จีนโร่แถลงยังหนุน "แคร์รี หล่ำ" หลังลือสะพัดเตรียมเปลี่ยนตัวผู้ว่าการฮ่องกง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส ที่ระบุว่า จีนกำลังร่างแผนเปลี่ยนตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แทนนางแคร์รี หล่ำ โดยจีนย้ำว่ายังคงให้การสนับสนุนเธอให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อไป
>> จีนเตรียมพิจารณาหาผู้บริหารเกาะฮ่องกงคนใหม่ แทนที่ "แคร์รี หล่ำ"
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ระบุว่าข่าวลือทางการเมืองดังกล่าวมีแรงจูงใจที่แอบแฝง พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลจีนยังคงสนับสนุนนางแคร์รี หล่ำ และรัฐบาลฮ่องกง
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า รัฐบาลจีนกำลังร่างแผนเปลี่ยนตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แทนนางแคร์รี หล่ำ โดยคาดว่าจีนจะสามารถสรรหาผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนนางหล่ำได้ภายในเดือน มี.ค.ปีหน้า
แหล่งข่าวจากไฟแนนเชียล ไทม์ส ระบุว่า หากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ตัดสินใจผลักดันแผนการดังกล่าว นางหล่ำก็อาจจะลงจากตำแหน่งผู้ว่าการฮ่องกงในเดือน มี.ค.ปีหน้า โดยไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ดังกล่าวจนครบวาระ 5 ปี โดยผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการฮ่องกงแทนนางหล่ำนั้น อาจเป็นนายนอร์แมน ชาน อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกง หรือนายเฮนรี ถัง อดีตหัวหน้าเลขาธิการรัฐบาลฮ่องกง
ไฟแนนเชียล ไทม์ส ยังรายงานอีกว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงยืนกรานว่าจะเดินหน้าการชุมนุมต่อไป ซึ่งขณะนี้ย่างเข้าสู่เดือนที่ 5 แล้ว จนกว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าการฮ่องกง อย่างไรก็ดี ทางรัฐบาลจีนไม่ต้องการทำตามข้อเรียกร้องเพียงเพราะถูกกดดันจากการประท้วงที่รุนแรง แต่ต้องการให้สถานการณ์ในฮ่องกงมีเสถียรภาพก่อนที่จะเปลี่ยนตัวผู้ว่าการฮ่องกง
ขณะที่รัฐบาลฮ่องกงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 เยียวยาภาคธุรกิจถูกกระทบจากม็อบ โดยนายพอล ฉ่าน รมว.คลังฮ่องกง เปิดเผยว่า รัฐบาลฮ่องกงจะออกมาตรการวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (255 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงรัฐบาล จนส่งผลให้เศรษฐกิจฮ่องกงมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 2 ของรัฐบาลฮ่องกง หลังจากที่ได้ออกมาตรการวงเงิน 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (2.4 พันล้านดอลลาร์) ในเดือน ส.ค. เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคค้าปลีกและการท่องเที่ยว หลังประสบกับเหตุการณ์วุ่นวายจากการชุมนุมของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยนาน 5 เดือน
ขณะเดียวกันรัฐสภาฮ่องกงได้ทำการถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าวได้จุดความไม่พอใจต่อชาวฮ่องกงจนลุกลามกลายเป็นการก่อการจลาจลนานกว่า 5 เดือน