เปิดคำพูด "หนุ่มเผาทั้งเป็น" เพราะแค้นแฟนสาว 17 ปีก่อน ทำพิการถึงวันนี้
วันนี้ที่รอคอย ญาติสาวเหยื่อถูกเผาทั้งเป็นเมื่อ 17 ปี ขอบคุณตำรวจที่จับกุมตัวคนร้ายได้ก่อนหมดคดีความ ด้านผู้ก่อเหตุให้การภาคเสธ ไม่รู้ว่าตัวเองมีหมายจับ รับแค่ต้องการหนีให้พ้น 20 ปี
(3 ต.ค.) นางกอลิเย๊าะ อายุ 63 ปี พร้อมกับญาติพี่น้องได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เทเวศน์ ปลื้มสุด ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังทราบว่ามีการจับคนร้ายที่ทำร้ายลูกสาวและเผาทั้งเป็น ทำให้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานถึง 17 ปี เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้หลบหนีคดี เพราะความหึงหวงเนื่องจากฝ่ายหญิงขอบอกเลิก
โดยนางกอลิเย๊าะ เปิดเผยว่า เมื่อ 17 ปีก่อน ตอนนั้นมีอายุ 20 ปี ถูก นายคำรณ หรือ บังหนิด ทำร้ายร่างกาย และจุดไฟเผาร่าง ซึ่งคดีนี้ผ่านมานานมากแต่ยังไม่มีความคืบหน้า กระทั่งทราบในช่วงเช้าวันนี้ว่า ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมตัว นายคำรณ ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ ข้อหาพยายามฆ่าและปล้นทรัพย์ ได้ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนหมดอายุความเพียง 2 ปีเศษ
นางกอลิเย๊าะ รู้สึกดีใจเพราะเป็นการรอคอยถึง 17 ปี เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาว วันนี้ลูกสาวยังไม่พร้อมที่จะมายังสถานีตำรวจ จึงให้รออยู่ภายในรถ คดีนี้เกิดขึ้นมานานแต่คดีเงียบหายไป จึงได้เรียกร้องให้ตำรวจรื้อคดีขึ้นมาใหม่ จนในที่สุดก็สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในที่สุด จึงรู้สึกพอใจและขอขอบคุณตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยเหลือจนได้รับความเป็นธรรม
ขณะเดียวกัน นายคำรณ หรือ บังหนิด อายุ 38 ปี ชาวอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ตกเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีทำร้ายร่างกายและจุดไฟเผา น.ส.วรรณา ปัจจุบันอายุ 37 ปี ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุทำร้ายร่างกายและเผา น.ส.วรรณา หลังเกิดเหตุทราบว่าฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนจะไปหาที่โรงพยาบาลแต่ครอบครัวของฝ่ายหญิงห้ามเอาไว้
โดยหลังจากนั้นได้ถูกจับตัวแล้วขึ้นศาลพิจารณาคดีไปแล้ว แต่ยอมรับว่าได้หลบหนีคดีไปในชั้นพิจารณา โดยตั้งใจว่าจะหลบไปซ่อนตัวอยู่ที่อื่น รอกระทั่งครบ 20 ปี ถึงจะกลับมาที่บ้านเกิดอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน
"ผมไม่รู้ว่ามีการออกหมายจับอีกเพราะเอกสารที่ผมมีนั้นศาลได้สั่งเพิกถอนหมายจับแล้ว และให้คืนหลักทรัพย์ประกันตัว ผมเข้าใจว่าคดีเสร็จสิ้นแล้วจึงไปอยู่ที่สุพรรณบุรี แต่มารู้ทีหลังว่ายังมีหมายจับ วันที่กองปราบไปจับเขาไม่ใส่กุญแจมือใดๆเลยด้วยซ้ำ"
ขณะที่ส่วนครอบครัวของผู้เสียหายที่มารอพบนายคำรณนั้น ได้เดินทางกลับไปก่อน เนื่องจากความจำเป็นต่อสุขภาพของน.ส.วรรณา ส่วนการคุมตัวนายคำรณเจ้าหน้าที่ระบุว่าคืนนี้จะถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ส่วนในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว โดยครอบครัวผู้เสียหายจะร่วมยื่นคัดค้านการประกันตัวกับศาลด้วย