หวัด 09โคม่า 6 คาดเสียชีวิตอีก 2

หวัด 09โคม่า 6 คาดเสียชีวิตอีก 2

หวัด 09โคม่า 6 คาดเสียชีวิตอีก 2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รพ.เอกชน ระบุค่าตรวจไม่เกิน 4 พันบาท ด้านบอร์ด สปสช. จ่อหารืออนุมัติงบ 300 ล.บ.ซื้อวัคซีนป้องกันหวัด 09 ด้านครม.อนุมัติ ปิดกวดวิชา15วัน สกัดไข้หวัด ห้ามจัดคอนเสิร์ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 9 ก.ค.) นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลในขณะนี้ ในจำนวนผู้ป่วยกว่า 2,000 ราย พบว่า มีผู้ป่วยอาการรุนแรงจริงๆ เพียง 20 รายเท่านั้น หรือคิดเป็นประธาน 0.74 % โดย 15 รายมีโรคประจำตัวประมาณ 1-3 โรค เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคไต โรคลูคีเมีย โรคธาลัสซีเมีย และบางรายก็ตั้งครรภ์ด้วย เสียชีวิตไปแล้ว 8 ราย กลับบ้านแล้ว 1 ราย คงเหลือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 6 รายที่นอนรักษาตัวตัวใน รพ. โดยในจำนวนนี้มีแนวโน้มจะเกิดความสูญเสียอีก 2 ราย ส่วนอีก 5 รายที่มีอาการรุนแรงเป็นคนปกติไม่มีโรคประจำตัว เสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย กลับบ้าน 1 ราย โดยสาเหตุที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เพราะมาพบแพทย์ช้า นอนหอบเหนื่อยอยู่ที่บ้าน คือมีอาการ 6-9 วันจึงมาพบแพทย์ ส่วนคนที่รอดเพราะมาพบแพทย์เร็ว

ด้านนพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ เลขาธิการสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า รพ.เอกชน 200 กว่าแห่งพร้อมให้การดูแลผู้ป่วย โดยในวันที่ 10 ก.ค. จะมีการประชุมกันเพื่อกำหนดราคาที่เป็นมาตรฐานร่วมกัน เช่น ค่าตรวจคัดกรองเบื้องต้นว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอหรือชนิดบี ตัวเลขเบื้องต้นอาจจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท การเจาะเลือดส่งตรวจยืนยันว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ ราคาไม่เกิน 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายจึงไม่ควรเกิน 4,000 บาท แต่ถ้าตรวจคัดกรองเบื้องต้นแล้ว ให้ยาไปรับประทานที่บ้าน รวมค่าตรวจแพทย์จะเพิ่มอีกประมาณ 900-1,500 บาท อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนทุกคนไปใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลตามสิทธิที่ตัว เองมีอยู่ เช่น สิทธิประกันสังคม ข้าราชการ และบัตรทอง ก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

ทั้งนี้ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 13 ก.ค. นี้ บอร์ด สปสช. จะมีการประชุมและอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพื่อรองรับการระบาดปี 2552 กว่า 300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่า วัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขต้องการ 2 ล้านโด้สจะได้ตามนั้นหรือไม่.

ปิดกวดวิชา15วัน สกัดไข้หวัด ห้ามจัดคอนเสิร์ต

วันนี้ (9 ก.ค.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติสั่งปิดโรงเรียนกวดวิชาทั่วประเทศ เป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-28 ก.ค. นอกจากนี้ยังมีมติขอความร่วมมือไปยังร้านเกม และร้านอินเทอร์เนต ให้ปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-28 ก.ค.เช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ/เอช1เอ็น1 หลังจากนี้สำนักงานการศึกษาเอกชน (สช.) จะเรียกประชุมแล้วทำหนังสือด่วนไปยังโรงเรียนกวดวิชาเพื่อสั่งปิดโรงเรียน เป็นเวลา 15 วัน หากโรงเรียนกวดวิชาแห่งใดไม่ให้ความร่วมมือก็จะมีมาตรการลงโทษ เพราะโรงเรียนกวดวิชาต้องมีการต่อใบอนุญาต แต่ที่ผ่านมาโรงเรียนกวดวิชาส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

นาย ชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานบันเทิงต่างๆ เช่น ผับ ดิสโก้เธค โรงภาพยนตร์ ก็มีการหารือกันถึงการแพร่ระบาดของเชื้อใน ครม. แต่ยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาควบคุม เพราะต้องรอพิจารณาว่า มีผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงมากน้อยเพียงใด แต่ในส่วนการแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะพิจารณาสั่งให้หยุดการแสดงไว้ก่อน ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากหลังจากที่มามีการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องเกาหลีดงบันชิงกิ และอัสนี-วสันต์ ผ่านไป 3 วัน พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจำนวนมาก โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ระบุว่า ไปดูคอนเสิร์ตมา สำหรับโรงเรียนต่างๆ นั้น ยังไม่มีมาตรการสั่งปิด แต่จะใช้วิธีหากพบนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ก็จะให้หยุดเรียนไว้ก่อนเพื่อรักษาตัว แล้วจะสอนพิเศษชดเชยภายหลัง หากมีความจำเป็นก็ให้สอบภายหลังได้ด้วย หากครบกำหนด 15 วันแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้ ก็อาจจะมีการพิจารณาให้ปิดเทอมเร็วขึ้นก่อนเดือนต.ค.เพื่อหยุดการระบาดของ เชื้อ

ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุม ครม. ขอให้กระทรวงสาธารณสุขทำงานอย่างเข้มข้นมากขึ้น พร้อมให้ทุกกระทรวงให้ความร่วมมือในการป้องกัน เนื่องจากไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นโรคที่ติดได้ง่ายจากการหายใจ หากผู้ติดเชื้อจามคนที่อยู่ในระยะห่าง 1-2 เมตรก็มีโอกาสติดได้ อย่างไรก็ตาม โรคดังกล่าวอันตรายน้อยกว่าโรคซาร์สและไข้หวัดนก เนื่องจากมีอัตราการป่วยและเสียชีวิตต่ำกว่า โดยยอดผู้ติดเชื้อของไทยขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 3,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดจากการสุ่มตรวจในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงน่าจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 คน จึงอยากขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ว่า ใครที่สงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อให้พักอยู่ที่บ้านอย่าออกมาข้างนอก และให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวกเช่น ผับ บาร์ ร้านเกมส์ ฯลฯ

ข้อมูล : ไทยรัฐ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook