กษิตแจงนักธุรกิจต่างชาติเหตุขึ้นเวทีพธม.
กษิต แจงนักธุรกิจต่างชาติ ขึ้นเวทีพธม. เรียกร้องปชต.ภาคปชช. - ผู้แทนฯในระบบรัฐสภา ย้ำจุดยืนต้านคอรัปชั่น ป้องผลประโยชน์ประเทศชาติ
(8 ก.ค.) ที่โรงแรมโฟว์ซีซัน นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้บรรยายระหว่างรับประทานอาหารกลางวันกับนักธุรกิจชาวออสเตรเลียและนักธุรกิจต่างชาติที่อยู่ในออสเตรเลีย ประมาณ 30 คน ในหัวข้อ ทิศทางเศรษฐกิจและการเมืองไทย "The Road Forward: Thailand political and Economic Direction"
ตอนหนึ่ง นายกษิต ได้เล่าถึงการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยระบุว่า ตนได้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ โดยได้ใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพื่อต่อต้านคอรัปชั่น อย่างไรก็ตาม ตนได้ทำหน้าที่ทั้ง 2 รูปแบบคือ การร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยภาคประชาชน และตนก็เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการเมืองในระบอบรัฐสภาด้วย
นายกษิต กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ตนเคยร่วมงานเป็นที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต่อมาปรากฏว่ามีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้อำนาจควบคุมสภาผู้แทนราษฎร มีการแก้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจตนเองและครอบครัว ใช้อำนาจเงินมาควบคุมพรรคการเมือง นอกจากนั้นยังใช้อำนาจแต่งตั้งคนในครอบครัวและพวกพ้องเข้าไปอยู่ตำแหน่งระดับสูงขององค์กรภาครัฐ รวมทั้งมีการแทรกแซงสื่อมวลชนด้วย เมื่อมีความคิดแตกต่างกัน ขณะนี้จึงกลายเป็นศัตรูทางการเมืองกัน ส่วนการดำเนินงานระหว่างประเทศของตนนั้นมีความชัดเจนว่าเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายกษิต กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้สังคมไทยมีสภาพไม่ปกติ เนื่องจากระบบอุปถัมภ์และเกื้อกูลพวกพ้องได้แทรกซึมในความคิดของประชาชน โดยเมื่อไม่นานมานี้ มีโพลล์สำรวจความเห็นของเยาวชนเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น ผลปรากฏว่าเยาวชนยอมรับได้กับการทุจริตคอรัปชั่น อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่ารัฐบาลซึ่งนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสามารถสร้างสิ่งที่สังคมไทยต้องการคือ การเมืองที่มีความรับผิดชอบ โปร่งใสและตรวจสอบได้
นายกษิต ยังกล่าวถึงการเมืองไทยตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ว่า เดิมมีกลุ่มที่เข้ามาเล่นการเมืองเพียงไม่กี่กลุ่ม แต่ขณะนี้ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น รวมทั้งมีการเมืองภาคประชาชน วิวัฒนาการประชาธิปไตยไทย เคยผ่านช่วงที่มีการต่อสู้กับแนวคิดสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ ฟาสซิสต์ ในที่สุดก็เปลี่ยนแปลงมาเป็นเสรีนิยม นอกจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแล้ว ถึงวันนี้ยังมีการท้าทายใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่สถาบันพระมหากษัตริย์มีพัฒนาการควบคู่กับสังคมไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า การบรรยายของนายกษิต ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เมื่อจบการบรรยาย นักธุรกิจต่างชาติรายหนึ่ง เดินเข้ามาพูดจาแสดงความชื่นชมการบรรยายของนายกษิตต่อสื่อมวลชนไทยที่ติดตามไปรายงานข่าว โดยระบุว่าเป็นการบรรยายที่ดี