โรงแรมแจ้งจับ "ด็อกเตอร์กำมะลอ" กินนอนเต็มอิ่ม 21 วัน หนีหายไม่จ่ายเงิน

ที่แท้ก็ "ด็อกเตอร์กำมะลอ" โรงแรมเชียงใหม่แจ้งจับ ลูกค้าตัวแสบเช็กอินอยู่กิน 21 คืน แต่หนีหายไปไม่จ่ายบิลเกือบ 5 หมื่น แฉพฤติกรรมร้ายไม่เบา

(22 ต.ค.) จากกรณีโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ได้รับความเดือดร้อน จากพฤติกรรมของลูกค้า "ด็อกเตอร์" ที่เข้าพักติดต่อกันเป็นเวลา 21 คืน พร้อมกับสังสรรค์สั่งอาหารกินดื่มไม่เว้นแต่ละ ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมเกือบ 5 หมื่นบาท แต่เมื่อถึงวันเช็กเอาท์ปรากฏว่าลูกค้าหายตัวไป หลังอ้างตัวเป็นนักวิจัยทำงานกระทรวง แต่สืบทราบว่าที่แท้เป็นแค่ "ด็อกเตอร์กำมะลอ"

นางสาวแพร อายุ 35 ปี ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า นายชยรพ เป็นลูกค้า ที่เคยมาพักที่โรงแรมแล้วก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง โดยในครั้งนี้เป็นการเข้าพักครั้งที่ 3 ก่อนหน้านี้มักจะจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ แต่ครั้งล่าสุดเข้ามาติดต่อห้องพักด้วยตัวเอง

โดยการเข้าพักครั้งที่ 3 เริ่มเข้าพักเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2562 โดยตลอดช่วงที่เข้าพักนั้น นายชยรพ ที่อ้างตัวว่าเป็นด็อกเตอร์ทำงานเป็นนักวิจัย ได้พาเพื่อนที่เป็นนักแสดงตลกในภาคเหนือและว่าจ้างสาวๆ มาสังสรรค์ที่โรงแรมเกือบทุกวัน พร้อมทั้งได้สั่งอาหารและเครื่องดื่มจากทางโรงแรมด้วย ซึ่ง นายชยรพ แจ้งว่าจะชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเมื่อเช็กเอ้าท์

>> หนุ่มอ้างเป็น "ด็อกเตอร์" เช็กอินโรงแรม 21 คืน ก่อนชิ่งหนีทิ้งบิลครึ่งแสน

กระทั่งต่อมาในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา นายชยรพ ได้มีสอบถามรายละเอียดและยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากทางพนักงาน โดยบอกว่าจะพักต่ออีกคืน และวันรุ่งขึ้นจะเช็กเอ้าท์ พร้อมชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารของโรงแรม และขอให้ออกใบเสร็จรับเงินในนาม "ดร.ชยรพ" เป็นเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

โดยในครั้งแรกพนักงานพิมพ์ในใบสรุปยอดค่าใช้จ่ายให้แค่ว่า “นายชยรพ” เท่านั้น แต่ถูกสั่งให้แก้ไขเป็น “ดร.ชยรพ” ก่อนที่จะออกจากโรงแรมไป ซึ่งเมื่อถึงเวลาเช็กเอ้าท์ทางโรงแรมได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อหานายชยรพ ได้รับคำตอบแต่เพียงว่า เดี๋ยวจะกลับไปชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่มียอดรวมทั้งสิ้น 48,225 บาท ก่อนจะขาดการติดต่อไปและไม่กลับมาที่โรงแรมอีกเลย โดยทิ้งกระเป๋าเดินทางและของใช้ส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ในห้องพักด้วย

ทั้งนี้ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้กับทางโรงแรมมากพอสมควร เพราะเป็นยอดเงินที่ค่อนข้างสูงและตลอดช่วงที่นายชยรพ เข้าพักอยู่นั้น ทางโรงแรมได้ให้บริการในฐานะลูกค้าเป็นอย่างดีทุกประการ

ซึ่งหลังจากที่ได้พยายามทำทุกทางเพื่อติดต่อให้นายชยรพ มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว รวมทั้งทวงถามผ่านทางกลุ่มเพื่อนที่นายชยรพ พามาร่วมสังสรรค์ด้วยที่โรงแรม แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้เลยและไม่มีท่าทีว่านายชยรพ จะมาชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าว

ทำให้ล่าสุดได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับนายชยรพแล้ว ซึ่งเป็นทางเลือกที่ทางโรงแรมไม่อยากดำเนินการ แต่หากเป็นไปได้อยากให้นายชยรพติดต่อกลับมาชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยการดำเนินการต่างๆ หลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ยอมรับว่าทางโรงแรมอาจจะไม่รอบคอบเท่าที่ควร และอยากให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ประกอบการ

นอกจากนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบถามแหล่งข่าวที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่นายชยรพ พาไปสังสรรค์ที่โรงแรมด้วยตลอดช่วง 21 วันที่เข้าพักในโรงแรมนั้น ระบุว่า นายชยรพ มีชื่อเล่นว่า “เล็ก” ไม่ได้เป็นด็อกเตอร์ หรือเป็นนักวิจัยแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับส่วนราชการใดๆ ด้วย

แต่พบว่าเป็นคนที่มีพฤติกรรมชอบคุยโม้โอ้อวด และหลอกลวงไม่ต่างจากนักต้มตุ๋น โดยมักจะวางมาดดี อ้างว่าเป็นคนมีฐานะหน้าที่การงานดีและน่าเชื่อถือ นายชยรพเคยทำเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว รวมทั้งยังเคยมีกรณีเช่ารถยนต์แล้วนำไปจำนำด้วย ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องก็จะหลบหนีไปกบดานและไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง กระทั่งเรื่องเงียบไปก็จะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก