คืบเหตุรมควันดับคู่ในรถ ลูกชายเผยพ่อหายไป 10 ปี เตรียมบวชให้แต่มาเจอข่าวร้าย

คืบหน้าสองสามีภรรยารมควันเสียชีวิตในรถกลางเมืองศรีสะเกษ ญาติได้ ติดต่อเข้าพบ พบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ

ความคืบหน้ากรณีเมื่อคืนที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ. ประมาณ ยวนยี รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตในรถยนต์เก๋งนิสสัน รุ่นมาร์ซ สีเขียว นายประกาศิต อายุ  61 ปี และ น.ส.อมรรัตน์ อายุ 53 ปี เป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านเดียวกัน ในกระเป๋าที่พบในรถมีเอกสารหลายอย่างและเงินสดจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีจดหมายลาตาย 1 ฉบับ ด้านหลังของตัวรถพบกระทะไฟฟ้าตั้งอยู่มีกระถางต้นไม้วางบนกระทะมียากันยุงถูกจุดจนไหม้หมด มีฝากระทะไฟฟ้าปิดอยู่ข้างบนกระถาง จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตใช้ ไฟจุดถ่านจุดยากันยุงเพื่อรมควันตัวเอง

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 ต.ค.) กลุ่มญาติๆ ของนายประกาศิต มาถึง สภ.เมืองศรีสะเกษ เมื่อเวลา 14.00 น. โดยมีพี่สาวของผู้เสียชีวิต คือ น.ส.จุรีพร อายุ 65 ปี พร้อมด้วยลูกชายของนายประกาศิต 2 คน คือ นายนิติวุฒิ อายุ 28 ปี และนายภานุวัฒน์ อายุ 27 ปี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน

กลุ่มญาติของนายประกาศิต ผู้เสียชีวิต

โดย น.ส.จุรีพร พี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายประกาศิตน้องชาย ก่อนหน้านี้มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หลังจากเลิกกับภรรยาคนแรกแล้วก็ติดต่อกับผู้หญิงที่เสียชีวิตด้วยกัน เขาก็จะไปโน่นไปนี่ไม่รู้ว่าไปไหนไปทำอะไร ช่วงที่ยังไม่เกษียณก็กลับบ้านบ่อย ต้องไปประชุมไปงานต่างๆ แต่พอหลังจากเกษียณแล้วก็หายไปเลย

“ตอนที่แม่ยังอยู่ แม่ยังไม่เสีย เขาก็จะกลับบ้านมาช่วยดูแลแม่ จนกระทั่งแม่เสียเขาก็เริ่มไปนานๆ ถึงจะกลับบ้านที เขาอยู่กับภรรยาคนที่เสียชีวิตด้วยกันนี่มาร่วม 11-12 ปี จะทำงานอะไรไม่รู้ ส่วนที่ว่าบ้านถูกยึด และถูกฟ้องดำเนินคดีตามจดหมายนั้นน่าจะเป็นลายมือของผู้หญิง และคงจะเป็นบ้านของฝ่ายผู้หญิง” น.ส.จุรีพร กล่าว

ด้าน นายนิติวุฒิ ลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนกับน้องชายไม่ได้เจอพ่อมาร่วม 10 ปีแล้ว ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้ ช่วงนี้ตนกับน้องชายนัดจะบวชให้พ่อกับแม่พร้อมกัน โดยกำหนดบวชวันที่ 14 ต.ค.ที่จะถึงนี้ และตนกับน้องชายกำลังจะออกตามหาพ่อ เพื่อขอให้พ่อมาร่วมงานบวช แต่ยังไม่ทันจะได้ออกตามหาพ่อ ก็มาได้ข่าวพ่อเสียชีวิตก่อน จึงกลายเป็นว่ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ส่วนการติดใจสงสัยในการเสียชีวิตของพ่อหรือไม่ นายนิติวุฒิ กล่าวว่า ต้องรอฟังผลการตรวจดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือที่ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บไปก่อนว่ามีอะไรน่าสงสัยหรือไม่ ซึ่งพ่อของตนเป็นคนมีเหตุผล ไม่น่าที่จะตัดสินใจทำร้ายตัวเองแบบนี้

ซึ่งถ้าผลตรวจดีเอ็นเอออกมาน่าสงสัยตรงไหนก็คงจะต้องขอให้มีการผ่าชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลเมื่อไหร่ก็ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องรอฟังผลชันสูตรก่อน