บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เดือด! จวก "เลวบัดซบ" คนอ้างชื่อเรียกคืนเงินช่วยน้ำท่วม 4 พัน

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ขึ้นโรงพักแจ้งจับมิจฉาชีพ อ้างเป็นทีมงานเรียกเงินช่วยน้ำท่วมคืนจากชาวบ้าน 4 พัน บอกเอาไปจ่ายค่าที่พัก-อาหาร พ้อบางพื้นที่ไม่ได้น้ำท่วม แต่มีผู้นำชุมชนเซ็นรับรอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ สภ.เมืองยโสธร นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดาราชื่อดังพร้อมทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญูได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.ท.มิตรชัย บุญล้ำ พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ จากกรณีที่พบว่ามีผู้นำชุมชนและบุคคลบางกลุ่ม แอบอ้างชื่อทีมงานเพื่อเรียกร้องหักค่าหัวคิวเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทักภัยน้ำท่วมซึ่งทีมงานได้รับบริจาค และนำมาแจกช่วยเหลือที่จังหวัดยโสธร

นายบิณฑ์  บรรลือฤทธิ์ เล่าว่า ตนพร้อมด้วยทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญูได้เดินทางมามอบเงินและถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่จังหวัดยโสธรโดยมอบเป็นเงินสดครอบครัวละ 5,000 บาท

และต่อมาทราบว่าได้มีมิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีมาแอบอ้างว่าเป็นทีมงานของตน และเข้าเรียกเก็บเงินคืนจากชาวบ้าน 4,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปดูแลค่าที่พักค่าอาหารและค่าดำเนินการอื่นให้กับตนและทีมงาน

ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเพราะว่าผู้แจ้งกับทีมงานไม่เคยใช้เงินส่วนนี้ แต่มีงบประมาณในการดำเนินการต่างหากและยังมาทราบอีกว่ามีผู้นำชุมชนบางคนได้แจ้งข้อมูลเท็จ ว่ามีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยแต่ไม่เป็นความจริง

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้นำชุมชนบางคนหาเงินหรือแสวงหาผลประโยชน์ จากความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน ครั้งนี้จึงมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สืบสวนสอบสวน ติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายบิณฑ์  กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ตนไม่พอใจมากๆ ที่ได้ยินข่าวที่ผู้นำบางคนหรือผู้ที่มีความคิดหาเศษหาเลยกับชาวบ้านเล็กๆ น้อยๆ จากเงินบริจาคจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อจะเอาเข้าพกเข้าห่อของตนเอง ถือเป็นการคิดวางแผนไว้ล่วงหน้า บางพื้นที่น้ำไม่ท่วมแต่ผู้ใหญ่บ้านกำนันบางคนรับรองมาว่าน้ำท่วม แล้วมารับเงิน ตรงนี้ตนรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีการแอบอ้างว่าทีมงานของตนบางคนไปขอเงินคืน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเช่าโรงแรมค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อันนี้ตนรู้สึกว่ารับไม่ได้ "เลวบัดซบ" ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่รู้สึกโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

กรณีที่ตนเดินทางมาในครั้งนี้ ตนมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ และอยากมาช่วยเหลือผู้ที่ถูกน้ำท่วมจริงๆ และรับมอบเงินไปเลย 5,000 บาท ตนไม่มีความรู้สึกเสียดาย เพราะเป็นเงินของพี่น้องประชาชนบริจาคมาเพื่อช่วยเหลืออยู่แล้ว

แต่มีบางคนคิดชั่ว น้ำไม่ท่วมเอาผู้นำชุมชนมาเซ็นรับรอง ผู้นำชุมชนบางคนไม่รู้เรื่อง ก็ไปเอาที่อื่นมาเซ็นรับรอง ซึ่งตนเองลงมาพื้นที่ตอนนี้รู้ว่าน้ำแห้งหมดแล้ว ไม่สามารถเดินไปสำรวจว่าตรงไหนน้ำท่วมบ้าง ซึ่งจะเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ

ดังนั้นตนอยากให้ผู้นำชุมชนหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่มีความจริงใจ มายืนยันว่าพื้นที่นี้น้ำท่วมจริง ขณะนี้ตนต้องย้อนกลับไปดูว่าพื้นที่ไหนน้ำไม่ท่วม และปรากฏว่ามีผู้นำชุมชนรับรองมาว่าท่วม คุณต้องรับผิดชอบ ตนไม่ยอมเด็ดขาด ตอนนี้ได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อย

ขอยืนยันว่าตนไม่สบายใจเป็นอย่างมาก และไม่ว่าจะเป็นใคร มีตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน จะสนิทกับตนหรือเป็นทีมงานของตนเองก็ตาม ถ้ากระทำความผิดขอยืนยันว่าจะไม่ยอมเด็ดขาด และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ในจังหวัดอื่นๆด้วย

ขอยืนยันว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่เคยรู้สึกอารมณ์เสียขนาดนี้ เหตุการณ์ต่างๆตนสู้ได้ตลอด แต่รู้สึกเหนื่อยใจมากกว่าที่เจอผู้นำชุมชนที่ไม่มีความจริงใจกับเรา หวังแต่ผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ตนรู้สึกเสียใจมากเพราะเงินที่นำมาแจกไม่ใช่เงินส่วนตัวของตน เป็นเงินของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศบริจาคมา 

ซึ่งผู้ที่มารับควรจะได้หรือไม่ผู้นำชุมชนควรมีความจริงใจดูแลพี่น้องประชาชนของตน ไม่ใช่มาแสวงหาผลประโยชน์อย่างนี้ สำหรับการกระทำแบบนี้ ไม่ใช่แค่เป็นการหลอกลวงทีมงาน แต่เป็นการหลอกคนไทยทั้งประเทศที่มีจิตใจอันเป็นกุศล อยากช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน พระเอกคนดังกล่าวปิดท้าย