ตำรวจฮ่องกงโอด ถูกกลั่นแกล้งสารพัดจากบุคลากรทางการแพทย์

ฮ่องกง, 25 ต.ค. (ซินหัว) — ท่ามกลางความรุนแรงที่กินเวลายาวนานหลายเดือน ตำรวจฮ่องกงต้องแบกรับความกดดันมหาศาล อดทนต่อการโจมตีอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ก่อการจลาจล การถูกใส่ร้ายป้ายสี ไปจนถึงครอบครัวที่ถูกข่มขู่คุกคาม สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อตำรวจบางรายที่เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมและปราศจากความเป็นมืออาชีพ ทำให้เกิดเป็นบาดแผลในใจที่ยากจะเยียวยา

“นับตั้งแต่วันแรกที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตำรวจ ตำรวจฮ่องกงมีภารกิจหนึ่งคือทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อรักษาเสถียรภาพในสังคมและปกป้องความปลอดภัยของสาธารณชน” หลินจื้อเหว่ย (Lam Chi-wai) ประธานสมาพันธ์ตำรวจชั้นผู้น้อยแห่งตำรวจฮ่องกง (Junior Police Officers’ Association of the Hong Kong Police Force) กล่าว และเสริมว่าแม้จะถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในบางครั้ง ตำรวจฮ่องกงยังคงอดทนอดกลั้นอย่างสูง มุ่งมั่นฟื้นคืนระเบียบสาธารณะ และพิทักษ์ประชาชนอย่างเต็มกำลังเสมอ

ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจหลายร้อยนายได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยจนถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน ตำรวจ 6 นายยังคงอยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล

หลินกล่าวว่า “ตำรวจทั้ง 6 นายบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต และการรักษาตัวของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่น”

อย่างไรก็ตาม ตำรวจบางนายถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นมิตรระหว่างการรักษา โดยบุคลากรทางการแพทย์บางรายซึ่งไม่มีความเป็นมืออาชีพ และใช้ความคิดเห็นส่วนตัวทางการเมืองในการทำงาน

หลินระบุว่ามีแพทย์รายหนึ่งเขียนวันลาป่วยเพียง 2 วันให้ตำรวจซึ่งถูกส่งมารักษาหลังถูกผู้ประท้วงทำร้ายจนนิ้วหัก ภายหลังแพทย์คนดังกล่าวได้อธิบายอย่างไร้ความรับผิดชอบว่าเขา “เขียนจำนวนวันผิด” ระหว่างทำการวินิจฉัย

นอกจากนี้ยังมีตำรวจที่ถูกทำร้ายและเข้ารับการรักษาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส แต่ถูกส่งไปยังแผนกทั่วไปและปล่อยกลับบ้านในวันถัดไป ขณะที่โรงพยาบาลบางแห่งขึ้นป้ายคำขวัญโจมตีทางการเมือง

ระหว่างตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อตำรวจบางส่วน

ผู้กำกับการสถานีตำรวจแห่งหนึ่งออกหมายเตือน โดยระบุว่าตำรวจบางนายถูกตะโกนใส่อย่างไร้เหตุผลขณะเฝ้าผู้ต้องสงสัยในโรงพยาบาล และตำรวจบางนายถูกบุคลากรทางการแพทย์ห้ามไม่ให้ใช้เก้าอี้

ข้อความดังกล่าวยังระบุว่าเจ้าหน้าที่การแพทย์ทราบว่าหนึ่งในผู้ที่ถูกคุมตัวเป็นโรคติดเชื้อ แต่กลับไม่แจ้งให้ตำรวจที่มาเฝ้าในโรงพยาบาลทราบ ทำให้ตำรวจนายดังกล่าวไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ทันท่วงที

“ตำรวจหลายนายถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่กลับได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และถูกทำให้อับอาย พวกเขาจะรู้สึกอย่างไรกัน” หลินถาม

หลินกล่าวว่าความวิตกกังวลอีกข้อของตำรวจคือเมื่อไปพบแพทย์ พวกเขาต้องกรอกแบบฟอร์มที่ระบุข้อมูลส่วนบุคคล ตำรวจจึงได้จัดประชุมพิเศษกับองค์การโรงพยาบาล (Hospital Authority) เพื่อลดการล่วงละเมิดโดยไม่จำเป็นและลดปัญหาให้ตำรวจ โดยแนะนำว่าแบบฟอร์มดังกล่าวควรถูกแก้ไขให้ระบุเพียง “อาชีพ” และไม่ต้องระบุ “หน่วยงาน”

องค์การโรงพยาบาลสัญญาว่าจะแก้ไขแบบฟอร์ม แต่หลายเดือนผ่านไป เนื้อหาในแบบฟอร์มยังคงเป็นเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

“เป็นเพราะบุคลากรหน้างานไม่ให้ความร่วมมือ หรือว่าฝ่ายบริหารยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอกันแน่” หลินถาม

“เพื่อความเป็นธรรม ผมอยากจะบอกว่าฝ่ายบริหารขององค์การโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพอาวุโส แพทย์และพยาบาลส่วนใหญ่ มีทัศนคติสมเป็นมืออาชีพและห่วงใยตำรวจ” หลินกล่าว พร้อมเสริมว่า แต่อย่างไรก็ตาม บุคลากรการแพทย์บางรายที่อยู่หน้างานนำทัศนคติทางการเมืองส่วนบุคคลมาปะปนกับการทำงาน ซึ่งกระทบต่อกระบวนการรักษาตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ

หลินกล่าวว่าแม้เหตุการณ์จะเป็นเช่นนั้น แต่ตำรวจก็กลับไปปฏิบัติหน้าที่ทันทีหลังฟื้นตัว และยังคงยืนหยัดรักษาความปลอดภัยให้สาธารณชน

“แม้หนทางเบื้องหน้าจะยากลำบาก แต่ผมเชื่อว่าตำรวจจะก้าวพ้นขวากหนามทั้งหลาย และคอยรักษาเสถียรภาพในสังคมและปกปักษ์ชาวฮ่องกงต่อไป” หลินกล่าวทิ้งท้าย