สถานทูตฯ กรุงเฮลซิงกิ โพสต์แก้ข่าว "หนุ่มแว่นหัวร้อน" ไม่ใช่ลูกชายเลขานุการโท

สถานทูตฯ กรุงเฮลซิงกิ โพสต์แก้ข่าว "หนุ่มแว่นหัวร้อน" ไม่ใช่ลูกชายเลขานุการโท

สถานทูตฯ กรุงเฮลซิงกิ โพสต์แก้ข่าว "หนุ่มแว่นหัวร้อน" ไม่ใช่ลูกชายเลขานุการโท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิป หนุ่มแว่นหัวร้อนเจ้าของรถเก๋งซีวิคป้ายแดง แสดงพฤติกรรมโมโหเกรี้ยวกราด หลังเกิดเหตุการณ์รถชนกับรถกระบะบริเวณถนนอุทยาน หรือ ถนนอักษะ โดยหนุ่มแว่นได้พูดจา อวดอ้างฐานะร่ำรวยของตน พร้อมดูหมิ่นเหยียดหยามคู่กรณี และยังดูหมิ่นคนไทยรวมถึงประเทศไทยอย่างรุนแรง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์นั้น

>> คลิปหนุ่มขับเก๋งป้ายแดงเคลียร์เหตุรถชน ด่าเหยียดคู่กรณี ลั่น "คนไทยชั้นต่ำทั้งประเทศ"

>> ด่วน! บริษัทไล่ออก "หนุ่มแว่นหัวร้อน" ดูหมิ่นประเทศไทย หลังคลิปแชร์ว่อนเน็ต

>> หนุ่มแว่นหัวร้อน ขอโทษแล้ว คลิปด่ากราดคนไทยชั้นต่ำ วอนอย่าดึงภรรยามาเกี่ยว

หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นชาวเน็ตได้มีการสืบค้นหาเฟซบุ๊กของชายหนุ่มคนดังกล่าว ซึ่งพบว่าเจ้าตัวระบุประวัติไว้ว่า เป็นอดีตผู้ประสานงานฝ่ายสนับสนุนด้านธุรกิจของสภาหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย เรียนที่ ISEE Business School ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส รวมถึงเคยได้รับการศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติฝรั่งเศสกรุงเทพฯ และยังเป็นแอดมินเพจการสอนภาษาฝรั่งเศส และรับสอนภาษาฝรั่งเศสอีก ปัจจุบันทำงานอยู่ที่บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง

ซึ่งกระแสข่าวจากโลกโซเชียลบางแห่ง ระบุด้วยว่า หนุ่มแว่นคนดังกล่าว เป็นลูกชายของเลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปเป็นวงกว้าง

ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ โพสต์ข้อความแถลงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก เพจเฟซบุ๊ก "Royal Thai Embassy, Helsinki" ระบุว่า หนุ่มแว่นในคลิปไม่ใช่ลูกชายของเลขานุการโท 

ตามที่ปรากฏข่าวบนหนังสือพิมพ์และในสื่อออนไลน์ว่า มีบุคคลแสดงพฤติกรรมดูถูก ดูหมิ่นเหยียดหยามคนไทยทั้งประเทศ และถูกระบุว่า เป็นลูกชายของเลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ นั้น

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ขอเรียนว่า ลูกชายของเลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูตฯ คนปัจจุบันยังเรียนอยู่เกรด 8 ณ โรงเรียนท้องถิ่นในฟินแลนด์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบทั่วกัน

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ

23 ตุลาคม 2562

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook