สุดรันทด เด็กหญิงวัย 7 ขวบ ดูแลพ่อถูกรถชนจนพิการ แม่รับไม่ได้หอบน้องชายหนี
เด็กหญิงวัย 7 ขวบ ยอดกตัญญู ดูแลพ่อถูกรถเฉี่ยวชนจนกลายเป็นคนพิการ แม่รับไม่ได้หอบน้องชาย 3 ขวบ หนีไปทอดทิ้ง ทั้งครอบครัวมีรายได้แค่บัตรคนจน
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 8 บ้านโคกมะเขือ ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พบเด็กหญิงยอดกตัญญู ดูแลพ่อป่วยพิการตามลำพัง ฐานะยากจน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ ด.ญ.จันทิมา หนองบัว อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านอังกุล ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ กำลังดูแลป้อนอาหาร นม และน้ำดื่มทางสายยาง ให้กับ นายสมเดช หนองบัว อายุ 38 ปี ผู้เป็นบิดาภายในบ้านชั้นเดียวหลังคามุงสังกะสี ฐานะยากจน หลังประสบอุบัติเหตุโดนรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่กรุงเทพฯ จนกลายเป็นผู้ป่วยพิการ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
นางเอื้อม ศิริจันทร์ อายุ 65 ปี เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน คนโต คือ นายสมเดช ผู้ป่วย และลูกสาวอีก 1 คน ชื่อ น.ส.บัวลัย ลออใสย อายุ 30 ปี ส่วนสามีตน ได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุ นายสมเดช ซึ่งมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่กรุงเทพฯ มีภรรยา อายุ 27 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ชาย 1 คน อายุ 3 ปี และหญิง 1 คน อายุ 7 ปี คือ ด.ญ.จันทิมา
ซึ่งนายสมเดช ขณะขับรถรับจ้างอยู่นั้น ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์เฉี่ยวชน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งเข้าห้องไอซียู และพักฟื้นนานหลายวัน จากนั้น คนขับรถยนต์คู่กรณีได้มาเยี่ยม ที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งมอบเงินค่าทำขวัญให้กับญาติ จำนวน 5,000 บาท จากนั้นก็เงียบหายไป ต่อมาแพทย์ได้อนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน โดยร่างกายของ นายสมเดช ไม่สามารถขยับตัว ยกแขน – ขา และไม่สามารถพูดจาตอบโต้ใด ๆ ได้ จนต้องเจาะลำคอ เพื่อให้อาหารทางสายยาง
จากนั้น ไม่นานภรรยาก็ตัดใจทิ้งสามีและลูกสาวไปแบบไม่ใยดี และได้หอบเอาลูกชายคนเล็ก อายุ 3 ปี ขอแยกทางหนีไป เนื่องจากรับสภาพสามีไม่ได้ น.ส.บัวลัย น้องสาวจึงได้มาช่วยดูแล ซึ่ง ด.ญ.จันทิมา หลานสาวของตน เป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี ช่วยงานบ้าน ล้างถ้วยจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน และดูแลป้อนข้าว ป้อนน้ำพ่อของตนเอง ด้วยความรักและเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และทำทุกวันไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียว บางวันต้องลาโรงเรียนเพื่อมาดูแลพ่อ ชาวบ้านที่พบเห็นต่างพากันชื่นชมในความกตัญญูและความขยันตั้งใจของ ด.ญ.จันทิมา เป็นอย่างมาก
นางเอื้อม กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ครอบครัวตนได้สูญเสียเสาหลักไป มีรายได้เพียงเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 200 บาท และเบี้ยยังชีพตน จำนวน 600 บาท ส่วน น.ส.บัวลัย ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 300 บาท ไม่สามารถไปทำงานที่ไหนได้ เพราะต้องดูแลพี่ชายที่ป่วย
และนายสมเดชก็มีรายได้จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 300 บาท รวมทั้งครอบครัวมีรายได้เพียงแค่จากการสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1,400 บาท เท่านั้น ไม่มีรายได้อย่างอื่น และนายสมเดช ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากหน่วยงานไหนเลย ทั้งที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่าครึ่งปีแล้ว และตนต้องพานายสมเดช ไปพบแพทย์ที่ รพ.ขุขันธ์ และ รพ.ศรีสะเกษ เป็นประจำ
ซึ่งครอบครัวตนขณะนี้อยู่ในสภาพที่ลำบากมาก ตนจึงขอวิงวอนไปยังผู้ใจบุญทั่วประเทศ โปรดกรุณาเมตตาให้ความช่วยเหลือตนด้วย โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 09-6943-8017 หรือช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีสะเกษ เลขที่บัญชี 413-015046-0