ระดมกำลังพลนับหมื่นจาก3เหล่าทัพ รับประชุมอาเซียนที่ภูเก็ต กลัวขายหน้า ฮิลลารี คลินตัน

ระดมกำลังพลนับหมื่นจาก3เหล่าทัพ รับประชุมอาเซียนที่ภูเก็ต กลัวขายหน้า ฮิลลารี คลินตัน

ระดมกำลังพลนับหมื่นจาก3เหล่าทัพ รับประชุมอาเซียนที่ภูเก็ต กลัวขายหน้า ฮิลลารี คลินตัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รมว.กลาโหมแจงชัด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่จาก 3 เหล่าทัพคอยรับมือกลุ่มชุมนุม กั้นรัศมี 5กม.ห้ามเข้าใกล้ที่ประชุม หวั่นขายหน้า "ฮิลลาลี" รับปากร่วมประชุมรอบนี้ ย้ำ"ต้องไม่เกิดเหตุวุ่นวายอีก" หลัง ครม.ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้ว

สำนักข่าวรอยเตอร์ โดยนายกิตติพงษ์ สุ่นประเสริฐ และนาย ประชา หริรักษาพิทักษ์ ได้สัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม ยืนยันการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง วันที่ 17-23 ก.ค.ที่จังหวัดภูเก็ตว่า จะต้องดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติกลับมาสู่ประเทศไทย ขณะที่ไทยจะใช้ทหารสามเหล่าทัพ ตำรวจและกองกำลังประชาชนในภูเก็ต"เกือบหนึ่งหมื่นคน" ดูแลรักษาความปลอดภัยผู้นำและผู้เข้าร่วมประชุม และจะไม่ให้มีการชุมนุมใดๆ ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและหกจังหวัดใกล้เคียงอย่างเด็ดขาด

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นโยบายของตน ต้องไม่มีการชุมนุมเลย เราจะใช้วิธีการเจรจา ขอร้อง ดำเนินการทุกอย่าง ไม่ให้มีการชุมนุม ไม่ว่าสนับสนุนหรือต่อต้าน ตนไม่ให้ รวมทั้งในพื้นที่ 5-6 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ใกล้เคียงกับจังหวัดภูเก็ตด้วย...นี่เป็นการทำงาน เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ เราเสียหายมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก" พล.อ.ประวิตร กล่าว ซึ่งเขาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยการประชุมในครั้งนี้ โดยเป็นการทำงานให้กับประชาชนทั้งประเทศ เพื่อรักษาภาพลักษณ์และเรียกความเชื่อมั่นกลับสู่ประเทศไทยอีกครั้ง ไม่ใช่การทำงานให้กับรัฐบาล โดยครั้งนี้ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในจังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 10-24 ก.ค.นี้ เพื่อดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม

"จะมีการใช้กำลังทหารสามเหล่าทัพทั้งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ, เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังประชาชนในภูเก็ต โดยจะใช้กำลังจากพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก ไม่ถึงหมื่น อาจจะใกล้ๆหมื่นคน เป็นที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ ไม่ได้เอาคนเข้าไปเยอะ" รมว.กลาโหม กล่าว และว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 ,การประชุมระหว่างรัฐมนตรีอาเซียนต่างประเทศกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศคู่เจรจา และ การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก(ARF) ครั้งที่ 16 วันที่ 17-23 ก.ค.นี้ โดยนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมความมั่นคงภูมิภาคเอเชีย (ARF) ด้วย สำหรับการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะไม่ไปละเมิดสิทธิของประชาชน และกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

แต่พล.อ.ประวิตร ก็ยอมรับว่า ต้องมีการตรวจเข้มก่อนเข้าจ.ภูเก็ต ด้วยความเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดงที่ต่อต้านรัฐบาล, กลุ่มเอ็นจีโอ, กลุ่มแรงงานและกลุ่มประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัติ ไปประสานกับกลุ่มเหล่านี้ และขอร้องไม่ให้มีการเคลื่อนไหวในช่วงนี้

"เราห่วงหลายกลุ่ม...ผมไม่ได้คุยกับ นปช. แต่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง คงประสานงานกัน นปช.ที่ประกาศมา ไม่น่ามีปัญหาอะไร ครั้งนี้ต้องไม่ให้เกิดเหตุวุ่นวายอีก" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวและว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในครั้งนี้ รได้มีการวางแผนอย่างรัดกุมและซักซ้อมแผนต่างๆ เป็นอย่างดี ซึ่งตั้งแต่วันนี้-24 ก.ค.จะมีการเข้มงวดตรวจตราผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยจะขอความร่วมมือจากโรงแรมและเกสต์เฮ้าส์ ให้ช่วยดูแลสอดส่องผู้เข้าพักด้วย

"วงรอบรัศมี 5 กิโลเมตร จากโรงแรมที่ประชุมและที่พัก จะมีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้เลย ภายในโรงแรมจะมีหน่วยงานมั่นคงดูแล และวงรอบนอกเราตรวจสอบดูแลตามถนนหนทาง...ทหารจะดูแลพื้นที่ชั้นใน ตำรวจดูแลพื้นที่ชั้นนอก" รมว.กลาโหม กล่าวและว่า หากมีการชุมนุม จะควบคุมตัวไว้ก่อน จากนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่พัทยาอย่างเด็ดขาด ทำให้รัฐบาลไทยต้องเลื่อนการประชุมผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 เม.ย. หลังกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งซึ่งต่อต้านรัฐบาล บุกเข้าไปภายในโรงแรมที่จัดประชุม ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองพัทยาและจ.ชลบุรี ก่อนยกเลิกในเวลาต่อมา

สำหรับกลุ่มอาเซียนมี 10 ประเทศ ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, บรูไน, เวียดนาม, พม่า, กัมพูชา และ ลาว กับประเทศคู่เจรจา คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย หรือการประชุมอาเซียน บวก 3 และบวก 6

ทางด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า การประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พื้นที่ จ.ภูเก็ต และรัศมีโดยรอบ 5 กิโลเมตร ระหว่างวันที่ 10-24 กรกฎาคมนี้ เพื่อดูแลให้เกิดความเรียบร้อยในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคม ว่าการประกาศมีสาเหตุมาจาก 1.ประสบการณ์จากการประชุมผู้นำอาเซียนที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวายจนทำให้จัดการประชุมไม่ได้ ครั้งนี้ผู้ชุมนุมก็หาเหตุเคลื่อนไหวอีก อ้างเรื่องนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 2.การดูแลความปลอดภัยของการประชุมต้องใช้กำลังจากหลายหน่วยงาน ได้มีกองอำนวยการร่วม ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน

นายสุเทพกล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ จะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน การท่องเที่ยวและทำมาหากินยังทำได้ตามปกติ เนื่องจากมีข้อห้ามเพียงใช้เส้นทางบางเส้นที่จะนำไปสู่โรงแรมภูเก็ต ลากูนา สถานที่ประชุม ซึ่งผู้ที่เข้าพักก็จะมีแต่ผู้ที่ร่วมประชุม รวมถึงห้ามการพกพาอาวุธอย่างเด็ดขาดเท่านั้น ดังนั้น สุจริตชนคงไม่เดือดร้อน

"ยืนยันว่า เราระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน โดยจะประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯเป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพื่อให้ผู้นำและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแต่ละประเทศ มั่นใจว่าเราจะดูแลความปลอดภัยให้ได้"นายสุเทพกล่าว และว่า จะห้ามชุมนุมในบริเวณที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯอย่างเด็ดขาด แม้แต่รวมตัวกันยื่นหนังสือก็จะไม่อนุญาต

เมื่อถามว่า ฝ่ายข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้การประชุมไม่ปลอดภัยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้องฝ่ายข่าว แค่อ่านหนังสือพิมพ์ เปิดวิทยุทุกวันก็เห็นอยู่แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook