พ่อสามเณรเปิดปาก ลูกจำใจบำเรอกาม "เจ้าอาวาส" เพราะเด็กกลัวตาย

พ่อสามเณรวัย 13 ปี เปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์อื้อฉาว ถูกขังเอาไว้ในกุฏิและบำเรอกามให้เจ้าอาวาสวัด ลูกชายจำใจต้องทำเพราะถูกขู่และกลัวโดนฆ่าปิดปาก

จากกรณีเหตุสามเณรวัย 13 ปี ได้ถูกช่วยเหลือและเข้าแจ้งความ เพราะถูกเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี กักขังเอาไว้ภายในกุฏิเป็นเวลา 5 วัน พร้อมกับบังคับขืนใจให้ทำออรัลเซ็กซ์ให้ เมื่อพระลูกวัดเข้าไปช่วยก็ยังถูกทำร้าย ขณะที่เจ้าอาวาสได้ออกโรงมาปฏิเสธลั่นไม่เคยทำเช่นนั้น

>> สามเณรโดนขังคากุฏิ 5 วัน อยู่เป็นทาสเซ็กส์-ปรนนิบัติกามให้เจ้าอาวาส

ล่าสุดรายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 พิธีกรสาว "ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ นายพงพิสุทธิ์ พ่อของสามเณร ที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ลูกชายบวชตั้งแต่อายุ 12 ปี ตอนแรกตั้งใจจะบวชให้ย่าที่เสียชีวิตลง แต่เขาก็ตัดสินใจบวชเรียนไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดสึก ตอนที่อยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ เขาก็ปรับตัวดีกว่าเดิมมาก ไม่เกเร รู้จักรับผิดชอบตัวเอง

"สาเหตุที่เลือกบวชวัดดังกล่าว เพราะอยู่ใกล้บ้าน มีญาติพี่น้องอยู่ไม่ไกล ห่างจากบ้านแค่กิโลเมตรเดียว ผมก็ไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ บางทีก็โทรศัพท์คุยกัน วัดนี้มีสามเณรบวชแค่รูปเดียว นอกนั้นเป็นพระสงฆ์ 9 รูป ผมรู้จักเจ้าอาวาส แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไร เพราะตอนที่ลูกชายป่วย ปู่เป็นฝ่ายจัดการให้ โดยเจ้าอาวาสก็ไม่มีท่าทีอะไร เป็นพระสงฆ์ทั่วไป"

เกิดเหตุประมาณวันที่เท่าไหร่?
พงพิสุทธิ์ : "เกิดเหตุตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน เกิดเรื่องมาตลอดแต่ผมไม่ทราบ เพิ่งมารู้"

เขาไม่ได้ก่อเหตุครั้งแรกหรือ?
พงพิสุทธิ์ : "ไม่ได้ทำครั้งแรก สามเณรปิดผมไว้ไม่บอก เขาไม่กล้าบอก จนสามเณรทนไม่ไหวแล้ว เขาโทรมาบอกว่าให้ช่วยมารับกลับบ้านที รุ่งเช้าน้องสาวบอกว่าสามเณรมีปัญหากับเจ้าอาวาสถูกกระทำชำเรา ให้อมนกเขาให้ อาไปรับก่อนผมไปถึง"

ความรู้สึกแรก ที่คุณอาโทรมาบอก?
พงพิสุทธิ์ : "ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่ เราฟังข้างเดียว จะไปขอคุยกับเจ้าอาวาสก็ยังพูดไม่ได้ เพราะได้คุยกับน้องสาวและสามเณรว่าจะทำอะไรต้องมีหลักฐานให้พร้อม จะได้เอาผิดเขาได้ และอย่าให้เจ้าอาวาสรู้ว่าอยู่ตรงไหน เพราะเขาข่มขู่เณรไว้แล้ว เณรเห็นว่ามีมีด มีปืนในกุฏิ"

เณรเล่ารายละเอียดบ้างไหม ว่าอยู่ในกุฏิกี่วัน โดนบังคับให้ทำอะไรบ้าง?
พงพิสุทธิ์ : "เล่าครับ อยู่ตรงนั้นไม่ให้ออกมา 5 วัน ก่อนหน้านั้นให้ไปนวดขาเจ้าอาวาสและให้ไปทายา ช่วงระหว่างทา ได้เปิดจีวรออกมา พอทายาไปเรื่อยๆ บอกให้เณรอมนกเขา เณรก็ยังไม่อม เหมือนบังคับ เณรมองเห็นมีด เขาเป็นเด็กก็กลัว ไม่มีใครอยู่ด้วย กลัวถูกทำร้าย ก็เลยจำใจยอมเอาตัวรอด พอได้ทำจนสำเร็จความใคร่ไปแล้ว ก็มีการเรียกมาอีกวันนึง จนไปเรื่อยๆ จนครบ 5 วัน พอหลังจากวันที่ 1 เขาป่วย 3 วัน ก็ไม่ได้มีการเรียกสามเณร แต่ต้องอยู่ใกล้เขา เณรอยากกลับบ้าน ผมก็พากลับ แต่เณรไม่กล้าบอก"

หลักฐานอะไรที่มั่นใจว่าลูกโดนแน่นอนเลยไปแจ้งความ?
พงพิสุทธิ์ : "หลักฐานการคุยทางเฟซทางไลน์ รวบรวมทั้งหมด และรวบรวมเป็นหลักฐานดำเนินคดีฟ้อง"

ชาวบ้านมารวมตัวกันด้วยตอนฟ้อง?
พงพิสุทธิ์ : "ครับ แต่ตอนแจ้งความผมไม่รู้นะ ว่าชาวบ้านมารวมตัวด้วยเรื่องเหตุใด จนมาทาราบว่าเรื่องเณรด้วย กับเรื่องพระลูกวัดเรื่องฉ้อโกงเงิน"

นอกจากนี้ ทางรายการยังได้ติดต่อกับ พระนัทธี สิริจันโท ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และพยายามช่วยเหลือสามเณรที่ตกเป็นเหยื่อ โดยเปิดเผยว่า...

"วันเกิดเหตุ อาตมากำลังทำภารกิจภายในวัด ได้รับโทรศัพท์น่าจะเป็นคุณอาของเณรที่โทรมาหาอาตมา ว่าทำไมหลวงพ่อขังเณรไว้ในกุฏิ ก็ตกใจเหมือนกันเลยเข้าไปดู ปรากฏว่าเณรโดนขังอยู่ในกุฏิจริง 4-5 วันแล้ว ล็อกกุญแจจากด้านใน ถ้าหลวงพ่ออยู่ด้วยเณรก็ออกมาไม่ได้ เพราะหลวงพ่อบังคับไม่ให้ออกไปไหน อาตมาก็ออกกลอุบายว่าจะไปเรียกสามเณรให้มาช่วยยกของ เลยตะโกนเรียกเข้าไปภายในกุฏิ เข้าไปเห็นใส่ผ้าขนหนูผืนเดียวนอนคว่ำหน้าอยู่ ก็พาสามเณรไปสอบถามว่าทำไมโดนขัง การสอบถามของพระภิกษุตอนนั้นเณรก็ยืนยันว่าได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกหลวงพ่อบังคับให้อมอวัยวะเพศ เณรก็ร้องไห้บอกว่าอยู่ไม่ได้แล้ว อาตมาก็โทรศัพท์ประสานงานกับอาของเขา ว่าจะแอบเอาเณรหนีไป เรื่องนี้พระภิกษุไม่ตกใจ เพราะตั้งแต่มาจำพรรษาก็ได้รับข่าวแบบนี้ตลอด พระภิกษุรูปอื่นก็จะบอกว่าพฤติกรรมหลวงพ่อกับเณรจะเป็นแบบนี้ตลอด"

ท่านไม่ได้ก่อเหตุเป็นรูปแรก?
พระนัทธี : "คิดว่าไม่ใช่รูปแรก ที่ผ่านมาดำเนินการไม่ได้เพราะเจ้าอาวาสเป็นคนในพื้นที่ ญาติเจ้าอาวาสเยอะพอประมาณ เจ้าอาวาสเป็นพระผู้ใหญ่"

ตอนเข้าไปช่วย เห็นว่ามีการทำร้ายร่างกาย?
พระนัทธี : "หลังไปช่วย อาตมาได้ปรึกษากับญาติสามเณรว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ในวันออกพรรษาหลวงพ่อขึ้นไปบนโบสถ์ ท่านรู้ระแคะระคายมาว่าอาตมาเดินเรื่องกับเจ้าคณะตำบล และเดินเรื่องติดต่อประสานงานเจ้าหน้าที่ตร. ท่านก็ถามอาตมา อาตมาไม่ตอบ เขาขู่จะเอาปืนยิงอาตมา จนอาตมาต้องตอบว่าได้ดำเนินการทางคดีอาญาและพิธีสงฆ์แล้ว หลวงพ่อท่านโมโห ทำร้ายอาตมา ลุกขึ้นเตะกระทืบหน้าอก มีพระจำนวน 10 รูปเป็นพยาน พระภิกษุช่วยกันห้ามหลวงพ่อ แต่อาตมาไม่สู้"

และต้องการดำเนินคดีอย่างไรบ้าง?
พระนัทธี : "ดำเนินคดีแจ้งความทำร้ายร่างกาย แต่ท่านเจ้าอาวาส วันทำร้ายร่างกายได้โทรหาเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะตำบลมาระงับเหตุ ท่านก็สารภาพว่าท่านทำร้ายอาตมาเพราะโมโห แต่พอเจอนักข่าวท่านก็ปฏิเสธ แต่มีพยาน พระรูปอื่นก็ยินดีเป็นพยาน ถ้าผู้ใดยืนยันเข้าข้างหลวงพ่อ ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นพยานเท็จ"

ต่างฝ่ายต่างเคยมีปัญหากันมาก่อนหรือไม่?
พระนัทธี : "ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัว อาตมาเป็นเลขาส่วนตัวของท่าน เรื่องการเงินก็ทราบมาว่าทางวัดไม่มีกรรมการวัด ที่ผ่านมาพอหลวงพ่อเป็นเจ้าอาวาส ก็ไล่กรรมการชุดเก่าหมด เอาพวกพี่น้องมาเป็นกรรมการแทน ส่วนเรื่องฉ้อโกง อาตมาไม่ทราบจริงๆ เป็นแค่พระลูกวัด ไม่เกี่ยวข้องกับเงินวัด"

พอมีเรื่องราวเกิดขึ้น เจ้าอาวาสติดต่อหลวงพี่มาหรือไม่?
พระนัทธี : "ไม่มีการติดต่อ ตอนนี้หลวงพ่อหนีไปแล้ว ท่านปล่อยข่าวว่าท่านไปรพ. หนังสือเจ้าคณะตำบลลงมาตั้งแต่วานเย็นแล้ว ท่านได้รับกับมือแล้ว อาตมาเป็นพระลูกวัดต้องให้พระผู้ใหญ่ตัดสิน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ รอพระผู้ใหญ่อยู่"

คุณพ่อรู้สึกยังไง?
พงพิสุทธิ์ : "พูดอะไรไม่ออก ยิ่งรู้ว่าเจ้าอาวาสหลบหนีไปด้วย ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดตามกฎหมายเลย เรื่องนี้ถ้าไม่โดนกับตัวก็ไม่รู้หรอก มันรับไม่ได้ เณรไม่กล้าสู้หน้าใคร เก็บตัว การคุยกับใครก็ไม่เหมือนก่อน หลังจากนั้นเขาคอยดูโทรศัพท์อย่างเดียว เบอร์แปลกไม่รับเลย"

เห็นว่าทางฝั่งหลวงพ่อ ได้พยายามติดต่อสามเณรเมื่อคืนนี้ด้วย?
พงพิสุทธิ์ : "ครับ มีแอบมาหาด้วย แต่เณรวิ่งหน้าตั้งมาบอกว่าเจ้าอาวาสมาหา ผมไปมองดูก็มาจริงๆ ก็สั่งเณรห้ามไปคุย ห้ามออกจากห้องเลยเด็ดขาด"