ประสพสุข โยน กก.สรรหาตัดสินสรรหา คตง.-ผู้ว่า สตง.

โบ้ยให้กก.สรรหา สตง.-ผู้ว่าคตง. หลัง 15 ก.ค.ได้ครบตามจำนวน

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงความคืบหน้ากระบวนการสรรหาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ตามที่รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 301 บัญญัติให้มีการสรรหาภายใน 120 วัน นับแต่มีการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า เดิมเคยมีความเห็นว่าต้องรอ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินฉบับใหม่ เนื่องจากประกาศ คปค.ฉบับ 29 ยกเลิกบทบัญญัติในส่วนที่ 1 หมวดที่ 1 ว่าด้วยการแต่งตั้งและอำนาจหน้าที่ คตง.จนกว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้กฎหมายดังกล่าว อยู่ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร แต่หลังจากศาลปกครองวินิจฉัยกรณีการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าให้ดำเนินการได้เลย สตง. ก็ส่งเรื่องมายังวุฒิสภาเพื่อขอให้ดำเนินการ ตนจึงส่งเรื่องอย่างไม่เป็นทางการไปยังกรรมการสรรหา ได้แก่ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้พิพากาษาศาลฎีกาซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือกมา 1 คน ซึ่งจะประชุมเลือกวันที่ 15 กรกฎาคม และตัวแทนตุลาการศาลปกครองสูงสุดซึ่งที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดเลือกมา 1 คน ซึ่งตอนนี้ส่งชื่อมาแล้ว

"โดยหลังวันที่ 15 กรกฎาคม เมื่อได้กรรมการสรรหา ครบทั้ง 2 ชุด คือกรณีการสรรหา คตง. และผู้ว่าการสตง. ตนจะเชิญกรรมการสรรหามาประชุม เพื่อพิจารณาว่าจะสรรหาได้เลยหรือไม่ หรือต้องรอกฎหมายลูกฉบับใหม่ก่อน ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่า กรรมการสรรหาจะพิจารณาอย่างไร แต่เท่าที่ดูพบว่ามีท่าทีในทางบวกว่า อาจเริ่มการสรรหาได้ หลังจากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยกรณีกรรมการสิทธิมนุษยชนว่า ไม่ต้องรอกฎหมายใหม่" นายประสพสุข กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ผู้ว่าการ สตง.ใช้อำนาจ คตง.ได้หรือไม่เพราะประกาศ คปค.ฉบับ 29 ยกเลิกบทบัญญัติในส่วนที่ 1 หมวดที่ 1 ว่าด้วยการแต่งตั้ง และอำนาจหน้าที่ คตง.จนกว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม นายประสพสุข กล่าวว่า คงพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ว่าการ สตง.จะพิจารณา ซึ่งหากใครได้รับผลกระทบก็ให้ไปโต้แย้งกันเอง