ไฮโซบี ลั่นไม่ยอมเสียบ้าน 40 ล้าน แฉ "บิ๊กทหารเรือ" ทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกหลายคน

ไฮโซบี ลั่นไม่ยอมเสียบ้าน 40 ล้าน แฉ "บิ๊กทหารเรือ" ทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกหลายคน

ไฮโซบี ลั่นไม่ยอมเสียบ้าน 40 ล้าน แฉ "บิ๊กทหารเรือ" ทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกหลายคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ "น.ส.พิมพ์นรี" หรือ "ไฮโซบี" เจ้าของร้านเพชรแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์หลายสิบนายมาบุกบ้านซึ่งตอนนั้นตนไม่อยู่บ้าน แม่บ้านจึงเปิดบ้านให้ จากนั้นชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวก็เปลี่ยนลูกกุญแจบ้านทั้งหมด จนตนเองและน้องสาวเข้าบ้านไม่ได้ และกลายเป็นประเด็นเรื่องแย่งชิงกรรมสิทธิ์บ้านหรูมูลค่ากว่า 40 ล้าน กับ "พล.ร.อ.ชื่อดัง"

>> ลูกสาวร้านเพชร หอบโฉนดร้องสื่อ "อดีตแฟนแม่" ส่งชายฉกรรจ์บุกยึดบ้าน-ที่ดิน 40 ล้าน

>> "ไฮโซบี" แจ้งข้อหาบุกรุก "พลเรือเอก" พร้อมลูกสมุน ลั่นใช้ความจริงสู้อิทธิพล

ล่าสุดรายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (14 ต.ค.) พิธีกรสาว "ดร.บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ ไฮโซบี ซึ่งมาพร้อม "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" และโฟนอินสัมภาษณ์พ่อของไฮโซบีด้วย

ความสัมพันธ์ของคุณแม่กับนายทหารท่านนั้นเริ่มได้ยังไง?

บี : "อย่างแรกเลยทหารท่านนี้เป็นเพื่อนกับคุณลุง ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของคุณแม่ มีการแนะนำให้รู้จักกับที่บ้าน ตอนนั้นบียังเด็ก จำปี พ.ศ.ชัดๆ ไม่ได้ แต่น่าจะประมาณ 41 หรือช่วงนั้น"

ตอนนั้นคุณแม่เลิกกับคุณพ่อหรือยัง?

บี : "ยังไม่เลิกค่ะ คุณแม่เลิกกับคุณพ่อหลังจากนั้นไม่นาน มีการไปมาหาสู่สนิทสนม แตไม่ได้มาอยู่จริงจังค่ะ"

ตกลงสถานภาพความสัมพันธ์ระดับไหน แฟน เพื่อน กิ๊ก คนรู้ใจ?

บี : "ต้องแจ้งว่าทางโน้นก็มีภรรยาที่มีทะเบียนสมรส ยังไม่ได้เลิกค่ะ ถ้าเรียกว่าเป็นความสัมพันธ์ ก็ค่อนข้างสนิทเกินเพื่อน"

ในฐานะลูก เคยมีคุยหรือถามคุณแม่มั้ย?

บี : "เราก็รักคุณแม่ ไม่ได้ไปว่าอะไร เราก็ยังเด็กด้วย"

แต่ไม่เกี่ยวกับเหตุต้องหย่ากับคุณพ่อ?

บี : "คิดว่ามีส่วนค่ะ เราโตไม่มาก แต่พอทราบระดับหนึ่ง"

คุณเรียกนายทหารท่านนั้นว่ายังไง?

บี : "เรียกว่าคุณลุง แต่อีกฝ่ายอยากให้เรียกว่าพ่อ บางทีก็เรียก แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจก็เรียกคุณลุง เราก็ทราบว่าเขาไม่ใช่คุณพ่อ"

แล้วคบกันยังไง รักกันหรือผลประโยชน์?

บี : "ที่จำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนโต จนถึงปัจจุบัน คุณแม่พยายามเลิกหลายครั้ง เพราะมาทราบว่ายังมีทะเบียนอยู่ ผู้หญิงไม่มีใครอยากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้"

ทนายเดชา ในทางกฎหมายเรียกความสัมพันธ์แบบนี้ว่ายังไง?

ทนายเดชา : "ก็เป็นสามีภรรยาโดยนิตินัย"

แม้มีทะเบียนสมรสอีกบ้าน เรียกภรรยาได้?

ทนายเดชา : "ได้ครับ เขาเรียกภรรยาตามความเป็นจริง ถือเป็นผัวเมียไม่จดทะเบียนสมรส ซึ่งกฎหมายไม่รับรองสถานะ แต่กฎหมายรับรองความสัมพันธ์ในเชิงทรัพย์สิน"

คบกันนานแค่ไหน มีเลิกหรือพยายามเลิกแต่ไม่ได้เลิก?

บี : "มีหลายช่วงที่ขาดการติดต่อไป แต่อีกฝ่ายก็พยายามกลับเข้ามาโดยตลอด"

คุณห้าม มีกีดกันมั้ย?

บี : "เรื่องนี้เป็นเรื่องผู้ใหญ่ เราเป็นลูก มีการปรึกษากันบ้าง"

จุดแตกหักที่ยอมเลิก?

บี : "เรียกว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับตัวบีและน้องสาว เพราะเราเป็นผู้หญิง พูดแค่นี้ก็คงจะเข้าใจ"

มีถูกเนื้อตัองตัว?

บี : "ก็...(เงียบ)"

แจ้งความได้มั้ย?

ทนายเดชา : "ได้ครับ ถือว่าอนาจารถ้าแตะเนื้อต้องตัวนะ ภาษากฎหมายเขาเรียกว่ามีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม"

ตอนนั้นทำไมไม่แจ้งความ?

บี : "เราไม่ได้รู้เรื่องราว แค่คิดว่าต้องการความปลอดภัยระหว่างตัวบีกับน้องสาว ก็แจ้งคุณแม่ คุณแม่ก็ยุติทุกอย่าง เราก็คิดว่าเพียงพอและปลอดภัยแล้ว"

คุณแม่เชื่อและยอมเลิก ตอนนั้นปีไหน?

บี : "58 ค่ะ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อเข้ามาอีกเลยค่ะ"

ถือว่าความสัมพันธ์ยังมีอยู่มั้ย?

ทนายเดชา : "ก็ถือว่ามีความสัมพันธ์เป็นผัวเมียกันอยู่ ก็เลิกฝ่ายเดียวอีกฝ่ายไม่ยอมเลิก"

กฎหมายตามใจผู้ชายเหรอ?

ทนายเดชา : "ก็ความจริงเป็นอย่างนั้น เลยเป็นที่มาของการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สิน มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเลิก คดีนี้อย่าไปหลงทาง ที่เขาฟ้อง เขาเป็นผัวเมียไม่จดทะเบียนกับคนตาย ที่ผ่านมาเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นผัวเมียกัน หรือมีเงินมีอะไรเข้าไปเกี่ยวข้อง"

บ้านใครซื้อ?

บี : "คุณแม่คนเดียวค่ะ ตอนคุณแม่ซื้อบ้านเขารู้จักกันแล้วค่ะ"

เคยถามที่บ้านมั้ยเงินใคร?

บี : "ไม่เคยบอกค่ะ อย่างที่บอกเราสนิทเป็นเลขาคุณแม่ การเงินทุกอย่างทราบหมด เราเห็นในบัญชีทุกอย่างในการสั่งจ่ายออกทุกอย่าง"

ทำไมทางนั้นอ้างว่ามีเงินเขาส่วนหนึ่งด้วย?

บี : "ก็ไม่ทราบค่ะ" 

ได้ดูหลักฐานตอนฟ้องศาลมั้ย?

บี : "ได้ดูค่ะ ไม่มีหลักฐานทางการเงินค่ะ"

แล้วจะไปอ้างได้เหรอ?

ทนายเดชา : "ผัวเมียอยู่ด้วยกันมีลูกมีเต้า ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ถึงแม้เมียเป็นแม่บ้าน ผัวเป็นคนหาเงินฝ่ายเดียว ศาลยังให้แบ่งครึ่งเลย มีคำพิพากษาฎีกามาเลยนะ การนำสืบก็อาจนำสืบเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ก็เป็นไปได้ที่เขาจะไปวางรูปคดีแล้วฟ้อง"

โทรหาคุณพ่อคุณบี คุณพ่อธนัช คุณพ่อเลิกคุณแม่คุณบีเพราะนายทหารท่านนั้นหรือเปล่า?

ธนัช : "ก็มีส่วนครับ"

การดูแลลูก เป็นความสัมพันธ์แบบไหน?

ธนัช : "ก่อนอดีตภรรยาจะเสียชีวิต ข่าวว่าป่วยหนักเมื่อเดือน ก.ค. 2560 ผมก็ไปเยี่ยมและได้เจอกัน สิ่งแรกที่เขาขอร้องผมคือให้ผมกลับมาอยู่กับเขา และช่วยดูแลบ้านที่เขาสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง เขารัก และให้ผมช่วยดูแลลูกต่อ เขาสั่งเสียแบบนี้"

หลังจากนั้นทางนั้นมีการฟ้องศาล?

ธนัช : "หลัง ก.ค. 60 อยู่ รพ. ผมต้องถึง รพ. เวลา 8 โมง จะอยู่เฝ้าเขาถึงประมาณ 5 ทุ่มจะกลับบ้าน เขาขอร้องผมให้ไปอยู่บ้านหลังนี้กับลูกสาว ผมก็มาพักบ้านหลังนี้ตั้งแต่ปี 60 อยู่กับลูกสองคนมาตลอด"

พอศาลตัดสินว่าคนๆ นั้นมีส่วนในกรรมสิทธิ์ของบ้าน รู้สึกยังไง?

ธนัช : "หลังจากคนๆ นั้นฟ้องแพ่งคดีนี้ และดำเนินการมาเรื่อยๆ ในการฟ้องนั้นเขาต้องการอยู่ 3 ประการ หนึ่งจะต้องเอาชื่อของเขามาใส่ในโฉนดร่วม ตอนนี้บีเป็นเจ้าของ สองห้ามขัดขวางในการเข้าบ้าน ห้ามบีกับเบลขัดขวางเขา ที่เขาจะเข้าบ้าน สามหากทำหนึ่งและสองไม่ได้ ต้องชดใช้เงินเขา 40 ล้านบาท และคำตัดสินของศาลก็ออกมาเป็นอย่างนั้น คำตัดสินออกมาวันที่ 25 กันยายน 2562 เราจะคัดคำตัดสินได้ภายหลังศาลตัดสิน 7 วัน จาก 25 เจ็ดวันคือวันที่ 3 เราก็ต้องดำเนินการตามนี้เพื่อยื่นอุทธรณ์ ถ้าเราไม่ยื่นอุทธรณ์ก็เป็นไปตามคำสั่งของศาล แต่วันที่ 3 เขาไปคัดคำสั่งศาลออกมา วันที่ 4 ก็บุกไปในบ้านเลย ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ถือว่าอยู่ในกระบวนการยุติธรรมมั้ย แล้วชาวบ้านจะเป็นยังไง บ้านเมืองจะอยู่ยังไง ใครต้องการบ้านของคนแล้วทำแบบนี้ มันก็ไม่ถูกต้อง"

คุณแม่ซื้อเอง ทำเงินทำบ้านเองเพื่อให้ลูกสาว?

ธนัช : "ถูกต้องครับ"

คุณแม่ป่วย นายทหารท่านนึงไม่ได้มาดูแลเลยสักครั้ง?

ธนัช : "ไม่เคยแม้สักครั้ง มีอยู่ครั้งเดียวผมเฝ้าไข้อยู่ เขาพรวดเข้ามาเลย เพราะคุณแม่เขาป่วยในห้องอาร์ซียู ผมก็อยู่กับเขาตลอด อยู่ๆ คนนี้พรวดเข้ามาอ้างเป็นแฟนเขา แล้วบอกชื่อยศของเขา พยาบาลก็เออ เป็นคนมีต้นทุนสังคม ผมอยู่เผชิญหน้ากับเขา แต่คุณแม่เขาก็ยกมือไหว้ผม บอกพ่อขอเวลานิดนึงนะ พ่อออกไปข้างนอกก่อน ผมก็ออกมา การพูดคุยของเขาเราไม่ทราบ พยาบาลเฝ้าไข้พิเศษรีบโทรหาคุณบี"

คุณแม่ต้องการซื้อบ้านและยกให้ลูกสาวสองคน?

ธนัช : "ยืนยันครับ"

ศาลตัดสินให้ใช้บ้านร่วมกัน แต่มีเหตุการณ์คุณบีไม่สามารถเข้าบ้านได้ ก่อนศาลตัดสิน มีนายทหารมางัดบ้าน หลักฐานตรงนี้ยังไม่เปิดเผยมาก่อน วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?

บี : "คุณแม่เสีย 5 พ.ย. 60 ก็มีเหตุการณ์แบบนี้ตามภาพมาตั้งแต่ ม.ค. สองรอบ และ พ.ค. อีกรอบ ถ้าเป็นเจ้าของบ้านทำไมต้องทำแบบนี้"

ทางนั้นห้ามไม่ให้คุณบีเข้าบ้าน ถือว่าขัดคำสั่งศาลมั้ย?

ทนายเดชา : "เขาไม่มีสิทธิ์ห้ามใคร เพราะทางนี้เป็นเจ้าของร่วมด้วย มีสิทธิ์เข้าบ้านทั้งสองฝ่าย"

บี : "เขาขับไล่คนในบ้านออกมาด้วย"

ทนายเดชา : "ต้องไปว่ากันไปใช้สิทธิ์ทางศาล ไม่ใช่เจ้าของคนเดียว ถ้าเขาไม่ให้เข้าบ้านก็ต้องไปแจ้งความไปฟ้องไปอะไร"

คลิปบุกบ้านพร้อมคนเยอะแยะมากมาย?

บี : "ที่นับได้ในกล้องวงจรปิด 16 คน"

เรียกว่าผู้บุกรุกได้มั้ย?

ทนายเดชา : "ถ้าศาลตัดสินว่าเขาเป็นเจ้าของร่วม ก็ไม่เข้าองค์ประกอบบุกรุก ถ้าว่ากันตามกฎหมาย ไม่ใช่บุกรุก ยกเว้นคำพิพากษายังไม่ถึงที่สุด เขายังมีชื่อในโฉนด กรรมสิทธิ์เป็นของใครก็ต้องไปโต้เถียง เรื่องห้ามก็ไม่น่าห้ามได้ ต้องไปใช้สิทธิ์ทางศาล ต้องแจ้งความก็ว่ากันไป"

มีอาวุธด้วยนะ?

บี : "แม่บ้านเล่าว่าหนึ่งในชายฉกรรจ์มีอาวุธปืน เห็นว่าเป็นปืนลูกซอง แม่บ้านถ่ายมา เขาตกใจมาก บีก็บอกใจเย็นๆ ให้ถ่ายเอาไว้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง กว่าบีจะทราบและไปแจ้งความก็ดึกแล้ว วันรุ่งขึ้นขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเป็นเพื่อน เพื่อไปดูว่าในบ้านมีทรัพย์สินเสียหายหรือเปล่า พอมีตำรวจก็ได้เข้า"

เอาอะไรออกมาได้บ้าง?

บี : "ได้แต่ของใช้ส่วนตัวและยาเบาหวานคุณพ่อ และรูปคุณแม่ ระหว่างที่เดินมีคนคุมตลอดว่าจะทำอะไร"

ทนายเดชา : "บ้านเรา เราเข้าได้ เราเป็นเจ้าของร่วม"

เดินประกบแล้วไม่ให้เอาของออกมา?

ทนายเดชา : "ต้องดูว่าเขาทำขนาดไหน มีข่มขืนใจมั้ย ความผิดเรื่องบุกรุกก้ำกึ่ง เพราะศาลตัดสินว่าเขาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมอยู่ด้วย บุกรุกต้องเข้าบ้านคนอื่น แต่นี่เข้าบ้านตัวเอง โดยทั่วไปเขาไม่เข้ากันหรอก คดีนี้ก็ไม่เข้าใจว่าโจทก์ท่านนี้ทำไมเข้าไป"

บี : "มีทนายด้วยค่ะ ทนายก็เป็นคนนอนอยู่ในบ้านบีด้วยค่ะ"

เขาเป็นหนุ่มฮอต มีผู้หญิงโทรหาคุณเยอะมากหลังมีข่าว?

บี : "มีคนโทรมาเยอะมากว่าโดนบุคคลท่านนี้กระทำเหมือนกัน มีพฤติกรรมแบบนี้เหมือกัน เขาก็มีฐานะเหมือนกัน จะโดนฟ้องหลายคดี เป็นแพทเทิร์นเดียวกับที่บีโดน"

มืออาชีพ?

บี : "เป็นแพทเทิร์น ตอนนี้มี 3-4 คนค่ะ"

ได้อะไรไปบ้าง?

บี : "สิ่งที่ทางโน้นโดนเหมือนบี คือปลอมแปลงเอกสาร โดนฟ้องลักทรัพย์ แล้วฟ้องว่าเป็นสิทธิ์ของเขา แบบเดียวกันทุกอย่าง"

ผู้หญิงสามารถมีเมียได้หลายคนและตามไปฟ้องได้ทุกบ้าน?

ทนายเดชา : "กฎหมายไทยให้มีเมียคนเดียว จดทะเบียน คือกฎหมายก็มีช่องว่าง ว่างเยอะไป อยู่กับผู้หญิงคนไหนก็ไปฟ้องแบ่งได้ ผู้หญิงก็ทำได้ อยู่กับผู้ชายไม่จดทะเบียนสมรสก็ฟ้องได้ ไม่จำเป็นต้องออกเงิน อยู่บ้านหลังนี้ ดูแลบ้านดูแลครอครัว แต่ต้องสืบได้ว่ามีความสัมพันธ์เป็นผัวเป็นเมีย"

คดีนี้จะทำยังไง?

ทนายเดชา : "คดีนี้ถ้าแนะนำไปยื่นคำร้องต่อศาลไต่สวนฉุกเฉินดีกว่า เรียกโจทก์มาคุยว่าทำไมเข้าบ้านไม่ได้ ทำไมต้องมาเปลี่ยนกุญแจ คดีก็ยังไม่ถึงที่สุด อาจใช้วิธีขอทุเลาระหว่างอุทธรณ์ ต้องไต่สวนฉุกเฉิน ถ้าจะทำก็ทำตอนนี้เลย ก็ต้องสู้กันต่อไปในชั้นอุทธรณ์ และสืบให้ชัดเจนว่าเงินเป็นของคุณแม่คนเดียว ไม่ได้เป็นสามีภรรยาโดยพฤตินัย ไม่ได้อยู่อาศัย เอาของเดิมมาเขียนอุทธรณ์ใหม่ สู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป"

คุณพูดว่าคดีนี้ยังไงคุณบีก็แพ้?

ทนายเดชา : "เราอย่าไปหลงประเด็นว่าเราเป็นชื่อเจ้าของโฉนด มันไม่ได้มีผลอะไรเลยนะ มันสนใจตั้งแต่เริ่มต้นว่าเงินมาจากไหน ใครเอามาซื้อโฉนด อย่างน้องเขาไม่มีสิทธิ์ดีกว่าคนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในเมื่อคนโอนให้คุณไม่ได้มีสิทธิ์ทั้งหมด เรารับไปก็รับได้เท่าที่เขามีสิทธิ์เราเลยแพ้ ต้องสู้ต่อไป ต้องนำเสนอให้ศาลเห็นว่าเป็นเงินคุณแม่คนเดียว คนนี้ไม่ได้มาอาศัยกับเรา สู้ต่อไปครับ ความสัมพันธ์ผัวเมียจบไปแล้วแต่ความสัมพันธ์ทรัพย์สินเกิดมาแล้ว เพราะบ้านได้มาหลังเขาคบกัน"

ตอนแรกคุณมีกล้องวงจรปิดในบ้าน หลังจากนั้นเขามาดึงปลั๊กออก?

บี : "หลังเขาเข้ามาสองวันดูกล้องไม่ได้"

ก่อนหน้านั้นเขาแอบซื้อตัวแม่บ้านไว้?

บี : "ซื้อตัวมั้ย ไม่อยากจะใช้คำนี้แต่มีการติดต่อแม่บ้านในบ้าน เป็นคนถ่ายรูปส่งข้อมูลให้ว่าคุณแม่อยู่ รพ.ยังไง นานแค่ไหนแล้วโคม่าแล้ว มารู้หลังเขาลาออกและไปเป็นพยานให้ฝั่งโน้น ขึ้นเบิกความเป็นพยานให้ฝั่่งโน้น เราก็เสียใจมาก อยากบอกว่าสูญเสียคุณแม่ก็เป็นอะไรที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตอยู่แล้วนะ"

ทนายเดชา : "ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นด้วยนะ เขามีพยานเป็นคนใกล้ตัวคุณแม่"

บี : "บีว่ามีเจตนาไม่สุจริตตั้งแต่ต้น ทุกอย่างเกิดขึ้นหลังคุณแม่เสีย รอเสียแล้วเรื่องนี้ก็เข้ามา วันนี้ที่ออกมาเพื่อปกป้องสิทธิ์ตัวเอง และให้เป็นอุทาหรณ์ด้วยว่าคนแบบนี้มีอยู่จริง มาเพื่อผลประโยชน์หรืออะไร อย่างที่ผู้หญิงหลายคนโทรมาว่าโดนแบบนี้"

เขาฟ้องคุณขโมย?

บี : "ค่ะ ขโมยโต๊ะ 4 ตัว มูลค่า 28,000 บาท"

คุณเอาโต๊ะเขามาเหรอ เอามาทำไม?

บี : "คือโต๊ะตัวนี้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในบ้าน เราเปิดร้านเพชรที่โรงแรม คณแม่เอามาตั้งตอนเปิดร้านเอาไว้ตั้งดอกไม้อยู่ในร้าน โต๊ะตัวนี้อยู่ในบ้านบี ก็เอาออกมา แล้วมาฟ้องว่าขโมย"

ทนายเดชา : "ต้องไปนำสืบว่าเป็นของใคร แต่ดูแล้วน่าจะขาดเจตนา น่าจะเข้าใจว่าทำได้ เป็นของเรา"

บี : "เราซื้อค่ะ"

ทนายเดชา : "มีใบเสร็จมั้ย ต้องพิสูจน์ทรัพย์กัน"

อยากบอกอะไรทหาร?

ทนายเดชา : "ก็กลับมาเจรจาให้มันจบๆ ดีกว่า อย่าไปต่อเลย"

บี : "อยากจะวอน บีก็นักธุรกิจ ไม่มีความต้องการมาเป็นประเด็นหรือเป็นข่าว แต่วันนี้ถึงที่สุดจริงๆ เลยจำเป็นต้องออกมา ขอความเมตตาผู้ใหญ่ ใครก็ได้ ช่วยให้บีได้รับความเป็นธรรมด้วย บางทีคนเดียวที่จะช่วยได้คือนายกฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดียวเท่านั้น เป็นสิทธิ์ของเรา คุณแม่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง สร้างเสร็จตั้งใจให้ลูกๆ และอยู่กับลูกๆ แต่สร้างเสร็จก็ป่วยและมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น"

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ ไฮโซบี ลั่นไม่ยอมเสียบ้าน 40 ล้าน แฉ "บิ๊กทหารเรือ" ทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกหลายคน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook