แกะรอยฆาตกรรมเศรษฐินี คาดขู่เอารหัสเอทีเอ็มแล้วฆ่า ในบัญชีมีเงินกว่า 40 ล้าน

แกะรอยฆาตกรรมเศรษฐินี คาดขู่เอารหัสเอทีเอ็มแล้วฆ่า ในบัญชีมีเงินกว่า 40 ล้าน

แกะรอยฆาตกรรมเศรษฐินี คาดขู่เอารหัสเอทีเอ็มแล้วฆ่า ในบัญชีมีเงินกว่า 40 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำงานอย่างหนัก เร่งหาพยานหลักฐานตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่า นางสาววรรณี อายุ 58 ปี เศรษฐินีสายบุญ ลูกศิษย์วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ซ่อนศพไว้ในตู้เย็นภายในทาวน์โฮมหน้าวัด ขณะที่ชุดสืบสวนได้เบาะแสสำคัญหลายอย่างและคาดว่าจะจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้

>> ฆ่าโหด "เศรษฐินีสายบุญ" ยัดตู้เย็น เก๋งคันหรูหาย พี่ชายช็อกเปิดเจอศพน้อง

ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พบข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาคนร้ายได้ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียน 9 กจ 3769 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้ขับรถไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มอีกแห่งหนึ่งที่ จ.ลำปาง ก่อนขับกลับเข้ามาที่ จ.เชียงใหม่  ตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มหลายแห่ง โดยบัญชีแรกไปทั้งหมด 1.2 ล้านบาท  

>> เจอแล้วเบาะแส ฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็น คนร้ายขับรถหรูตระเวนกดเงินไปแล้ว 1.2 ล้าน

ล่าสุด (28 ต.ค.62) เวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้  พบคนร้ายเป็นชาย ไปกดเงินของผู้ตายอีกบัญชีหนึ่งที่ตู้เอทีเอ็มใน จ.ระยอง อีกหลายหมื่นบาท ซึ่งบัญชีนี้พบว่า มีเงินในบัญชีทั้งหมด 40 ล้านบาท โดยคนร้ายพยายามปิดบังใบหน้าและหลบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางที่รถขับผ่าน ขณะที่เดียวกันมีรายงานว่าตำรวจพบผู้ต้องสงสัยที่อาจร่วมกันวางแผนก่อเหตุในครั้งนี้แล้วและอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล

อีกข้อมูลหนึ่งที่ยืนยันว่าหนึ่งในคนร้ายเป็นชาย ก็คือ ในช่วงเช้าวันที่ 18 ต.ค. นายพงศกร พนักงานดับเพลิง เทศบาลตำบลจอมทอง อ.จอมทอง ได้เข้าตรวจสอบบ้านของผู้ตาย หลังได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าผิดปกติและมีคราบเลือดและน้ำเหลืองไหลออกมาจากประตู นายพงศกรได้โทรศัพท์ไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของนางสาววรรณี ในเวลา 10.46 น. ปลายสายมีเสียงผู้ชายรับ อ้างตัวเป็นหลานนางสาววรรณี บอกว่านางสาววรรณีไม่อยู่ ไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินเดีย และจะไปนานหลายสัปดาห์

เมื่อนายพงศกรได้แจ้งให้ทราบว่า ต้องการเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ชายดังกล่าวบอกว่าจะเข้าไปเปิดประตูบ้านให้ในเวลา 17.00 น. แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครมา นายพงศกรโทรศัพท์ไปอีกหลายครั้ง ไม่มีคนรับและปิดเครื่องไปในที่สุด ก่อนที่จะมาพบเป็นศพเมื่อวานนี้

พล.ต.ต.บัณทิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ และ พี่ชายของนางสาววรรณี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในทาวน์โฮมที่เกิดเหตุอีกครั้ง ภายหลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานและลายนิ้วมือแฝงเพิ่มเติมในวันเดียวกัน   

โดยชั้นล่างที่เป็นห้องรับแขก พบว่ากล้องวงจรปิดถูกถอดการ์ดออกไป และ ตรวจสอบภายในห้องนอนชั้นที่สองและชั้นที่สาม โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูล แต่บอกว่าพบลายนิ้วมือจำนวนมากทั่วตู้เย็นที่ซ่อนศพและบริเวณใกล้เคียง และ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบ

จากการตรวจสอบภายในบ้าน ไม่พบร่องรอยงัดแงะ แต่พบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจายบริเวณชั้นล่าง ใกล้กับจุดที่ตู้เย็นวางอยู่ ส่วนทรัพย์สินที่หายไป นอกจากบัตรเอทีเอ็มและรถยนต์แล้ว ยังมีตุ้มหูเพชรอีกคู่หนึ่งที่หายไปด้วย เมื่อประมวลเหตุการณ์แล้ว เชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้จักผู้ตายดี ทำให้รู้ว่าผู้ตายเป็นคนมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐีนี ดูจากการบริจาคทำบุญและซื้อทรัพย์สิน

ด้าน พ.ต.อ.สุคนธ์ เปิดเผยว่า สาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นพบว่าสาเหตุมาจากการขาดอาการหายใจ หากวิเคราะห์จากการสืบสวน เป็นไปได้ว่าคนร้ายน่าจะพยายามขู่เข็ญเพื่อให้ผู้ตายบอกรหัสเอทีเอ็ม ก่อนจะไปลองกดดู ซึ่งระหว่างนั้นผู้ตายอาจจะมีชีวิตอยู่

อย่างไรก็ตามต้องรอผลการชันสูตรเพื่อระบุว่าให้ได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตในเวลาใด ซึ่งอาจเป็นได้ว่าเป็นการใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ แต่คนร้ายอาจพลั้งมือทำให้นางสาววรรณีถึงขั้นเสียชีวิต จึงทำให้มีการอำพรางศพ ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าสายรัดข้อมือหรือเคเบิลไทพ์ที่พบใช้รัดข้อมือผู้ตาย ทำให้เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายวางแผนมาล่วงหน้า

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook