คดีพลิกแล้ว รองโฆษก ตร. ยันใบสั่งไม่ได้ตัดต่อ ผู้ใช้รถทำผิดกฎจราจรจริง

คดีพลิกแล้ว รองโฆษก ตร. ยันใบสั่งไม่ได้ตัดต่อ ผู้ใช้รถทำผิดกฎจราจรจริง

คดีพลิกแล้ว รองโฆษก ตร. ยันใบสั่งไม่ได้ตัดต่อ ผู้ใช้รถทำผิดกฎจราจรจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เฟซบุ๊ก ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. รายงานว่า (10 ต.ค.62) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความในลักษณะอาจถูกตัดต่อใบสั่ง โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อความออกไปเป็นจำนวนมา โดยได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้น

ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากกองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าเป็นการออกใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ในสังกัดจริง โดยพนักงานจราจรได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จากข้อมูลของภาพถ่ายและวิดีโอแล้วตรวจสอบพบการกระทำความผิด สถานที่เกิดเหตุ บริเวณ ถนน ทล.24 กิโลเมตรที่ 107-109 ตำบล/แขวง หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 เวลาประมาณ 16.56 น.

จากนั้นเจ้าพนักงานจราจร จึงได้ออกใบสั่ง ในข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด(ตาม พรบ.จร.ม.67 วรรคหนึ่ง,152) และ ฝ่าฝืนป้ายจำกัดความเร็ว (ตาม พรบ.ทางหลวงฯ ม.5(2),ม.69) โดยให้ชำระค่าปรับตามใบสั่งจำนวน 500 บาท ซึ่งถนนบริเวณจุดที่เกิดเหตุนั้นกฎหมายได้กำหนด 90 กม./ชม. (Speed limit enforcement) โดยความเร็วที่ตรวจจับได้ของผู้กระทำผิดคือ 135 กม./ชม.

 

อีกทั้งขณะนี้ พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ ผกก.6 บก.ทล. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีการกระทำความผิด หรือทำให้หน่วยงานได้รับความเสียหาย ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ขอฝากเตือนไปยังประชาชน ในการนำเข้าข้อมูล การโพสต์ การแชร์ ต่างๆเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือ โลกโซเชียลมีเดีย ขอให้ใช้สติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่นำข้อมูลที่เป็นเท็จในประการที่น่าจะสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น เมื่อเกิดการกระทำที่เป็นความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ตนเองก็อาจจะถูกดำเนินคดีได้

อีกทั้งในกรณีหากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกระทำผิดเสียเองจริง ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่มิชอบ สร้างความเดือดร้อน ความเสียหายให้กับประชาชนหรือสังคม ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่เคยปกป้องหรือปล่อยไว้อยู่แล้ว มีการดำเนินการทางวินัย และอาญามาโดยตลอด มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook