แม่พาลูกสาววัย 13 แจ้งจับ "ญาติพ่อเลี้ยง" ปล้ำข่มขืนมาตั้งแต่ 9 ขวบ

แม่พาลูกสาววัย 13 แจ้งจับ "ญาติพ่อเลี้ยง" ปล้ำข่มขืนมาตั้งแต่ 9 ขวบ

แม่พาลูกสาววัย 13 แจ้งจับ "ญาติพ่อเลี้ยง" ปล้ำข่มขืนมาตั้งแต่ 9 ขวบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุดสะเทือนใจ แม่จูงมือลูกสาววัยกำลังโตเป็นสาว โร่แจ้งจับญาติสามีใหม่ หลังเพิ่มรู้แอบข่มขืนมานาน 5 ปี เด็กตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เค้นถามทั้งน้ำตาจึงยอมพูด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พ่อแม่ของ เด็กหญิงพลอย (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมี่ผ่านมา เพื่อต้องการดำเนินคดีกับ นายดี (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นญาติของพ่อเลี้ยง หลังพบว่าก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กมานานถึง 5 ปี ตั้งแต่ตอนสมัยเด็กยังอายุแค่ 9 ขวบ กระทั่งเด็กมีพฤติกรรมซึมเศร้าและหวาดผวา กระทั่งยอมเปิดปากเล่าให้ฟังทั้งน้ำตา

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แม่ของน้องพลอย เปิดเผยว่า น้องพลอยเป็นลูกติดที่เกิดจากสามีเก่า แต่ปัจจุบันได้มาแต่งงานอยู่กินกับสามีคนปัจจุบัน ที่มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงของน้องพลอย โดยใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมาเกือบ 10 ปีแล้ว และก็ช่วยดูแลลูกสาวด้วยกันมาโดยตลอด ทุกๆ วันจะออกไปทำงานรับจ้าง ไปเช้าเย็นกลับ ส่วนลูกสาวก็ไปโรงเรียนตามปกติ และจะมีบางช่วงที่อยู่บ้านเพียงลำพัง

แต่ปรากฏว่าในช่วงระยะหลังๆ ในปีที่ผ่านมา พบว่าน้องพลอยมีอาการซึมเศร้าผิดปกติ กลายเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ค่อยออกไปพบปะใคร กระทั่งตัดสินใจเค้นสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกสาวพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะบอก ตนจึงกดดันให้ลูกยอมพูดออกมา กระทั่งเจ้าตัวเปิดปากทั้งน้ำตาว่า ถูกญาติของพ่อเลี้ยงบังคับขืนใจมาหลายปีแล้ว

โดยผู้ก่อเหตุคือ นายดี มีศักดิ์เป็นน้องชายปู่ของพ่อเลี้ยง ที่อาศัยอยู่เป็นเพื่อนบ้านรั้วติดกัน โดยน้องพลอยเล่าว่า เริ่มต้นจากปู่เข้ามาพยายามกอดหอมและลวนลาม อาศัยช่วงเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น พยายามใช้นิ้วสอดใส่อวัยวะเพศ บางครั้งก็สอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปบ้าง หรือไม่ก็ใช้ช่วยสำเร็จความใคร่ด้วยการใช้มือ

และทุกครั้งหลังก่อเหตุ ปู่หื่นรายนี้ก็จะข่มขืนห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะตามมาฆ่าปิดปาก ทำให้เด็กรู้สึกกลัวและหวาดระแวงไม่กล้าบอกครั้ง เมื่อเก็บงำความลับเอาไว้ ปู่ก็ได้ใจและย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำๆ โดยที่เด็กไม่สามารถต่อสู้หรือหลีกเลี่ยงได้ กลายเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมซีมเศร้าลงไปเรื่อยๆ กระทั่งยอมเปิดปากบอกกับพ่อแม่ในที่สุด

ทั้งนี้ ภายหลังจากการสอบปากคำพ่อแม่ของเด็ก เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีแล้ว ได้นำตัวเด็กไปตรวจสอบร่างกายจากแพทย์ ประกอบการดำเนินคดี พร้อมตั้งทีมสหวิชาชีพทำการสอบสอบปากคำเด็กผู้เสียหายตามขั้นตอน เพื่อรวบรวมหลักฐานเสนอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกำหมายต่อไป

เบื้องต้นทางตำรวจยืนยัน จากการสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน มั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมหลักฐานเพียงพอเอาผิดผู้กระทำผิดรายนี้ได้ และเสนอศาลจังหวัดนครพนมพิจารณาอนุมัติออกหมายจับให้เร็วที่สุด

สำหรับอัตราโทษคดีข่มขืนกระทำชำเรา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 -285 ได้ระบุชัดเจนไว้ว่า ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท อาทิ ข่มขืนโดยมีอาวุธ หรือใช้อาวุธ เช่น ปืน หรือวัตถุระเบิด หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิง ต้องรับโทษหนักขึ้น คือ จำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 30,000 - 40,000 บาท

ทั้งนี้หากข่มขืนกรณีที่เป็นเด็กหญิงต้องรับโทษหนักขึ้น และหากข่มขืนโดยมีหรือใช้อาวุธ หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิงต่อเด็กหญิงที่อายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ยินยอม ผู้ข่มขืนต้องรับโทษหนัก คือ จำคุกตลอดชีวิต ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ใช่ภริยาของผู้กระทำ แม้เด็กนั้นยินยอม ก็ยังถือว่าเป็นความผิด ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ต้องรับโทษหนักกว่าข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี คือ ต้องรับโทษจำคุก ตั้งแต่ 7-20 ปี และปรับตั้งแต่ 14,000-40,000 บาท หรืออาจต้องรับโทษหนักถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook