โผล่มาอีกวัดเป็นเหยื่อ "เสี่ยกำมะลอ" สวมบทนักบุญ เสนอสร้างศาลา 30 ล้าน

วัดดังนครพนม ตกเป็นเหยื่อ "เสี่ยกำมะลอ" สวมบทนักบุญ เสนอสร้างศาลา 30 ล้าน แต่เจ้าอาวาสไหวตัวทัน ไม่ทุบศาลาหลังเดิม เพราะพบว่าเบี้ยวสัญญาสร้างเสียก่อน

จากกระแสข่าว "เสี่ยหมื่นล้านกำมะลอ" ที่อวดรวยหลอกแต่งงานสาวที่ จ.บุรีรัมย์ กลายเป็นข่าวโด่งดัง กระทั่งมีผู้เสียหายออกมาแฉพฤติกรรมว่ามีการตระเวนหลอกสร้างภาพอวดรวยหลายจังหวัด เพจเฟซบุ๊กชื่อดังยังออกมาแฉว่า เสี่ยกำมะลอ หรือเสี่ยท็อป ได้ส่งเครือข่ายมาติดต่อสวมบทนักบุญ เป็นเจ้าภาพในการจัดสร้างศาลาการเปรียญหลังเก่า ของวัดดังในเขตเทศบาลเมืองนครพนม งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวจึงได้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าวัดที่ตกเป็นข่าวคือ วัดศรีเทพประดิษฐาราม วัดเก่าแก่ชื่อดังในเขตเทศบาลเมืองนครพนม และยังเป็นวัดพระเกจิชื่อดัง หลวงปู่จันทร์ เขมิโย อดีตเจ้าอาวาส มรณภาพตั้งแต่ปี 2516 พบหลักฐานบางส่วนที่เชื่อมโยงเชื่อว่า เสี่ยกำมะลอ มีการติดต่อเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาการเปรียญจริง

เนื่องจากพบมีป้ายโครงการก่อสร้าง ระบุว่า โครงการบูรณะศาลาพระเทพสิทธาจารย์ พร้อมระบุชื่อเจ้าภาพและคณะ ซึ่งเป็นชื่อตรงกับเสี่ยกำมะลอตามเป็นข่าว รวมถึงยังมีชื่อเจ้าภาพอีกคนด้วย พร้อมระบุวันเริ่มสัญญา 6 มกราคม 2562 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 6 มกราคม 2563 ระยะเวลาก่อสร้าง รวม 250 วัน รวมงบประมาณก่อสร้าง 30 ล้านบาท

ส่วนศาลาการเปรียญดังกล่าวยังไม่ได้มีการรื้อถอน มีเพียงการรื้อระบบสายไฟภายใน เพื่อเตรียมการรื้อก่อสร้างใหม่ อีกทั้งยังมีนั่งร้าน เหล็กเส้นบางส่วน นำมากองเตรียมไว้ด้านหลัง แต่พบว่ามีหญ้าขึ้นรกแล้ว

จากการสอบถาม พระลูกวัดรูปหนึ่ง เปิดเผยว่า อุปกรณ์การก่อสร้างนำมาตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ทราบว่ามีผู้รับจ้าง นำมาเตรียมทำการก่อสร้าง หลังมีเจ้าภาพไปว่าจ้าง มาทำการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ ทดแทนหลังเก่า แต่ทราบว่ามีปัญหา ผู้ว่าจ้างไม่มีเงินให้ผู้รับจ้าง จึงได้มาแจ้งทางวัดรับทราบ

จากนั้นทางเจ้าอาวาสวัด จึงตัดปัญหาเกรงว่าทางวัดจะเสียหาย จึงยกเลิกไม่ให้มีการก่อสร้างใดๆ แต่ทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการหาเจ้าภาพมาทำบุญก่อสร้าง แต่มีเจ้าภาพมาจากกรุงเทพที่มาเสนอตัว

เบื้องต้นสอบถาม พระมหาโดม ปัญญาธโร อายุ 49 ปี เจ้าอาวาสวัดศรีเทพประดิษฐาราม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ฝ่ายธรรมยุติ ให้ให้ข้อมูลว่า สำหรับข้อมูลตามที่เป็นข่าว ทางวัดยังไม่ได้รับความเสียหาย เพียงแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งได้มาติดต่อทางวัดว่ามีจิตศรัทธาที่จะเป็นเจ้าภาพสร้าง บูรณศาลาการเปรียญของวัด เนื่องจากเป็นศาลาการเปรียญเก่า ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2515

ทั้งนี้ไม่มีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องเป็นอะไรกับเสี่ยที่ตกเป็นข่าว และไม่เคยเห็นว่ามีเสี่ยที่ตกเป็นข่าวมาติดต่อทำบุญ มีเพียงโยมผู้หญิงที่มาเสนอตัว แต่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งทางวัดไม่ได้ปฏิเสธ เพราะถือว่าเป็นผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป และได้มีการประสานเรื่องการออกแบบศาลาการเปรียญ นำมาเสนอเรียบร้อย

จากนั้นทราบเพียงว่า ทางผู้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพไปติดต่อจ้างบริษัทรับเหมาเอกชนมาดำเนินการ และมีการนำวัสดุก่อสร้าง มาเตรียมงานตั้งแต่ต้นปี คาดว่ามีมูลค่านับล้านบาท จากนั้นทางวัดพบผิดปกติ เพราะมีความล่าช้า ไม่มีการดำเนินการต่อ ทางวัดจึงยุติ ไม่ให้ดำเนินการ

พร้อมกับแจ้งว่า หากจะมีการก่อสร้าง ให้โอนเงินกับทางคณะกรรมการวัดโดยตรง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง เกรงว่าจะนำวัดไปกล่าวอ้างขอรับบริจาค เพราะทางวัดไม่ได้เป็นเจ้าภาพร่วม เนื่องจากมีโยมมาเสนอ แต่หลังจากนั้นเงียบหายไป และมีผู้รับจ้างเอกชน แจ้งว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลง จึงไม่สามารถทำการก่อสร้างได้

เคราะห์ดีที่ทางวัดไม่ได้มีการทุบรื้อถอนศาลาการเปรียญ จึงยังไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้าง ที่จะไปดำเนินการกันทางกฎหมาย ส่วนวัดจะได้หารือกับผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการทำบุญด้วยใจ มาร่วมบูรณะศาลาการเปรียญดังกล่าว ทั้งนี้ไม่เคยทราบปัญหามาก่อนว่า เจ้าภาพที่มาเสนอตัว เกี่ยวข้องกับเสี่ยกำมะลอที่ตกเป็นข่าว