ธนาธร ร่วมถกงบประมาณจากโควตาคนนอก ปัดอนาคตใหม่ขาลงทำแพ้เลือกตั้งซ่อม

ธนาธร ร่วมถกงบประมาณจากโควตาคนนอก ปัดอนาคตใหม่ขาลงทำแพ้เลือกตั้งซ่อม

ธนาธร ร่วมถกงบประมาณจากโควตาคนนอก ปัดอนาคตใหม่ขาลงทำแพ้เลือกตั้งซ่อม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แม้จะมีข้อทักท้วงว่า นายธนาธร ไม่สามารถร่วมเป็นกรรมาธิการฯ ได้ เนื่องจากอยู่ในสถานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราว

โดย นายธนาธร ยืนยันว่าการเสนอชื่อครั้งนี้ เป็นการเสนอในฐานะบุคคลภายนอกไม่ใช่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้เสนอต่อที่ประชุมสภาฯ อย่างขัดเจน ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคได้พิจารณายืนยันแล้วว่าสามารถร่วมเป็นกรรมาธิการฯ ได้ แต่พร้อมยอมรับและเดินออกไป หากมีการพิจารณาแล้วว่า ไม่มีคุณสมบัติตามที่ทักท้วงจริง แต่ทั้งนี้การเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนคนนอกนั้น ไม่ได้ยอมรับว่าตัวเองไม่มีสถานะ ส.ส. เพราะเรื่องความเป็น ส.ส. หรือไม่นั้นยังอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญที่จะรู้ผลในวันที่ 20 พ.ย. อย่างไรก็ตามหากได้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส.ตามปกติ ก็เชื่อว่าไม่มีปัญหาเพราะสัดส่วนนี้เป็นของพรรค

พร้อมกันนี้ นายธนาธร กล่าวถึงการพิจารณางบประมาณว่า ตั้งใจจะเข้ามาดูกระบวนการการพิจารณา เพราะพรรคอนาคตใหม่เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ มีความจำเป็นที่ต้องสั่งสมประสบการณ์ ทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ดังนั้นพรรคจึงเห็นว่าแกนนำควรได้รับการสั่งสมประสบการณ์ตรงนี้ ส่วน ส.ส.คนอื่นๆ ก็มีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนตามแต่ละด้านที่ถนัด 

ผิดหวังแพ้เลือกซ่อม ยันไม่ใช่ขาลงของอนาคตใหม่

นายธนาธร กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จังหวัดนครปฐม ว่า 28,000 เสียงที่จังหวัดนครปฐมเป็นเหล็กเนื้อดี เช่นเดียวกับ ส.ส. 70 คนที่ทำตามมติพรรค จึงมีความภาคภูมิใจว่ายังมีประชาชนยืนกับพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้มีความกังวลใจ ทั้งนี้ จะทำงานทางการเมืองภายใต้พรรคอนาคตใหม่อย่างมั่นคงแน่วแน่ แม้จะพ่ายแพ้ไปประมาณ 9,000 คะแนน แต่ก็ต้องยอมรับว่าพรรคชาติไทยพัฒนาทำงานอย่างเต็มที่และขอแสดงความยินดีด้วย

ส่วนสาเหตุความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นมีการประเมินการทำงานอย่างไรบ้าง เบื้องต้นก็มีการประเมินโดยทีมรณรงค์การเลือกตั้งของพรรคจะส่งผลคำชี้แจงและข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการทำงานของพรรคต่อไป จึงยังสรุปสาเหตุในขณะนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ ตนรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดา แต่ยังมองไม่เห็นว่าเป็นขาลงของพรรค ส่วนผลการเลือกตั้งสะท้อนถึงความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าหากลงไปถามความเห็นประชาชนในพื้นที่ในตลาด ก็คงจะตอบได้ไม่ยาก

ยันสมาชิกมีสิทธิ์มีเสียง ยังไม่พิจารณาโทษโหวตสวนมติพรรค

นายธนาธร ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสัดส่วน ส.ส.ที่พรรคอนาคตใหม่พึงจะมี ตามวิธีคิดคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสมว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 91 วรรคสาม บอกว่าให้นำจำนวน ส.ส.ที่พรรคการเมืองพึงจะมี ลบด้วยจำนวน ส.ส.เขต ก็จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่กรณีการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จังหวัดนครปฐม คะแนนไม่ได้ถูกคิดคำนวณใหม่ เพราะเป็นการเลือกตั้งซ่อมที่ไม่ได้เกิดจากการทุจริต จึงต้องใช้จำนวน ส.ส.พึงมีตามเดิมคือ 81 คน แต่ปัจจุบันมี ส.ส. 80 คน จึงฝากไปยังนักกฎหมายมหาชนว่า ผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปของพรรคอนาคตใหม่จะได้เป็น ส.ส.หรือไม่ และขณะนี้มีพรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.มากกว่าจำนวนที่พึงจะมี ขณะที่พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส.น้อยกว่าจำนวนที่พึงจะมี

พร้อมกันนี้ นายธนาธร กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรคว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองใหม่ เป็นพรรคที่เติบโตได้รวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ยอมรับว่ายังไม่สามารถคัดกรองบุคคลที่มีอุดมการณ์ตรงกันได้ทั้งหมด เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนที่ยังเดินไปต่อกับพรรคเป็นเหล็กเนื้อดีไม่มีสนิม ต่อให้จะถูกซื้อทั้งหมด แต่ก็ซื้อตนและนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ และจะลุกขึ้นมาเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป เพื่อให้ได้สังคมตามที่ฝัน

ส่วนกรณีที่มี ส.ส.ลงมติสวนทางกับมติพรรคนั้น ส่วนตัวเห็นว่ายังไม่มีการพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะติดกับช่วงการเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐมพอดี และยืนยันว่าสมาชิกมีสิทธิ์มีเสียงและคอยถ่วงดุลการตัดสินใจกันภายในพรรค แม้มีสมาชิกบางคนโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวในทำนองว่ามีการแบ่งแยกภายในพรรค แต่ก็มีสมาชิกหลายคนออกมาโพสต์ว่าข้อความต่างๆ เหล่านั้นไม่เป็นความจริงเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook