แม่ลูกอ่อนแจ้งจับผัวใหม่ เมาฉลองลูกเพิ่งเกิด เตะอัดลูกเลี้ยงปอดฉีกตาย
สาวแม่ลูกอ่อนแจ้งตำรวจให้กับ "สามีใหม่" หลังเมาอาละวาด-หึงหวง ไล่ทำร้ายร่างกาย แต่ปรากฏว่าลูกเลี้ยงโดนลูกหลง ถูกเตะอัดสลบคาที่ ก่อนเสียชีวิตลงน่าเศร้า
เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) นางสาวกาญจนา อายุ 29 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.วิษณุชัย คารมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภเมืองบึงกาฬ ว่า น้องก้อง (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี สาเหตุเกิดจากถูก นายณรงค์ศักดิ์ อายุ 27 ปี สามีคนใหม่ ทำร้ายร่างกายตนเองและลูก ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 12 ตุลาคมผ่านมา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้นำลูกชายส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ แต่อาการไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางสาวกาญจนา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกชายวัย 2 ขวบเสียชีวิตว่า ในขณะนั้นตนกำลังไกวเปลให้ลูกคนเล็กนอนหลับอยู่ ซึ่งเป็นลูกชายที่เพิ่งเกิดกับนายณรงค์ศักดิ์ได้เพียง 7 วัน และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักที่บ้าน โดยนายณรงค์ศักดิ์ได้ทำการเลี้ยงฉลอง โดยตั้งวงดื่มเหล้าสังสรรค์อยู่กับเพื่อนที่ข้างบ้าน
ก่อนเกิดเหตุนายณรงค์ได้เรียกตน แต่ตนไม่ได้ยิน เนื่องจากเหนื่อยล้าและกำลังกล่อมลูกนอนอยู่ ทำให้นายณรงค์โมโหเดินมาถอดปลั๊กพัดลมออก และอาละวาดใส่ เพราะเข้าใจว่าตนเล่นเฟซอยู่กับสามีเก่า จึงใช้กำลังเตะเข้าลำตัว 3 ครั้ง ลูกชายวัย 2 ขวบก็โดนเตะไปด้วย 1 ครั้ง
จากนั้นยังไม่หนำใจจึงใช้ นายณรงค์ศักดิ์ ใช้พลั่วเหล็กตีซ้ำ 3 ที แต่ตนหลบได้ แต่ปรากฏว่าลูกชายวิ่งเข้ามาโผกอด ทำให้ถูกพลั่วตีเข้าศีรษะไปและหมดสติไป จึงต้องนำส่งโรงพยาบาลบึงกาฬในเวลาต่อมา อาการไม่ดีขึ้นทางโรงพยาบาลจึงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีและได้เสียชีวิตลงในช่วงบ่าย ตนจึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับสามีใหม่
ต่อมา พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ พลพุทธา รอง ผกก.สส สภ.เมืองบึงกาฬ พร้อมพวกจึงได้นำหมายศาลจังหวัดบึงกาฬ เข้าไปจับกุมตัวนายณรงค์ศักดิ์ได้นำตัวมาสอบสวน โดยรับสารภาพว่าตนเองได้ทำร้ายภรรยา แต่ลูกชายที่เกิดจากสามีเก่าวิ่งเข้ามากอดจึงโดนลูกหลงไปด้วย ตำรวจจึงแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่กายหรือจิตใจ และ เสพยาเสพติดประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวเข้าห้องขังดำเนินคดีต่อไป