“ยายบุญรอด” หลงป่าสลักพระนาน 9 วัน ครอบครัวเชื่อยังมีชีวิต

ร้องขอกำลังเสริมช่วยยายบุญรอด ออกจากป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี หลังหายไปนาน 9 วัน เพราะเข้าไปเก็บเห็ด ญาติเชื่อยังมีชีวิต

วันที่ 2 พฤศจิกายน 62 ความคืบหน้ากรณีค้นหานางบุญรอด หงอนทอง อายุ 68 ปี เข้าป่าไปเก็บเห็ดในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี แล้วหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 62 แล้วหายตัวไปในวันถัดมาผ่านมาแล้ว 9 วัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ระดมกำลังจากหลายหน่วยงานเข้าค้นหาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบตัวยายบุญรอด

นายวิษณุ ชาญสมร หลานชายของผู้สูญหาย เปิดเผยกับทีมข่าวอีจันว่า ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวยังมีความหวังคาดว่ายายบุญรอดยังมีชีวิตอยู่ เพราะมีประสบการณ์เอาตัวรอดและใช้ชีวิตอยู่ในป่าได้ เนื่องจากเป็นคนหาของป่ามากว่า 30 ปี การตามหามาตลอด 9 วันที่ผ่านมาพบรอยเท้าและ ร่องรอยการทำที่พักค้างคืนในป่า ทำให้ครอบครัวมั่นใจว่ายายบุญรอดกำลังหาวิธีออกจากป่าด้วยตัวเอง และไม่อยากให้คนในโลกโซเชียลสร้างกระแสข่าวสับสนบางคนบอกว่าเจอตัวแล้วซึ่งขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่พบตัว

ในวันเกิดเหตุยายบุญรอบเข้าป่าไปเก็บเห็ดพร้อมกับสามีชื่อนายอนุวัฒน์ สีสด อายุ 52 ปี และเพื่อนบ้านอีก 4 คน โดย นายอนุวัฒน์ สามีของยายบุญรอด เล่าให้หลานชายฟังว่า พบความผิดปกติว่ายายบุญรอด มีอาการเหม่อลอยเรียกไม่ได้สติ เลยเข้าไปตะโกนข้างหูจึงได้สติ และบอกให้เก็บเห็ดรออยู่ในป่า ก่อนสามีจะไปเก็บเห็ดอีกจุดในบริเวณใกล้กัน แต่เมื่อเดิมกลับมาหาก็พบว่ายายบุญรอดหายไป ได้ออกตามหาด้วยตัวเองในป่าเป็นเวลา 3 วัน แต่ไม่พบจึงลงจากเขามาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

ด้าน นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ค้นหาหลังรับแจ้งชาวบ้านโดยประสานงานกำลังทหาร ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครกว่า 40-50 นาย ระดมกำลังค้นหาในพื้นที่โดยใช้วิธีเดินในเส้นทางของชาวบ้านที่หาของป่า และพื้นที่ที่คาดว่าจะเดินหลงทาง พร้อมกับใช้วิธีจุดพลุส่งสัญญาณให้ผู้สูญหายรับรู้แต่ก็ยังไม่พบตัว ในพื้นที่เต็มไปด้วยอุปสรรคซึ่งเป็นป่าเขาสลับซับซ้อนและมีสัตว์ป่าจำนวนมากค่อนข้างอันตราย

ผู้สูญหายนั้นจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ การติดต่อสารสื่อสารทำได้ลำบากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ บางจุดวิทยุสื่อสารไม่สามารถใช้ได้ ต้องรอให้กำลังที่เดินเท้าเข้าไปตั้งแต่ในช่วงเช้ากลับออกมาในช่วงเย็นจึงจะทราบข้อมูล ส่วนรอยเท้าที่พบยังไม่แน่ใจว่าเป็นรอยเท้าของผู้สูญหายหรือไม่ ซึ่งจะมีการปรับแผนค้นหาวันต่อวันตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ต้องการเสบียงอาหาร และน้ำมันเพราะต้องใช้รถจักรยานยนต์วิบากเข้าไปในพื้นที่ หากเดินเท้าต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันจึงจะเข้าไปถึงจุดบริเวณผู้สูญหายได้ และต้องการสุนัขกู้ภัยหรือสุนัขสะกดรอยเข้ามาช่วยตามหายายบุญรอด ซึ่งหากปล่อยไว้นานกว่านี้โอกาสรอดก็จะมีน้อยตามไปด้วย