อดีตหนุ่มไฟแนนซ์ สวมรอยรูดบัตรลูกค้ากว่า 20 ใบ เลือกทำกับคนใกล้ตัว

อดีตหนุ่มไฟแนนซ์ สวมรอยรูดบัตรลูกค้ากว่า 20 ใบ เลือกทำกับคนใกล้ตัว

อดีตหนุ่มไฟแนนซ์ สวมรอยรูดบัตรลูกค้ากว่า 20 ใบ เลือกทำกับคนใกล้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจจับอดีตหนุ่มไฟแนนซ์ สวยรอยใช้บัตรเครดิตลูกค้ากว่า 20 ใบ สารภาพเลือกก่อเหตุกับคนใกล้ตัว เพราะเวลาจับได้จะให้อภัยง่ายกว่า

พลตำรวจตรีสันติ ชัยนิรามัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงการจับกุม นายธนากร อายุ 27 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ประกันรถยนต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในความผิดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่นำข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหายไปใช้งาน และข้อมูลบัตรเครดิตของผู้เสียหายกว่า 20 ใบ

สำหรับวิธีการของคนร้าย จะนำข้อมูลจากลูกค้าซึ่งทั้งหมดเป็นคนรู้จัก ทั้งเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันมาก่อน หรือคนที่ทำงานด้วยกัน มาตรวจสอบว่ามีใครใช้บัตรเครดิตหรือไม่ จากนั้นจะเลือกเวลากลางคืน โทรศัพท์ไปหาคอลเซ็นเตอร์ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช่ในการติดต่อ เพื่อจะได้รับรหัสรักษาความปลอดภัย หรือ OTP แทนผู้เสียหาย

หลังจากนั้นจึงเข้าไปใช้แอปพลิเคชั่นสวมรอยทำธุรกรรมการเงินจากบัตรเครดิตผู้เสียหาย โดยการสแกนรหัสชำระสินค้า หรือ QR CODE ซึ่งเป็นรหัสบัญชีธนาคารออนไลน์ของตนเอง เพื่อนำเงินจากบัตรเครดิตไปใช้รูดซื้อสินค้าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลการใช้บัตรเครดิตไม่ต่ำกว่า 20 ใบ รวมความเสียหายกว่า 280,000 บาท

ส่วนการสอบสวนเบื้องต้นนั้น ผู้ต้องหารับว่า ทำไปเพราะเครียดจากภาระหนี้บัตรเครดิต และมักง่ายคิดว่าหากก่อเหตุกับคนใกล้ตัว หากถูกจับได้จะขอรับผิดและได้รับการอภัยง่ายกว่าคนไม่รู้จัก

ขณะที่หนึ่งในผู้เสียหายยอมรับว่า ได้รู้จักกับคนร้ายเพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนที่เรียนอยู่ในกลุ่มเดียวกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเป็นลูกค้าของคนร้าย เพราะไว้วางใจให้ช่วยดูแลเรื่องการซื้อขายรถให้ ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้โทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลส่วนตัวและบัตรเครดิตทั้ง 2 ใบ

จากนั้นช่วงกลางดึกก็ได้รับข้อความจากธนาคารว่า มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ ก็ทำให้รู้สึกแปลกใจ จากนั้นไม่นานก็ได้รับข้อมูลว่ามีการใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็นจำนวนเงิน 4 หมื่นบาท จึงโทรกลับไปสอบถามขอเบอร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลง ทำให้ทราบว่าเป็นเบอร์ของคนร้าย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดี

ขณะที่ นายปราโมทย์ ลลิกิตติ ประธานชมรมป้องกันทุจริตบัตรเครดิตภายใต้สมาคมธนาคารไทย ฝากแจ้งเตือนประชาชนให้หมั่นตรวจสอบข้อความทาง SMS เพราะทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ธนาคารจะส่งข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงให้กับลูกค่าตัวจริงอยู่แล้ว และหากพบความผิดปกติใดๆ ก็ควรรีบโทรสอบถามธนาคาร เพื่อให้ระงับการทำธุรกรรมนั้นๆ ทันที และต่อไปในอนาคต ธนาคารจะมีการใช้ระบบยืนยันตัวตนผ่านเสียง หากต้องมีการแก่ไขข้อมูลสำคัญ ก็เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook