เมียวิศวกรร่ำไห้ แฉนาทีหมอจบใหม่วินิจฉัยโรคพลาด "สามีต้องไม่ตายฟรี"

เมียวิศวกรร่ำไห้ แฉนาทีหมอจบใหม่วินิจฉัยโรคพลาด "สามีต้องไม่ตายฟรี"

เมียวิศวกรร่ำไห้ แฉนาทีหมอจบใหม่วินิจฉัยโรคพลาด "สามีต้องไม่ตายฟรี"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมียวิศวกรร่ำไห้ แฉนาทีหมอจบใหม่โรงพยาบาลชื่อดัง วินิจฉัยโรคผิดพลาด ประกาศลั่น "สามีต้องไม่ตายฟรี" หวังกรณีนี้เป็นเคสตัวอย่าง

จากกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ครอบครัวของผู้จัดการวิศวกรไฟฟ้าบริษัทเอกชน ได้เข้าร้องเรียนกับกองปราบฯ เพื่อดำเนินคดีกับแพทย์โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เหตุวินิจฉัยโรคผิดพลาด เป็นโรคหัวใจตีบและบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ เป็นเหตุทำให้คนไข้ต้องเสียชีวิต

ล่าสุดรายการ โหนกระแส ได้เชิญ นางกิ่งกาญจน์ ภรรยาของคนไข้ที่เสียชีวิต พร้อมกับทนายความ มาพูดเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว รู้เจ้าตัวบอกว่าอยากให้เป็นเพียงแค่ความฝัน และหวังจะให้กรณีนี้เป็นเคสตัวอย่างเกี่ยวกับวงการแพทย์ของไทย

"สามีอายุ 45 ปีค่ะ ไม่มีโรคประจำตัว รักษาแค่โรคคอลเลสเตอรอล สามีไม่เคยบอกว่าเป็นโรคหัวใจ ในวันนั้นสามีมีอาการเจ็บหน้าอกด้านซ้าย และเจ็บที่ต้นแขนซ้าย มีอาการแขนอ่อนแรง หายใจไม่ค่อยออก หนาว มีเหงื่อออก เราก็ไปรพ.สักสองทุ่มครึ่ง หนูเป็นคนขับรถไป สามีนั่ง พอถึงรพ. เขาก็เดินลงไปติดต่อเจ้าหน้าที่ พอขึ้นมายังเจอสามียังนั่งรอด้านหน้าอยู่ ก็ถามเจ้าหน้าที่ว่า สามีเจ็บหน้าอกข้างซ้ายมานะคะ ยังไม่ได้ตรวจอีกหรือ

สักพักเขาก็เรียกเข้าไปด้านในพอเข้าห้องฉุกเฉิน นางพยาบาลซักประวัติ เราก็บอกว่าเขาเจ็บหน้าอกด้านซ้าย เจ็บมาที่ต้นแขนซ้าย แขนไม่ค่อยมีแรง หายใจไม่สะดวกเหมือนที่เคยหายใจ มีอาการเหงื่อออก บอกพยาบาลไปแบบนี้ เขาก็ให้เราออกมารอข้างนอกห้องฉุกเฉิน หลังจากนั้นตอนสามทุ่มครึ่ง สามีไลน์มาบอกว่าเขาฉีดยาลดกรดให้ ให้นอนรออาการ 1 ชั่วโมง"

ต่อมาถูกวินิจฉัยเป็นโรคกระเพาะ ซึ่งสามีเพิ่งมีอาการแบบนี้เป็นครั้งแรก และโรคกระเพาะไม่เคยเป็นนะคะ ตอนออกจากห้องฉุกเฉิน ก็ถามสามีว่าสรุปหมอบอกว่าเป็นอะไร เขาบอกว่าที่เสียดหน้าอก เพราะเสียดมาจากกระเพาะอาหารทำให้แน่นมาถึงหน้าอก เขาก็เลยฉีดยาลดกรดให้ บอกว่าให้กลับบ้าน เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง

หนูกับสามีก็โล่งใจว่าอาการที่เราคิดว่าเป็นเกี่ยวกับหัวใจมันไม่ใช่ ก็เบาใจ ก็รับยาและกลับบ้าน ปกติสามีรักษาที่นี่ประจำค่ะ แต่กับหมอคนนี้ยังไม่เคยเจอกัน เพราะเป็นหมอห้องฉุกเฉิน

พอกลับไปถึงบ้าน ก็ไม่ได้ดีขึ้นค่ะ เขาก็นอนจนถึงเที่ยงคืน ได้ยินเหมือนเขานอนกรนก็หันมาดู ปรากฏว่ามีน้ำลายฟูมปาก ตาเหลือก เหมือนไม่หายใจ เลยให้ลูกชายไปเรียก รปภ. และ 1669 ช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ 1669 กว่าจะมาก็ปาไปครึ่งชั่วโมงแล้ว สุดท้ายก็เสียชีวิตแล้ว"

788614

หลังเกิดเหตุได้ไปที่โรงพยาบาลที่รักษาก่อนหน้านี้ไหม?
กิ่งกาญจน์ : "ไม่ได้ติดต่อกลับไป แต่วันรุ่งขึ้นไปขอเวชระเบียนในการรักษา ทั้งหมดเกิดเร็วมากค่ะ คือเขาวินิจฉัยมาว่าจุกเสียดมาจากกระเพาะอาหาร แต่เสียชีวิตเพราะหัวใจตีบ ถ้าแพทย์รักษาได้ถูกต้อง สามีคงไม่ตาย เพราะเดินไปบอกคุณหมอได้ ถ้าวินิจฉัยถูกต้องจะรักษาไปทางโรคหัวใจ แต่นี่แค่ฉีดยาให้ แล้วให้กลับไปบ้าน ไม่ได้รักษาเกี่ยวกับโรคหัวใจเลย วันนั้นกะว่าให้นอนรอดูอาการที่ รพ. อยู่แล้ว เพราะกลับบ้านไปจะฉุกละหุก แต่เขาให้ฉีดยาแล้วกลับบ้าน ตอนไปรักษายังเดินไปรักษาได้เลย"

วินาทีช่วยกันปั๊มหัวใจแล้วปั๊มไม่ขึ้น?
กิ่งกาญจน์ : "อยากให้เป็นความฝัน แต่ยังไงก็ไม่ใช่ (ร้องไห้) เขาไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ เรียกยังไงก็ไม่กลับมาหาเราอีกแล้ว มันติดตาลูก ติดตาภรรยา ทำให้เราเสียเขาโดยเราตั้งตัวไม่อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เราก็ยังทำกิจกรรมร่วมกันอยู่ในทุกๆ วัน เพิ่งพาไปหาหมอกลับมานอนใกล้ๆ กัน แต่แค่ชั่วโมงเดียว เขาก็ไม่หายใจ ไม่ได้บอกลา ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย (ร้องไห้) เขากลับมานอนเลย เราไม่ได้คุยอะไรกันเลย หนูเจอเขาเป็นแบบนั้นเลย น้ำลายฟูมปาก ตาเหลือก ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เหมือนมาแล้วเราก็นอนพักผ่อนที่บ้าน (ร้องไห้) ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้"

ทางด้านทนายมีข้อมูลอะไรเพิ่มอีกหรือไม่?
ทนาย : "วันที่ 8 ประมาณ 9 โมงเช้าขอไปคัดเวชระเบียน รพ.ชื่อดัง รพ.ถามว่าทำไมเจ้าตัวไม่มาเองผมก็แจ้งว่าเจ้าตัวเสียชีวิต เขาก็ขอดูใบมรณบัตร ใบรับรองการตาย ปรากฏว่า รพ.เขาก็เปิดคอมพิวเตอร์ดูว่าตายได้อย่างไร เพิ่งมารักษา เขาก็ไม่ให้คัด เจ้าหน้าที่บอกว่าหมอคนนี้เพิ่งมาใหม่ เพิ่งจบ มาห้องฉุกเฉินเป็นแพทย์หญิง เพิ่งจบปีนี้ เป็นพาร์ทไทม์หรือเปล่าเราก็ไม่รู้ ไม่มีหมออาวุโส ตอนนี้เขาอ้างว่ามีการเอกซเรย์ ตรวจคลื่นไฟฟ้า อะไรมากมาย แต่ใบรับรองแพทย์ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้มีการเปิดเผยข้อมูลผ่านสปส. ว่ามีการเอกซเรย์หน้าอก ทำโน่นทำนี่มากมาย แล้วผมถามว่าทำไมไม่มีอะไรลงในใบรับรองแพทย์"

แล้วใครเป็นคนดำเนินการเอ็กซเรย์ให้?
ทนาย : "ข้อมูลอยู่ที่ สบส. คร่าวๆ ว่า สบส.ไปเอามาจาก รพ. ที่ยืนยันว่ามี ผมก็ยังงงว่ามีได้อย่างไร ผมจะไปขอข้อมูลตรงนี้จาก รพ.เลย ซึ่งผมทำหนังสือไปขอจากทาง รพ. ให้มายืนยันว่าหมอตรวจจริงหรือเปล่า"

การขอเอกสารเหล่านี้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?
ทนาย : "เวชระเบียนขอได้เลยแต่ รพ.ปฏิเสธไม่ให้ จริงๆ ขอต้องได้วันนั้นเลย แต่ รพ.บอกว่าเป็นระเบียบ รพ. ไม่อนุญาตให้ได้ กล้องวงจรปิดต่างๆ ต้องขอ ถามว่าได้ยากมั้ย ตามหลักมนุษยชนต้องได้ แต่ รพ.จะให้หรือไม่ได้ก็ตอบไม่ได้ ต้องถามผู้อำนวยการ รพ.ว่าให้ได้ไหม จริงๆ ผมมองว่ามันไม่ใช่ความลับอะไร มันเป็นสิทธิ์คนไข้ เพื่อนำมาพิจารณา ดำเนินการต่อไป รพ.ควรให้ แต่เป็นดุลยพินิจ รพ."

859392

แล้วทางเรามีโอกาสได้รับการชดเชยอย่างไร?
ทนาย : "วันนี้ทาง รพ. และแพทย์ไม่แสดงความเสียใจเลย ไม่ติดต่ออะไรเลยก็เป็นเรื่องยาก เราต้องทำทุกวิถีทางให้รพ.และแพทย์ออกมายอมรับผิด และชดเชยแก่ผู้เสียหาย เงินเยียวยาก็ต้องจากแพทย์และรพ. ตอนนี้เราแค่ให้เขารับผิดก่อน เพราะเขาบอกว่าเขาทำตามมาตรฐานแล้ว

ผมก็งงว่าในห้องฉุกเฉินมีที่เอกซเรย์เหรอ ก็ต้องขอเอกสารชุดนี้ไปเพื่อประมวลว่ายังไงกันแน่ 10 นาทีเองหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะ มันเร็วเกินไป อาการของเขาหัวใจเจียนจะวายแล้ว ฟังจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีใครปล่อยกลับบ้าน ต้องทำการฉีดสี

ผมบอกได้เลยเคสเนี้เกิดจากการวินิจฉัยที่ผิดพลาดของแพทย์ เพราะมีผลจาก รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต ยืนยันการเสียชีวิต ผ่าโดยละเอียดแล้ว ยืนยันว่าเสียชีวิตจากโรคหัวใจตีบ ออกไปชม.เดียวเสียชีวิต ทันที หมอบอกว่าน้ำท่วมปวดแล้ว จะตายอยู่แล้ว คุณส่งเขากลับไปตายคุณเป็นหมอเป็น รพ.บอกว่ามีศูนย์โรคหัวใจ 24 ชั่วโมง ฉุกเฉิน แต่คุณส่งคนเป็นโรคหัวใจตีบกลับไปตาย คุณส่งเขากลับไปได้ยังไง ทำไมไม่ฉีดสี ไม่ทำการรักษา"

สุดท้ายอยากบอกอะไรถึงเหตุการณ์ครั้งนี้บ้าง?
กิ่งกาญจน์ : "(ร้องไห้) อยากให้เขาออกมารับผิดว่า เขาทำให้สามีต้องเสียชีวิต ออกมาบอกว่าตัวเองผิดหน่อยเถอะ ไม่ใช่ไม่ยอมรับอะไรเลย ไม่ทำผิดอะไรเลย เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา ไม่มีค่าอะไรเลย ชีวิตสามีเขามีความสำคัญกับครอบครัวหนูมาก (ร้องไห้) ทุกวันนี้ผ่าน รพ.นี้รู้สึกแย่ เพราะใช้บริการอยู่ที่นี่มาตลอด ลูกชายก็คลอดที่นี่ ตอนนี้คิดถึงสามีมาก ไม่ได้เจอหน้าหลายวันแล้ว (ร้องไห้) อยากบอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด เขาจะต้องไม่ตายโดยไม่มีใครมารับผิดชอบเรื่องนี้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook