เผยหญิงถูกจับคนใกล้ชิดพล.ต.ต.ชูเกียรติ

ตร.จับหญิงสาวนำบัตรเคดิตของ พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อดีตรองผบช.ภ.7 ไปกดเงินแล้ว ทราบเป็นหญิงใกล้ชิดมานาน เตรียมแถลงที่ตำรวจภูธรภาค 1 พรุ่งนี้

8ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนจับกุมคนร้ายกรณีฆ่าแล้วเผา พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่บ้านเลขที่ 47/131 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร โครงการ 10 ซอย 8 ถนนรัตนาธิเบศร์ ขาเข้า ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พื้นที่ สภ.บางใหญ่ แล้วอำพางคดีว่าไฟฟ้ารัดวงจรไฟไหม้บ้านพักที่ผ่านมา

ต่อมา พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช ภ.1 ได้เรียก พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 วางแผนติดตามคนร้ายที่เป็นหญิงสาวที่นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินและได้ภาพมาจากตู้เอทีเอ็มนั้น สามารถขยายผลจนรู้ว่าหญิงสาวคนนี้พักอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 จึงได้นำกำลังไปติดตามจับกุมตัวหญิงสาวคนกดเงินได้พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็มและเงินสดจำนวนหนึ่ง และได้รวบรวมพยานหลักฐานบางอย่างที่ยังขาดอยู่เช่นพระเครื่องสมเด็จวัดระฆัง และได้นำตัวหญิงสาวเข้าสอบสวนยังที่ลับแห่งหนึ่งซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้กระทำเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเดินทางกลับมายัง กองบัญชาการภาพ 1 โดยจะนำตัวมาแถลงข่าวในวันที่ 9 ก.ค.เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 1 ต่อไป โดยปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าว

เผยหญิงถูกจับคนใกล้ชิด พล.ต.ต.ชูเกียรติ

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 8 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี และกองปราบปราม สามารถติดตามจับกุมหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีดังกล่าวได้แล้วในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์นั้น

ล่าสุด ทราบชื่อโดยเป็นหญิงสาวที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ พล.ต.ต.ชูเกียรติ มาเป็นเวลานานแล้ว เบื้องต้นคาดว่าหญิงคนดังกล่าวจะเป็นนางนกต่อให้คนร้ายบุกเข้ามาชิงทรัพย์ผู้ตายก่อนจะกวาดทรัพย์สินแล้วพากันหลบหนี โดยในวันที่เกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้เพิ่งเข้ามาที่บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นครั้งแรก ส่วนจุดที่เกิดเหตุมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นสองของบ้านเนื่องจากในการตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอย่างละเอียดนั้นเจ้าหน้าที่พบมีดเล่มหนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจจับกุมผู้ต้องหาแล้วเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปค้นหาของกลางที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีรายงานว่าขณะนี้ได้ของกลางที่เกี่ยวข้องคดีโดยเฉพาะทรัพย์สินของ พล.ต.ต.ชูเกียรติ บางรายการกลับคืนมาแล้ว ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าก่อเหตุเพียงเพราะประสงค์ต่อทรัพย์