพราะความหึงหวงเนื่องจากฝ่ายหญิงขอบอกเลิก

โดยนางกอลิเย๊าะ เปิดเผยว่า เมื่อ 17 ปีก่อน ตอนนั้นมีอายุ 20 ปี ถูก นายคำรณ หรือ บังหนิด ทำร้ายร่างกาย และจุดไฟเผาร่าง ซึ่งคดีนี้ผ่านมานานมากแต่ยังไม่มีความคืบหน้า กระทั่งทราบในช่วงเช้าวันนี้ว่า ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมตัว นายคำรณ ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ ข้อหาพยายามฆ่าและปล้นทรัพย์ ได้ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนหมดอายุความเพียง 2 ปีเศษ

นางกอลิเย๊าะ รู้สึกดีใจเพราะเป็นการรอคอยถึง 17 ปี เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาว วันนี้ลูกสาวยังไม่พร้อมที่จะมายังสถานีตำรวจ จึงให้รออยู่ภายในรถ คดีนี้เกิดขึ้นมานานแต่คดีเงียบหายไป จึงได้เรียกร้องให้ตำรวจรื้อคดีขึ้นมาใหม่ จนในที่สุดก็สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในที่สุด จึงรู้สึกพอใจและขอขอบคุณตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยเหลือจนได้รับความเป็นธรรม

ขณะเดียวกัน นายคำรณ หรือ บังหนิด อายุ 38 ปี ชาวอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ตกเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีทำร้ายร่างกายและจุดไฟเผา น.ส.วรรณา ปัจจุบันอายุ 37 ปี ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุทำร้ายร่างกายและเผา น.ส.วรรณา หลังเกิดเหตุทราบว่าฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนจะไปหาที่โรงพยาบาลแต่ครอบครัวของฝ่ายหญิงห้ามเอาไว้

โดยหลังจากนั้นได้ถูกจับตัวแล้วขึ้นศาลพิจารณาคดีไปแล้ว แต่ยอมรับว่าได้หลบหนีคดีไปในชั้นพิจารณา โดยตั้งใจว่าจะหลบไปซ่อนตัวอยู่ที่อื่น รอกระทั่งครบ 20 ปี ถึงจะกลับมาที่บ้านเกิดอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน

"ผมไม่รู้ว่ามีการออกหมายจับอีกเพราะเอกสารที่ผมมีนั้นศาลได้สั่งเพิกถอนหมายจับแล้ว และให้คืนหลักทรัพย์ประกันตัว ผมเข้าใจว่าคดีเสร็จสิ้นแล้วจึงไปอยู่ที่สุพรรณบุรี แต่มารู้ทีหลังว่ายังมีหมายจับ วันที่กองปราบไปจับเขาไม่ใส่กุญแจมือใดๆเลยด้วยซ้ำ"

ขณะที่ส่วนครอบครัวของผู้เสียหายที่มารอพบนายคำรณนั้น ได้เดินทางกลับไปก่อน เนื่องจากความจำเป็นต่อสุขภาพของน.ส.วรรณา ส่วนการคุมตัวนายคำรณเจ้าหน้าที่ระบุว่าคืนนี้จะถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ส่วนในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว โดยครอบครัวผู้เสียหายจะร่วมยื่นคัดค้านการประกันตัวกับศาลด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook