ตำรวจอังกฤษช็อก 39 ศพตายปริศนา ซุกท้ายรถบรรทุกใกล้ลอนดอน

ตำรวจอังกฤษช็อก 39 ศพตายปริศนา ซุกท้ายรถบรรทุกใกล้ลอนดอน

ตำรวจอังกฤษช็อก 39 ศพตายปริศนา ซุกท้ายรถบรรทุกใกล้ลอนดอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจพบผู้เสียชีวิต 39 ศพ ตายเป็นปริศนาอยู่ท้ายรถบรรทุกคันหนึ่ง จอดอยู่ไม่ไกลจากกรุงลอนดอน โชเฟอร์ถูกจับไปสอบสวน พบเดินทางมาจากประเทศบัลแกเรีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษได้ตรวจพบผู้เสียชีวิต 39 ศพ อยู่ที่ท้ายรถบรรทุกคันหนึ่งที่จอดอยู่ไม่ไกลจากกรุงลอนดอน กลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมปริศนาที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง โดยยังไม่แน่ชัดว่ากลุ่มคนที่ผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นใครและมาจากไหน

ตามรายงานระบุว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 ต.ค.) ตามเวลาในท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลเอสเซกซ์ ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากอยู่ในส่วนพ่วงท้ายรถบรรทุกคันหนึ่ง เมื่อเปิดเข้าไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตทั้ง 39 ศพ เป็นผู้ใหญ่ 38 คน และวัยรุ่นอีกคน โดยที่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นใคร

ทั้งนี้จากการสืบสวนและตรวจสอบเส้นทางของรถบรรทุกคันดังกล่าวพบว่า คนขับได้นำรถบรรทุกมาจอดไว้ที่จุดดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ขับมาจากประเทศบัลแกเรีย ก่อนจะข้ามช่องแคบอังกฤษและผ่านแดนที่ท่าเรือโฮลีเฮด และนำรถจอดมาใกล้ๆ กับนิคมอุตสาหกรรมวอเตอร์เกลด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายวัย 25 ปี ที่ระบุว่าเป็นคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวไปสืบสวนสอบสวนแล้ว หลังเขาต้องเป็นผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมหมู่ในครั้งนี้ แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกแถลงการณ์ที่ยังไม่ยืนยันเหตุโศกนาฏกรรมหมู่ครั้งนี้ว่าเกิดจากเหตุใด เพราะยังต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกสักระยะ

ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นของอังกฤษได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า เหตุดังกล่าวอาจจะเป็นการลักลอบเข้าเมืองของกลุ่มผู้อพยพ ผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจจะเป็นชาวบัลแกเรียและใกล้เคียง ได้หลบซ่อนอยู่ด้านท้ายรถบรรทุก ออกเดินทางไกลและมาถึงชายแดนอังกฤษในวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ความแออัดกันภายในรถอาจจะทำให้พวกเขาเสียชีวิตลง

นอกจากนี้ ปัญหาดังกล่าวยังถูกโยงไปถึงประเด็นเบร็กซิต การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรที่กำลังเกิดขึ้น ที่ทำให้เหล่าผู้อพยพที่เคยเข้าออกสหราชอาณาจักรต้องเล็งหาหนทางเริ่มต้นชีวิตใหม่ในดินแดนที่มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ซึ่งสหราชอาณาจักรก็เป็นที่หมายตาของกลุ่มผู้อพยพและพลเมืองประเทศสมาชิกอียูที่อยู่ห่างไกล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook