จุดยากันยุงสูดตายคาเก๋ง ผัวเมียทิ้งจดหมายอำลา เครียดปัญหาบ้านถูกยึด
"ถ้าเรามีบ้าน คงไม่ตัดสินใจตาย" 2 สามีภรรยาจับมือสิ้นใจ จุดยากันยุงรมควันเสียชีวิตคารถยนต์ พร้อมกับทิ้งจดหมายสั่งเสียเอาไว้ ปมเพราะบ้านถูกเจ้าหนี้ยึด
เมื่อคืนวานนี้ (7 ต.ค.) ร.ต.อ.ประมาณ ยวนยี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งมีเหตุคนนอนเสียชีวิตภายในรถยนต์ จอดอยู่บริเวณราชการรถไฟ 3 หน้าอาคารแพทย์แผนไทย รพ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และแพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษ ไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบรถยนต์นิสสัน มาร์ช สีเขียว จอดอยู่ริมถนน พร้อมกับติดเครื่องยนต์เอาไว้ โดยประตูปิดล็อกเอาไว้ทุกด้าน ภายในบริเวณที่นั่งคนขับ พบชายวัยประมาณ 60 ปี นั่งอยู่ในลักษณะเอนเบาะนอนแน่นิ่ง ไม่ไหวติง และข้างๆ กันพบหญิงวัยใกล้เคียงกันนั่งในลักษณะเดียวกันอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ ขาซ้ายวางพาดขึ้นมาอยู่บนคอนโซลหน้ารถ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วทั้งคู่
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการงัดประตูหน้าฝั่งคนขับเพื่อเปิดประตูรถออก พบว่าทั้ง 2 คนได้เสียชีวิตแล้ว จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ นายประกาศิต อายุ 61 ปี และ น.ส.อมรรัตน์ อายุ 53 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ส่วนที่ท้ายรถพบกระถางต้นไม้วางอยู่บนกระทะไฟฟ้า ภายในพบมีการจุดยากันยุงเอาไว้หลายขดพร้อมกัน
จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายของนางอมรรัตน์ พบมีจดหมายฉบับหนึ่งมีข้อความระบุว่า
“ข้าพเจ้า อมรรัตน์ ขอโทษด้วยนะคะ ตัดสินใจทำแบบนี้เพราะทำอะไรก็มีแต่คนเห็นแก่ตัว ขอโทษเจ้าหนี้ด้วย ไม่ต้องสืบอะไร เพราะว่า อมรรัตน์ ไม่มีพี่น้องที่ไหนเลย ฝากร่างอมรรัตน์และเงินติดตัว ขอมอบให้กับมูลนิธิฯ บ้านถูกยึดแล้วยังถูกฟ้องอีก จึงรับไม่ได้ ขอตายดีกว่าอยู่แล้วทรมาน ฝากมูลนิธิเผาร่างเราทั้งสองด้วย สุดท้ายขอรบกวนอย่างหนึ่งด้วยนะคะ ทรัพย์สินที่ติดตัวยกให้มูลนิธิ อย่าส่งข่าวไปหาญาติที่ไหน เพราะเราไม่มีญาติ บ้านก็เช่าเขาอยู่ รบกวนมอบร่างเราทั้งสองให้มูลนิธิ เราทั้งสองขอขอบคุณมาก ถ้าเรามีบ้าน เราคงจะไม่ตัดสินใจตายพร้อมกัน”
เจ้าหน้าที่จึงเก็บจดหมายฉบับดังกล่าวเอาไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่แพทย์ระบุว่า ทั้งคู่น่าจะเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง ขณะที่จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มีพยานพบเห็นรถคันดังกล่าวได้มาจอดไว้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 ตุลาคม กระทั่งช่วงค่ำมีพลเมืองดีผ่านมาพบเห็น เนื่องจากรถคันดังกล่าวติดฟิล์มกรองแสงไม่ทึบมาก และเห็นว่ารถยังสตาร์ทเครื่องเอาไว้อยู่ทั้งวัน เคาะกระจกเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมากตรวจสอบดังกล่าว
อย่างไรก็ตามสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองน่าจะเกิดเครียดจากปัญหาส่วนตัว จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมกัน โดยนำเอายากันยุงมาจุดเพิ่มรมควันฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป